เกษตรกรหัวใส ใช้พื้นที่ข้างบ้าน เลี้ยงปลาดุกในกระชังบกเสริมรายได้ช่วงโควิด
ทางเลือกใหม่สำหรับชาวบ้านที่ อ.เมือง จ.ราชบุรี มีเนื้อที่เล็กน้อยข้างบ้าน นำปลาดุกเลี้ยงในกระชังบกใช้เวลาเพียง 3-4 เดือนจับมาบริโภคได้ เหลือนำไปแปรรูปขายได้อีก ลงทุนหลักพันได้กำไรหลักหมื่น
เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ไปดูตัวอย่างความสำเร็จของชาวบ้านที่ ต.ห้วยไผ่ อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งใช้พื้นที่ข้างบ้านเพียงไม่กี่เมตรเลี้ยงปลาดุกในกระชังบกลักษณะเป็นตาข่ายสีฟ้าอยู่ด้านบน ส่วนด้านล่างเป็นผ้ายางอย่างหนา โดยแบ่งเป็นรุ่น ๆ มี 2 กระชัง โดยชุดแรกได้จับขายไปแล้ว ส่วนหนึ่งนำมาแปรรูปขายผ่านทางออนไลน์ มารุ่นนี้เลี้ยงมาประมาณ 3 เดือนเศษ เป็นปลาดุกที่เลี้ยงง่าย โตเร็ว นำผักตบชวามาใส่ไว้เพื่อให้หลบอาศัย จะให้อาหารวันละมื้อ และเปลี่ยนน้ำเพื่อให้ปลาเจริญเติบโตดี ไม่มีกลิ่นคาว
นายไชยวิทย์ บัวงาม อยู่บ้านเลขที่ 123 หมู่ 4 ต.ห้วยไผ่ อ.เมือง จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า ปลาที่เลี้ยงเป็นปลาดุกที่สะอาด ถ่ายเทน้ำได้สะดวก กรณีน้ำเสียก็ให้ถ่ายน้ำออก แล้วเติมน้ำเข้าไปใส่ใหม่ ทำให้ไม่มีกลิ่นคาวปลา แต่หากเลี้ยงเป็นบ่อน้ำหรือสระน้ำใหญ่จะถ่ายน้ำไม่ได้ โดยการเลี้ยงปลาในกระชังบกจะเลี้ยงอาหารเม็ดปลาดุก มีข้อดีคือ ไม่มีเมือก มีกลิ่นคาวปลา
สำหรับพันธุ์ปลาดุกซื้อมาขนาดเท่านิ้วก้อยตัวละ 60 สตางค์ เลี้ยงมา 3-4 เดือน ก็จับขายได้ อย่างที่เห็นนี้อายุประมาณ 3 เดือนเศษ เริ่มทยอยจับขายไปบ้างแล้วกิโลกรัมละ 50 บาท อย่างกระชังใหญ่จะเลี้ยงจำนวน 2,000 ตัว แต่หากกระชังเล็กอีกชุดที่เลี้ยงข้างๆ ปล่อยปลาได้ 1,000 ตัว ปลาดุกตัวใหญ่ จะมีน้ำหนักประมาณ 4-5 ตัว/ กก. นอกจากนี้ยังสามารถนำไปแปรรูปเป็นปลาดุกแดดเดียว ปลาดุกร้า ลูกสาวจะเป็นคนทำและขายผ่านทางเฟซบุ๊กกิโลกรัมละ 180 บาท จึงถือเป็นข้อดีกับชาวบ้านที่มีพื้นที่เล็กน้อย ใช้เพียงพื้นที่รอบ ๆ บ้านก็สามารถเลี้ยงปลาไว้บริโภค เหลือก็ยังขายได้ เลี้ยงง่ายโตเร็วไม่ยุ่งยาก แค่ให้อาหารปลาดุกกินวันละ 1 ครั้ง สามารถทำงานอื่นได้ หมั่นดูน้ำที่เลี้ยงอย่าให้เสีย ให้สังเกตหากปลาดุกลอยหัวก็ให้รีบถ่ายเทน้ำออกแล้วเติมน้ำใหม่ลงไป หรือ อาจจะถ่ายน้ำเดือนละ 1 ครั้งก็ได้ จะทำให้ปลาเจริญเติบโตดี
นายไชยวิทย์ กล่าวอีกว่า สำหรับต้นทุนการเลี้ยงจะมีตาข่ายกระชังปลาสั่งซื้อทางออนไลน์ราคา 1,500 บาท กว้าง 3.5 เมตร ยาว 5 เมตร พันธุ์ปลาดุกอุยตัวละ 60 สตางค์ เลี้ยงในกระชังใหญ่จำนวน 2,000 ตัว กระชังเล็ก 1,000 ตัว สำหรับค่าอาหารช่วง 3 เดือนหมดไปจำนวน 6 กระสอบ ๆ ละ 410 บาท โดยลงทุนครั้งแรกจะมีค่าตาข่ายกระชังปลาการเลี้ยง แต่พอเลี้ยงครั้งที่ 2 ก็สามารถเลี้ยงได้ต่อไปได้เลย เหลือลงทุนแค่ค่าอาหารกับพันธุ์ปลา วันไหนอยากกินก็จะไปทำกินเป็นกับข้าวได้ ช่วงโควิดมองว่า สามารถอยู่ได้ เพราะมีปลาเลี้ยงเอง และยังมีชาวบ้านมาสั่งซื้อเรื่อย ๆ ก็จะจับขายมีรายได้อยู่ตลอด
นอกจากนี้ที่บ้านยังปลูกผักไว้กินเองหลายชนิด เช่น มะนาว มะละกอ มะรุม ฟัก ผักคะน้า พริก มะเขือ ด้านข้างยังเลี้ยงไก่ไข่ ไก่บ้าน และห่านที่เลี้ยงเอาไว้เฝ้าบ้านหากมีผู้บุกรุกอย่างสุนัข งู และสัตว์อื่น ๆ เข้ามาในพื้นที่ก็จะส่งเสียงร้องเสียงดังเพื่อให้เกิดความกลัว อีกทั้งมี พืชผัก ผลไม้ ที่ปลอดภัย ส่วนปลาที่เลี้ยงไว้ทำกินเป็นอาหารบริโภค ช่วยลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ พออยู่ พอกิน ในช่วงโควิดที่จะต้องอยู่กันอย่างพอเพียง
เก่งครับ
25 ม.ค. 2565 เวลา 21.57 น.
KomsitDeeying สำหรับการเลี้ยงชีพในการครองเรือนก็ดีครับ บาปใครบาปมัน เราไม่ฆ่า ก็ซื้อที่เขาทำสำเร็จมากินก็พอ เราก็ไม่บาป ใครจะว่า ผู้ซื้อก็บาป ให้ไปศึกษาประวัติและคำสอนของพระพุทธเจ้าดูนะครับ ไม่มีการระบุไว้ในคำสอนและในประวัติ
25 ม.ค. 2565 เวลา 16.07 น.
ดูทั้งหมด