สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่าสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำคาซัคสถาน ประกาศเตือนพลเมืองจีนในพื้นที่ให้ระมัดระวังการแพร่ระบาดของ “โรคปอดอักเสบ (Pneumonia) ที่ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด” ในคาซัคสถานขณะนี้ ซึ่งมีความรุนแรงมากกว่าไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019
โดยในวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา สถานทูตจีนแถลงการณ์ระบุว่า “อัตราการเสียชีวิตของโรคนี้สูงกว่าโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ โดยกรมอนามัยของคาซัคสถานและหน่วยงานอื่น ๆ กำลังศึกษาเปรียบเทียบ แต่ยังคงไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้” และแนะนำให้พลเมืองหลีกเลี่ยงสถานที่แออัดและสถานที่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
สถานทูตจีนยังระบุด้วยว่า โรคปอดอักเสบดังกล่าวเริ่มแพร่ระบาดในคาซัคสถานมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และมีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงกลางเดือนมิถุนายน โดยกระจุกตัวอยู่ในเมือง Atyrau, Aktobe และ Shymkent ในขณะนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตสะสมแล้วกว่า 1,700 คน ส่วนจำนวนผู้ป่วยในปัจจุบันสูงกว่า 500 คนโดยในจำนวนดังกล่าวมีกว่า 30 คนที่อยู่ในขั้นวิกฤต ซึ่งไม่แน่ชัดว่าโรคปอดอักเสบนี้มีสาเหตุมาจากไวรัสโคโรน่าหรือไวรัสสายพันธุ์อื่นใด
อย่างไรก็ตาม ซีเอ็นเอ็นรายนงานว่า ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขของคาซัคสถานได้ออกแถลงการณ์ในวันนี้ (10 กรกฎาคม) ระบุว่า “กระทรวงสาธารณสุขแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถานขอประกาศอย่างเป็นทางการว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง”
โดยทางการคาซัคสถานยอมรับว่า มีการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากไวรัสที่ยังไม่สามารถระบุได้ แต่การจำแนก “ไวรัสที่ยังไม่สามารถระบุได้” ดังกล่าวเป็นไปตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก ในการระบุประเภทของผู้ป่วยโรคปอดบวม ที่เป็นจากการวินิจฉัยทางคลินิกวิทยาหรือทางระบาดวิทยา โดยยังไม่ได้รับการยืนยันจากการทดสอบในห้องปฏิบัติการ ทำให้ยังไม่สามารถระบุชนิดของไวรัสได้อย่างชัดเจน