ไลฟ์สไตล์

คุณค่าของราคา - บองเต่า

THINK TODAY
เผยแพร่ 19 พ.ย. 2562 เวลา 04.00 น. • บองเต่า

 คุณเป็นต่อราคาเก่งไหมครับ?

 ผมเป็นคนต่อราคาเก่งใช้ได้ทีเดียว เก่งในระดับที่อยากเอาไปใส่ไว้ในหมวดความสามารถพิเศษในเรซูเม่ เพราะเป็นสกิลที่ผ่านการฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก ต่อเล็กต่อน้อย ห้าบาทสิบบาทขอให้ได้ต่อ ผมเคยคิดว่าการต่อราคาเป็นเหมือนการต่อสู้ หรือสงครามย่อมๆระหว่างคนซื้อกับคนขาย ต้องมีคนชนะ แล้วก็ต้องมีคนแพ้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 ผมเคยคิดว่าการต่อราคาที่สมศักดิ์ศรี คือการบี้คนขายจนเราได้ราคาที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยิ่งต่ำยิ่งดี บางทีต่อจนราคาถูกกว่าที่เราตั้งไว้ในใจก็ยังบี้ต่อไปเพื่อความคุ้มทุกบาททุกสตางค์ ซึ่งผมคิดและรู้สึกแบบนี้จนกระทั่งผมทำงานสั่งสมประสบการณ์มาได้หลายปี ต้องดีลกับคู่ค้าหลายเจ้า และแน่นอนว่าการต่อราคาก็เป็นเรื่องปกติของธุรกิจด้วย

 วันที่ที่ทำให้ความคิดเกี่ยวกับการต่อราคาของผมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป คือครั้งหนึ่งที่ผมไปนำเสนอโปรเจกต์นึงกับทางลูกค้า หลังจากที่นำเสนอและแก้ไปหลายรอบ ก็มาถึงวันที่เราต้องคุยเรื่องราคา และคราวนี้ผมเป็นฝ่ายตั้งรับที่ต้องถูกต่อราคาเสียเอง แต่สิ่งที่เกิดในห้องประชุมวันนั้นไม่ได้เป็นไปอย่างที่ผมคิด เพราะผมคิดว่าลูกค้าเองก็คงต้องต่อราคากันแบบยับเยินแน่ๆ โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจเริ่มฝืด และใครๆ ก็เริ่มประหยัดงบกัน

 สิ่งที่ลูกค้าคุยกับเราวันนั้นคือ *“พี่ชอบงานนี้นะ พี่คิดว่ากว่าจะมานำเสนอถึงวันนี้ได้มันต้องผ่านมาหลายขั้นตอน มีกระบวนการเบื้องหลังเยอะแยะกว่ามันจะกลายมาเป็นพรีเซนเตชั่นวันนี้ ซึ่งพี่เข้าใจเลยว่ามันมีต้นทุน และมันมีคุณค่าของมันอยู่ ดังนั้น พี่คิดว่าพี่คงขอไม่เป็นคนต่อราคา แต่คุณลองดูแล้วกันว่าราคาเท่าไรเป็นราคาที่จะทำให้เราได้ร่วมงานกันอย่างแฮปปี้กันทั้งสองฝ่าย” *

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 เป็นการต่อราคาที่ผมคาดไม่ถึงจริงๆครับ

 ทีมผมกลับไปทำการบ้านเพิ่มเติม คำนวณต้นทุนกำไรกันอย่างละเอียด แล้วปรับราคานำเสนอลูกค้าอีกครั้ง ซึ่งลูกค้าก็ไม่ต่อราคาอะไรเพิ่มเติมจากราคานี้อีก และเราก็ได้ร่วมงานกันและทำให้งานนี้เป็นงานที่ผมแฮปปี้มากด้วย

 ผมไม่ได้แฮปปี้ที่เราได้กำไรดี แต่ผมแฮปปี้ที่ลูกค้าเห็นคุณค่าในงานของเรา หลายครั้งที่ผลลัพธ์สุดท้ายของงานอาจดูไม่หวือหวา หรือดูเป็นงานเล็กๆที่เหมือนไม่ต้องใช้ฝีมืออะไร แต่จริงๆแล้วมันมีเบื้องหลังและขั้นตอนมากมาย ต้องใช้วิชาชีพ ความชำนาญและฝีมือที่สั่งสมมาเป็นเวลานาน ซึ่งแน่นอนว่าเวลาที่ใช้ไปในการสั่งสมประสบการณ์และวิชาชีพก็ล้วนเป็นต้นทุนทั้งนั้น การที่ลูกค้าเข้าใจถึงจุดนี้นับเป็นสิ่งที่สอนผมให้เข้าใจศาสตร์และศิลป์แห่งการต่อราคาเช่นกัน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 หลังจากเหตุการณ์นี้ สิ่งที่เปลี่ยนไปคือผมแทบไม่ต่อราคางานบริการที่ต้องอาศัยฝีมือเลย เช่น ค่าเปลี่ยนแบตนาฬิกา ค่าติดฟิล์มมือถือ หรือค่าซ่อมรองเท้า จริงอยู่ที่งานพวกนี้ถ้ามองในมุมต้นทุน มันแค่ไม่กี่บาท ฟิล์มติดหน้าจอมือถือชิ้นนึงถ้าเราไปซื้อจากแหล่งขายส่ง เชื่อว่าไม่กี่สิบบาทก็หาซื้อได้ เราเห็นเขาติดฟิล์มให้เราไม่ถึงสองนาทีก็เสร็จ แต่คิดตังค์เราสองร้อยบาทซึ่งก็ไม่แปลกถ้าจะเราจะรู้สึกว่าแพง เพราะเรามองแต่ต้นทุนค่าฟิล์มแผ่นบางๆแค่นั้น แต่สิ่งที่มากกว่านั้นคือค่าฝีมือหรือค่าวิชาชีพ ที่กว่าเขาจะติดอย่างชำนาญในวันนี้ เขาต้องฝึก ต้องทำพังมาไม่น้อย ถ้านับเวลาในการฝึกฝนเก็บประสบการณ์ ผมไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเราต้องใช้เวลามากขนาดไหน กว่าจะเก่งได้แบบที่เขาทำได้

