ทั่วไป

ปปช.ชี้มูล 'สุเทพ-พล.ต.อ.ปทีป' คดีสร้างโรงพัก มูลค่า 5.8 พันล้าน

กรุงเทพธุรกิจ
เผยแพร่ 23 ก.ค. 2562 เวลา 02.30 น.

เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2562 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประชุมและมีมติชี้มูลความผิด นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อดีตรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) กับพวก คดีการก่อสร้างสถานีตำรวจ (โรงพัก) ทดแทน 396 แห่ง วงเงินกว่า 5.8 พันล้านบาท

คดีนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่งตั้งองค์คณะไต่สวน (กรรมการ ป.ป.ช. 9 รายเป็นองค์คณะ) หลังจากนั้นองค์คณะฯได้มีความเห็นในคดี ก่อนส่งเรื่องให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณา และมีมติชี้มูล ดังกล่าว

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ก่อนหน้านี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เผยแพร่รายชื่อผู้ถูกกล่าวหา แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่

1.กล่าวหา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กับพวก กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) ในการก่อสร้างจำนวน 396 แห่ง วงเงิน 5,848 ล้านบาท เนื่องจากมีเอกชนรายหนึ่งเป็นผู้รับจ้างในปี 2554 โดยยกเลิกแนวทางการจัดจ้างแบบแยกการเสนอราคา เป็นรายภาค และอนุมัติให้รวมสัญญาก่อสร้างเป็นสัญญาเดียว อันเป็นการกีดกัน และเอื้อประโยชน์ให้กับผู้เสนอราคารายใดรายหนึ่ง

2.กล่าวหา พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อดีตรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รรท.ผบ.ตร.) และคณะกรรมการตรวจการจ้างโครงการก่อสร้างอาคารที่พักสถานีตำรวจทดแทน จำนวน 396 แห่ง ของตำรวจภูธรภาค 1-9 และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนใต้ กับพวก

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

สุเทพ เทือกสุบรรณ เคยเข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากับองค์คณะไต่สวน ป.ป.ช. อย่างน้อย 3 ครั้ง โดยยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเอง ทั้งนี้ในการชี้แจงครั้งที่ 3 ระบุว่า กรณีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญา และบริษัทที่ชนะการประมูลไม่สามารถสร้างสถานีตำรวจทั้ง 396 แห่งได้ทันตามกำหนดเวลานั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำสัญญา หรือการอนุมัติเปลี่ยนแปลงวิธีการประมูล เพราะการทำสัญญาว่าจ้างดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบงบประมาณแผ่นดินของสำนักนายกรัฐมนตรีทุกขั้นตอน แต่เรื่องการก่อสร้างล่าช้าเสร็จไม่ทันกำหนด เป็นเรื่องของผู้ควบคุมงานก่อสร้าง ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้

ส่วนกรณีการเปลี่ยนวิธีประมูลแบบรายภาคมาเป็นแบบรวมศูนย์ นายสุเทพ กล่าวว่า ชี้แจงไปหลายรอบแล้วว่า ตอนอนุมัติโครงการครั้งแรก พิจารณาตามที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ขณะนั้น เสนอมา เห็นว่ามีเหตุผลเรื่องการแยกสัญญาออกเป็น 9 ภาค จึงอนุมัติให้ดำเนินการ แต่ต่อมาสมัย พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ เป็น ผบ.ตร. ได้เสนอแก้ไขสัญญาว่าจ้างใหม่เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายงบประมาณปี 2553 ที่ออกมาจากหลังการอนุมัติโครงการครั้งแรกแล้ว โดยระบุว่า หากเป็นโครงการเดียวกันไม่สามารถแยกเป็นหลายสัญญาได้ จึงเป็นที่มาของการแก้ไขสัญญาใหม่ให้ถูกต้องตามระเบียบงบประมาณปี 2553 ทุกโครงการก็ทำตามระเบียบดังกล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 38
  • Tosapol
    แค่ชี้เฉยๆนะครับ สำนวนยังไม่เริ่มทำ กว่าจะส่งสำนวนก็ให้ใกล้ๆหมดอายุความ พอเรื่องถึงศาลก็หมดอายุความพอดี รอดตามเคย
    23 ก.ค. 2562 เวลา 02.59 น.
  • รัตน์(ฉาน)
    ถ้าเป็นอีกฝ่ายป่านนี้เสร็จไปแล้ว
    23 ก.ค. 2562 เวลา 03.30 น.
  • surachit
    ปปช. พึ่งตื่น
    23 ก.ค. 2562 เวลา 02.57 น.
  • อานนท์ สุรินทะ
    ถ้าเอาไอ้เทพเข้าไปอยู่ในคุกได้​ ความวุนวายจะลดลงทันที​ แพ่นดินก็จะสูงขึ้น​ คนๆนี้แหละที่เป็นหัวโจกสร้างปัญหา​ในอดีตที่พ่านมา​คิดดูดีๆพี่น้อง
    23 ก.ค. 2562 เวลา 03.40 น.
  • มาชิโมโร
    อยู่ฝั่งไหนล่ะ ถ้าฝั่งนี้รอไปก่อนน๊ะสำนวนยังไม่พร้อม แต่ถ้าอยุ่ฝั่งโน้น รอเลยไม่เกิน2อาทิตย์ สำนวนพร้อม อัยการพร้อม ศาลพร้อม แล้วบอกลาคนที่บ้านเลยจร้า
    23 ก.ค. 2562 เวลา 03.44 น.
ดูทั้งหมด