ไลฟ์สไตล์

เปิดที่มา “บุรีรัมย์” เมืองเก่าแก่กว่า 2,000 ปี ชื่อนี้มีความหมายว่าอะไร มีความเป็นมาอย่างไร

ศิลปวัฒนธรรม
อัพเดต 17 ม.ค. เวลา 08.56 น. • เผยแพร่ 17 ม.ค. เวลา 08.52 น.
บ้านเมืองบุรีรัมย์ เมื่อ พ.ศ. 2504 ในภาพขบวนแห่กิจกรรมของชุมชนกำลังผ่านสำนักงานไปรษณีย์โทรเลขหลังแรกของบุรีรัมย์ ถนนนิวาศ (นายกำจร ศิริพานิช-เจ้าของภาพ, ภาพจากหนังสือบุรีรัมย์มาจากไหน)

เดิมที “บุรีรัมย์” อาจไม่ได้เป็นหนึ่งในเมืองหลักของภาคอีสาน แต่ปัจจุบันบุรีรัมย์ทวีความสำคัญมากขึ้นทั้งในแง่เศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

ชื่อจังหวัด บุรีรัมย์ มาจากภาษาบาลีและสันสกฤต 2 คำ คือ “บุรี” กับ “รัมย์” บุรี แปลว่า เมือง, รัมย์ แผลงจากคำว่า รมย์ แปลว่า รื่นรมย์ บุรีรัมย์จึงหมายถึง“เมืองอันน่ารื่นรมย์” มีความเป็นมาและพัฒนาการที่สำคัญๆ พอสรุปได้ดังนี้ หลัง พ.ศ. 500 บริเวณบุรีรัมย์ ลุ่มน้ำมูล และทิวเขาพนมดงเร็ก มีคนตั้งหลักแหล่งทั้งบริเวณที่ต่อไปจะเป็นบ้านเมืองใกล้ห้วยจระเข้ นับถือศาสนาผี และมีร่องรอยถลุงเหล็กอยู่ที่ ต. ถลุงเหล็ก อ. เมืองบุรีรัมย์ จ. บุรีรัมย์

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

พ.ศ. 1000 มีรัฐเจนละ แรกสุดในอีสาน อยู่บริเวณโขง-ชี-มูล ที่อุบลราชธานี, อำนาจเจริญ, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, ถึงบุรีรัมย์กับดินแดนทางทิวเขาพนมดงเร็ก โดยเฉพาะบริเวณเมืองบุรีรัมย์มีชุมชนขยายใหญ่มาแต่อดีต และพบจารึกพระเจ้าจิตรเสนที่ถ้ำเป็ดทอง อ. ปะคำ จ. บุรีรัมย์ หลัง พ.ศ. 1500 บรรพชน “ขอม” ที่ลุ่มน้ำมูล ก่อสร้างปราสาทหินสำคัญในภาคอีสานและในบุรีรัมย์ เช่น ปราสาทพนมรุ้ง, ปราสาทพิมาย ฯลฯ

นอกจากการสร้างปราสาทแล้ว ยังขยายมาควบคุมเส้นทางการค้าด้านลุ่มน้ำโขง ลุ่มน้ำชี และลุ่มน้ำมูล หลัง พ.ศ. 1700 บุรีรัมย์ รวมทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขง ลุ่มน้ำชี และลุ่มน้ำมูล ที่อยู่ในอิทธิพลทางการเมืองและวัฒนธรรมของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มีบ้านเล็กเมืองน้อยเรียงรายหนาแน่นตามเส้นทางการค้า หลัง พ.ศ. 1800 บริเวณบุรีรัมย์ เขาพนมรุ้ง และพื้นที่ใกล้เคียง เป็นศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ มีเจ้าเมืองปกครองสืบเนื่อง เรียกต่อเนื่องกันว่า “เมืองพนมรุ้ง”

ก่อน พ.ศ. 1981 เจ้าเมืองพนมรุ้งยอมอ่อนน้อมต่อเจ้าสามพระยา กษัตริย์กรุงศรีอยุธยา (ครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 1967-1981) พร้อมกันกับเจ้าเมืองพิมาย เนื่องจากทราบข่าวว่าเจ้าสามพระยากำลังเตรียมทัพจะมาตี พ.ศ. 2320 บรรดา “เขมรป่าดง” เมืองตะลุง (อ. ประโคนชัย จ. บุรีรัมย์) เมืองสุรินทร์, เมืองสังขะ, เมืองขุขันธ์ สวามิภักดิ์พระเจ้าตากสิน กรุงธนบุรี

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

พ.ศ. 2433 เมืองบุรีรัมย์เป็นเมืองเอก 1 ใน 16 หัวเมืองลาวฝ่ายเหนือ มีที่ว่าการอยู่เมืองหนองคาย พ.ศ. 2436 รัชกาลที่ 5 โปรดให้เมืองนครราชสีมา, เมืองบุรีรัมย์, เมืองนางรอง, เมืองชัยภูมิ รวม 4 เมือง เป็น“มณฑลนครราชสีมา” มีที่ว่าการอยู่ที่เมืองนครราชสีมา พ.ศ. 2442 เรียกชาวบุรีรัมย์เป็นคน “ชาติไทยบังคับสยาม” อันเป็นผลจากฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงตกเป็นของฝรั่งเศส ส่วนฝั่งขวาเป็นของสยาม ต้องแสดงลักษณะสยามให้ปรากฏเป็นทางการ เพื่อป้องกันมิให้ถูกฝรั่งเศสคุกคามข้ามโขงมายึดครองอีก

พ.ศ. 2456 รัชกาลที่ 6 โปรดฯ ให้รวมมณฑลอุดรธานี, มณฑลอุบลราชธานี และมณฑลร้อยเอ็ด เป็น “ภาคอีสาน” พ.ศ. 2468 รถไฟจากกรุงเทพฯ ถึงบุรีรัมย์เป็นครั้งแรก หลังจากทางรถไฟสายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา แล้วเสร็จ และเปิดเดินรถเมื่อ พ.ศ. 2443 ต่อมา พ.ศ. 2460 เริ่มก่อสร้างทางรถไฟต่อจากนครราชสีมา ไปยังอุบลราชธานี ผ่านบุรีรัมย์

พ.ศ. 2475 เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตย จังหวัดบุรีรัมย์มีผู้แทนราษฎรคนแรก คือ พันตรี หลวงศักดิ์รณการ (นาก ปิตะเสน)

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

พ.ศ. 2476 ยกฐานะเมืองบุรีรัมย์ เป็นจังหวัดบุรีรัมย์ ไม่ต้องขึ้นต่อเมืองนครราชสีมาอีกต่อไป

พ.ศ. 2482 ชาวบุรีรัมย์ที่ถูกเรียกว่า ลาว, ส่วย, เขมร มาแต่เดิม ต่อไปนี้เป็น “คนไทย” หมดทุกคน เพราะรัฐบาลเปลี่ยนชื่อราชอาณาจักรสยามเป็น “ประเทศไทย” ตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2482 แล้วให้ราษฎรเป็นคนไทย

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่

หมายเหตุ : บทความนี้เขียนเก็บความจาก สุจิตต์ วงษ์เทศ. บุรีรัมย์มาจากไหน?, สำนักพิมพ์แม่คำผาง พิมพ์ครั้งที่ 1 ธันวาคม 2553.

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 31 กรกฎาคม 2566

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เปิดที่มา “บุรีรัมย์” เมืองเก่าแก่กว่า 2,000 ปี ชื่อนี้มีความหมายว่าอะไร มีความเป็นมาอย่างไร

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com

ดูข่าวต้นฉบับ