 ลองถึงนักออกแบบ นักวาดภาพ นักเขียน คนซ่อมแอร์ ช่างซ่อมรถ สถาปนิก ช่างเย็บผ้า กว่าเขาจะทำให้สิ่งเหล่านี้กลายเป็นอาชีพได้ เขาต้องใช้กี่ชั่วโมง กี่วัน กี่ปีในการฝึกฝน ซึ่งแน่นอนว่าเราเองไม่มีเวลามากพอที่จะไปทำให้เก่งได้เท่าเขาทันทีได้

 เราไม่เชื่ออีกต่อไปว่าการทำธุรกิจ หรือการซื้อขายสินค้าบริการ จะต้องเป็นการต่อสู้ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ชายที่ต้องมีคนชนะและคนแพ้ที่มีการต่อราคาเป็นอาวุธ ในฐานะคนขาย เราควรเคารพคุณค่าของสินค้าและบริการที่เราจะขาย และในฐานะคนซื้อก็ควรเข้าใจและเคารพต้นทุนและคุณค่าของมันด้วยเช่นกัน

 เราอาจจะเคยได้ยินคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า พระเจ้าควรได้ทุกอย่าง แต่เราไม่เชื่อคำนี้อีกต่อไป เราเชื่อว่าคนซื้อกับคนขายควรเห็นคุณค่าของกันและกัน และเมื่อเราเห็นคุณค่าของกันและกัน เดี๋ยวเราก็จะเจอราคาที่เหมาะสมสำหรับทั้งสองฝ่ายได้เองในที่สุด

ความเห็น 4
  • porr.
    แค่อยากเล่า. ผมเป็นผู้ซื้อ แต่ถามผู้ขายว่ามีกำไรรึเปล่า เพราะผมคำนวนแล้วว่า เค้าไม่ค่อยได้คิดกำไรเพราะอยากช่วยเหลือผม. ประเด็นคือผมขออนุญาตเค้าจ่ายเงินเพิ่ม ส่วนเค้าก็ขอลดราคาเพิ่ม แย่งกันแบบนี้. มันคือเรื่องจริง. โก้วเล้ง เคยบอกว่า เป็นที่หนึ่งของยุทธจักร ไม่ใช่เก่งบุ๋นหรือเก่งบู๊. ประเด็นคือ ต้องมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่.
    30 พ.ย. 2562 เวลา 18.46 น.
  • Yongyuth
    ในเมื่อเราเป็นคนเห็นแก่ตัว เราก็จะกดราคา เวลาไปซื้อของ ให้ ได้ราคา ถูกถูกๆ ที่สุด ส่วนคนขายก็จะ อยาก ขายได้ ในราคา กำลัง มากที่สุด ดังนั้น ถ้าคนขาย และคนซื้อ เป็นคนเห็นแก่ตัวทั้งคู่ มันจึงเกิดการต่อ รองราคา อันเป็นการวัด ระหว่างคนซื้อกับคนขาย แต่สำหรับผู้ที่ มาซื้อและขาย เป็นคนดีทั้งคู่ มันก็แทบจะไม่ต้องต่อราคากันเลย ด้วยทั้งคู่ มีความพอใจ ความพอเพียง ความไม่โลภ ทั้งสองฝ่าย มันจึงซื้อง่ายขายคล่อง ไม่ต้องต่อราคากันเลย บอกมาเท่าไหร่ เขาก็ไม่ตอบ เพราะเขาไว้ใจ ซึ่งกันและกันแล้ว ไม่ทำให้อีกฝ่าย ผิดหว
    27 พ.ย. 2562 เวลา 21.32 น.
  • Rainny L.(อิมกึมบี)🌦
    ใช่จริงๆ คุณค่าของราคา คือคุณค่าของสินค้า ยิ่งเขาให้ราคาเราดีๆแพงๆแสเงว่าเขาเห็นถึงคุณค่าในสินค้าของเรา เราก็ควรจะทำแบบเดียวกันในสินค้าอื่นที่เราเห็นว่ามันสมราคาแล้วอย่าไปกดราคาสินค้าของเขา
    19 พ.ย. 2562 เวลา 13.07 น.
  • บางครั้งการให้ความสำคัญกับในสิ่งที่เราต้องการก่อนที่จะได้มานั้นก็จะทำให้รู้ได้ว่า ในเรื่องของราคานั้นก็คงจะไม่ใช่ปัญหาที่สำคัญเท่ากับในเรื่องของความเป็นมากับในสิ่งที่เราต้องการ.
    19 พ.ย. 2562 เวลา 07.46 น.
ดูทั้งหมด