หลังจากทุ่มงบ 10 ล้านจัดงานวิวาห์ให้หลายคนต้องอิจฉาตาวาว สำหรับนักแสดงพิธีกรสาว แอร์ ภัณฑิลา กับสามีสุดหล่อ ไอซ์ รัชชสิทธิ์ ล่าสุดเธอก็ได้มาอัปเดตชีวิตหลังแต่งงานกับพิธีกรตัวแม่ หนูแหม่ม สุริวิภา ในรายการโต๊ะหนูแหม่ม ว่าตอนนี้ได้ฝากไข่เตรียมมีทายาทเป็นที่เรียบร้อย ชีวิตตอนนี้เรียกได้ว่ามีความสุขมาก แต่กว่าจะผ่านจุดนี้มาได้ เธอเคยเครียดสะสมเพราะภาวะซึมเศร้าเกือบจะคิดสั้นมาแล้ว
ทุ่มทุน 10 ล้านจัดงานแต่ง ?
"หนูคิดว่าไม่ถึง แต่เกือบถึง 10 ล้าน ก็คือจ่ายมัดจำไปเรื่อย พอมานั่งสรุปค่าใช้จ่ายก็ 8-9 ล้านแล้ว นี่ขนาดพยายามลืมนับบางอย่างไปด้วย เพราะกลัวทำใจไม่ได้ ซึ่งตอนแรกตั้งงบเอาไว้แค่ 5 ล้าน ยอมรับว่าขาดทุน"
ทำไมใช้งบเยอะขนาดนั้น ?
"เรามีความฝันว่าอยากที่จะจัดงานเล็กๆ แต่อยากเจอแขกอย่างทั่วถึง เลยแบ่งย่อยๆ หลายกลุ่ม แต่พอเล็กๆ มันหลายกลุ่มจริงๆ งบประมาณที่ตั้งไว้เลยบานปลาย ไม่ว่าจะเป็นค่าดอกไม้ ค่าอาหาร เยอะแยะไปหมด"
แพลนเก็บไข่เอาไว้เรียบร้อย ?
"หนูเตรียมพร้อมด้วยการเก็บไข่เอาไว้แล้ว และมีการตรวจสุขภาพต่างๆ พร้อมกับจะไปปรึกษาพระเพื่อหาฤกษ์ในการปล่อยไข่ เพราะรู้สึกว่าถ้าอยากจะเลือกเราต้องเลือกในสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเรา"
งานแต่ง 10 ล้าน ของ แอร์-ไอซ์
เล็กพริกขี้หนูไม่ได้มีอาชีพเดียว ?
"สมัยก่อนหนูคิดว่าของลิขสิทธิ์มีราคาสูงที่หลายคนจับต้องได้ยาก หนูเลยเอาแบรนด์ซาลิโอ้มาทำให้กลุ่มที่ชื่นชอบ สามารถจับต้องได้ง่ายๆ ด้วยการผลิตสินค้าราคาถูกกว่าของก๊อป แม้กำไรจะน้อยกว่าแต่เราเลือกที่จะเน้นปริมาณ มันถึงจะคุ้ม ซึ่งเราก็มีหุ้นส่วนที่เก่งมากๆ สร้างกำไรให้กับบริษัทได้พอสมควร แต่ต้องใช้เวลา รวมไปถึงธุรกิจร้านดอกไม้ ซึ่งจะมีอยู่แค่ 2 ช่วงต่อปีที่ขายได้ และร้านทำเล็บ ร้านทำผม พร้อมกับมีเมนูอาหารให้คนที่มานั่งทำสวยได้ทานรอ และอีกหลายๆ ธุรกิจที่แพลนจะเปิดหลังจากนี้ เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่ชอบดูแลสุขภาพ"
ทำศัลยกรรมเปลี่ยนจนจำไม่ได้ ?
"คือหนูจะเป็นคนค่อยๆ ทำ อย่างล่าสุดที่บินไปเกาหลี เราก็ไปฉีดไขมันมา แต่ยอมรับว่าไม่ได้ไปเสริมแต่งอะไรเพิ่ม ถามถึงราคาก็ไม่ถึงกับทุ่มเงินเป็นล้าน เราจะค่อยๆ ทำไปทีละนิด ทีละ 3 แสน 5 แสน อะไรประมาณนี้"
หลายคนยังไม่รู้ว่าเราเป็นซึมเศร้า ?
"ใช่ ทุกคนจะมองว่าเราเป็นคนตลก อยู่ด้วยแล้วสนุก ซึ่งตอนที่เป็นคือช่วงโควิด เรามีความเครียดมาจากที่ไม่ค่อยได้เจอใคร พออยู่บ้านเราก็เหงา แต่ในตอนนั้นก็พยายามเป็นอาสาหาเตียงช่วยผู้ป่วยโควิด จนตอบไลน์ไม่ทัน พอช่วยเขาไม่ได้ไม่ประสบความสำเร็จ เราก็ยิ่งเสียใจจนร้องไห้ทุกวัน มันเริ่มสะสมมาเรื่อยๆ ถึงขั้นเห็นภาพที่ตัวเองผูกคอตายทุกวันก่อนนอน ในตอนนั้นพยายามคิดถึงแม่อย่างเดียวว่าสิ่งที่เราคิดมันผิด และตอนนั้นเราตรวจสุขภาพเป็นประจำอยู่แล้ว และผลช่วงนั้นคุณหมอก็บอกว่าสารในสมองเรามีโอกาสที่จะเกิดโรคซึมเศร้านะ"
รับมือกับมันยังไง ?
"หมอแนะนำให้เราหยุดรับงานอาสาไปก่อน เราก็เริ่มถอยและไม่เสพข่าวเลย ถ้าใจไม่แข็งจริงยืนอยู่ตรงนี้ยากมาก เพราะเราเป็นคนแคร์ความรู้สึกคนอื่นมากๆ"