การแกล้งแซวหรือหยอกล้อเด็ก คงเป็นเรื่องธรรมดาที่คุณพ่อคุณแม่หรือแม้แต่ผู้ใหญ่หลายคนเห็นเป็นเรื่องธรรมดา เพราะการแซวหรือหยอกล้อก็เหมือนเป็นการแสดงความเอ็นดูอย่างหนึ่ง อยากจะให้เด็กรู้สึกสนุก ตลก และมีเสียงหัวเราะคิกคักไปด้วยกัน
แต่จริงๆ การแซว ถึงแม้จะเป็นการพูดกับเด็กน้อยแค่ไหน ยังมีเรื่องต้องระมัดระวังด้วยนะคะ เพราะหากหยอกล้อหรือพูดแซวเด็กไม่ถูกเรื่องหรือบ่อยเกินไป แทนที่จะสร้างความรู้สึกสนุกสนาน ผ่อนคลาย จะกลายเป็นทำให้เด็กรู้สึกไม่ดี เสียความมั่นใจ นำไปสู่การนับถือในตัวเอง ลดลง และอาจจะทำให้เด็กมีพัฒนาการด้านอารมณ์ที่ไม่คงที่ได้
แล้วมีเรื่องอะไรบ้างที่ผู้ใหญ่อย่างเราควรระมัดระวัง ไม่เอามาเป็นเรื่องสนุกในการหยอกล้อเด็กจนเกินพอดี
1. เรื่องน้ำหนัก
ไม่ว่าเด็กจะมีน้ำหนักตัวมากหรือน้อยแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่ควรที่จะแซวหยิบยกเรื่องน้ำหนักหรือขนาดตัวของเด็กมาใช้เป็นเรื่องสร้างเสียงหัวเราะ เพราะจะทำให้เด็กสูญเสียความมั่นใจ ไม่พึงพอใจในร่างกายตัวเอง และมองว่าน้ำหนักหรือขนาดตัวของตัวเองเป็นเรื่องแปลกในสายตาคนอื่น
2. ความกลัว
การหยอกล้อเด็กเกี่ยวกับสิ่งที่เขากลัว นอกจากจะไม่ช่วยให้เด็กมีความกล้ามากขึ้นแล้ว ยังอาจทำให้เด็กกลัวสิ่งนั้นมากกว่าเดิมได้
ดังนั้น หากรู้ว่าเด็กกลัวอะไร ผู้ใหญ่ก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงการทำให้เด็กเกิดความกลัวมากขึ้น แต่ควรช่วยบอกหรืออธิบายเหตุผลว่าสิ่งนั้นน่ากลัวหรือไม่น่ากลัวอย่างไร เพื่อช่วยให้เด็กสามารถเอาชนะความกลัวของตัวเองได้
3. การแต่งตัว
เมื่อเด็กเริ่มโต ก็จะเริ่มอยากแต่งตัวและเลือกเสื้อผ้าในแต่ละวันด้วยตัวเองบ้าง แต่บางครั้งเสื้อผ้าที่เด็กชอบและเลือกมาใส่นั้นก็ช่างไม่เข้ากันหรืออาจจะดูแปลกตาไปบ้าง
แต่การล้อหรือแซวการแต่งตัวของเด็ก ก็เหมือนการทำลายทักษะการตัดสินใจของเด็กไปด้วย เมื่อเด็กรู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจผิดพลาด ก็จะมีความมั่นใจลดลง แถมยังทำให้เด็กไม่กล้าคิดหรือทำอะไรด้วยตัวเองอีกต่อไป
4. ความขี้อาย
เด็กบางคนอาจจะชอบเข้าสังคม ในขณะที่เด็กบางคนอาจมีนิสัยขี้อาย ไม่กล้าเข้าหาหรือเล่นกับคนอื่น ผู้ใหญ่หลายคนอาจจะอยากช่วยกระตุ้นให้ลูกมีความกล้ามากขึ้นด้วยการพูดแซวหรือล้อความขี้อายของเด็กบ่อยๆ แต่ผลที่ได้จะทำให้เด็กยิ่งรู้สึกเขินอายและไม่กล้าเผชิญหน้ากับคนอื่นมากขึ้น
5. ผลการเรียน
การแซวเรื่องผลการเรียนก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งเลยค่ะ เพราะเด็กจะรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่ง ไม่เป็นที่ชื่นชม มองไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง และแทนที่เด็กจะมีกำลังใจอาจทำเขารู้สึกอับอายและท้อแท้มากขึ้นก็เป็นได้
อ้างอิง
องอาจ ตันตยากรณ์ SELF -ESTEEM แปลว่าอะไร หรือว่าคนเขียนข่าวก็ให้คำนิยามไม่ได้(มั่ว)เด็กๆบางคนไม่รู้
คำแปล FUCK WRITER,ASSHOLE,,SOB,,BITCH..
03 ก.ค. 2563 เวลา 05.45 น.
🤓🤓เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มซบเซาเฟดได้ขยายมาตรการผ่อนปรนและทองคำเข้าใกล้ 2,000 จุดผลกระทบอะไรที่มีต่อตลาดหุ้นทั่วโลก? ตลาดหุ้นใดบ้างที่จะได้ประโยชน์จากมันลองฟังการวิเคราะห์โดยนักเศรษฐศาสตร์ฮ่องกงแจ็คID: sandra532
28 ก.ค. 2563 เวลา 06.10 น.
เลี้ยงลูกสมัยใหม่แบบนี้ เลี้ยงเทวดางี้กูว่ามึงเอาขึ้นหิ้งบูชากราบไหว้เหอะว้ะะะ สมัยกูเหรอ โดนเพื่อนรังแกมาฟ้องแม่แทนที่แม่จะสงสารเห็นใจลูก แต่ซ้ำเติมอีก กูก็ยังอยู่มาได้จนแก่ปานนี้ แต่พ่อ แม่สมัยนี้เลี้ยงลูกปะคบปะหงมเหลือเกิ้นนน ลูกบางฅนหาซื้อข้าวแดกไม่เป็นเล้ยยย แกะหนังยางรัดถุงยังไม่เป็นทุเรสไม๊เลี้ยงลูกคุณหนูหยั่งเพือกมึง
03 ก.ค. 2563 เวลา 09.33 น.
นฤนารถ เคยเห็นเด็กที่มี self esteem เปี่ยมล้นมั๊ยครับ
โต้ขึ้นมาพวกนี้สร้างความฉิบหายได้มากกว่าพวกมีน้อยเยอะเลยครับ
สอนอะไรแม่งไม่เชื่อสักอย่าง หาว่าติดกรอบ และเป็นไดโนเสาร์
พอมอบหมายงานให้ทำ ก็ทำไม่ได้ พอถูกตำหนิก็พาลว่า สังคมเฮงซวย
พอถูกลงโทษ บอกมีขบวนการคอยกลั่นแกล้ง เพราะอิจฉาที่เขามีความคิดที่ดีกว่า
03 ก.ค. 2563 เวลา 09.26 น.
ดูทั้งหมด