เมืองไทย 360 องศา
พิจารณาจากสถานการณ์ในวันนี้เริ่มได้เห็นแนวโน้มที่จะเกิดวุ่นวายได้ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากหลังการเลือกตั้งแล้ว "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ขณะเดียวกันนั่นก็หมายความว่า "ฝ่ายพวกนักประชาธิปไตย"ที่เชิดชูบูชา ทักษิณ ชินวัตร ผ่านทางพรรคการเมืองเครือข่ายต่างๆไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แม้ว่าจะมีบางพรรคจะได้รับการเลือกตั้งมีจำนวน ส.ส.มากที่สุดก็ตาม
หากรูปการณ์เป็นแบบนี้จะก่อให้เกิดความ"จงใจ"ให้เกิดความวุ่นวายตามมาได้หรือไม่ โดยเฉพาะต่างฝ่ายต่างก็อ้างความชอบธรรม อ้างเสียงสนับสนุนจากประชาชนและตัวแทนของประชาชน
อย่างที่เข้าใจกันว่าการเลือกตั้งคราวนี้ล้วนมี"เดิมพันสูง"ทุกฝ่ายในกลุ่มขั้วการเมืองหลัก มันเหมือนกับการ"สู้ครั้งสุดท้าย" หรือว่าจะสู้ครั้งนี้ได้ครั้งเดียวเท่านั้น
เริ่มจากกลุ่มของ "บิ๊กตู่"ทั้งในนามของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และผ่านทางพรรคพลังประชารัฐรวมทั้งพรรคการเมืองพันธมิตรในสนามเลือกตั้งตามกติกาใหม่ แน่นอนว่าหากพรรคเหล่านี้พ่ายแพ้การเลือกตั้งหรือไม่สามารถรวบรวมเสียง สส.จนมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้แล้ว แม้ว่าจะเชื่อว่าจะมีเสียง ส.ว.ตุนอยู่ในมือแล้ว 250 เสียงก็ตาม แต่ในการบริหาร การเสนอกฎหมายในสภาผู้แทนฯต้องใช้เสียง ส.ส.สนับสนุนเป็นหลัก
แม้ว่าเวลานี้หากพิจารณาจากผลสำรวจจากสำนักหลักๆต่างๆล้วนออกมาตรงกันว่า "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนให้กลับมาเป็นนายกฯมาเป็นอันดับหนึ่ง เหนือแคดิเดตนายกฯจากพรรคการเมืองอื่น เช่น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จากพรรคเพื่อไทย และทิ้งขาดคนอื่นๆ อย่าง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จากพรรคอนาคตใหม่ และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จากพรรคประชาธิปัตย์
แต่ในผลสำรวจดังกล่าวมันก็มีสิ่งที่ทับซ้อนกันอยู่ เพราะกลายเป็นว่าพรรคการเมืองที่จะชนะการเลือกตั้งมีจำนวน ส.ส.ในสภามากที่สุดกลายเป็นพรรคเพื่อไทย ตามมาด้วยพรรคพลังประชารัฐ ที่ขณะสำรวจอยู่นั้นยังใกล้เคียงอยู่กับพรรคอนาคตใหม่ อย่างไรก็ดีความนิยมดังกล่าวนี้อาจพลิกไปอีกด้านก็ได้หลังจากเกิด"ปรากฏการณ์เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์"ที่ผ่านมา ที่ทำให้เกิด"กระแสรวมศูนย์"ไปที่"เอาและไม่เอาบิ๊กตู่"อย่างเข้มข้น
สิ่งที่ปรากฏให้เห็นแล้วชัดเจนก็คือ การดาหน้ารุมถล่ม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นจุดเดียว นั่นก็ย่อมพิสูจน์กันในทางการเมืองว่า "มีความหมาย" เพราะมิเช่นนั่นคงไม่มีใครมาใส่ใจ เพราะเวลานี้แทบทุกพรรคทุกฝ่าย นอกเหนือจากการพูดจาให้สัมภาษณ์โจมตีกันแบบรายวันแล้ว ยังใช้แง่มุมทางกฎหมายไปร้องเรียนกับทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อให้เกิดความพะวักพะวงเกิดขึ้นในช่วงการรณรงค์หาเสียงหรือเปล่า
แต่เมื่อผลสำรวจออกมาแบบนี้และหากผลการเลือกตั้งออกมาตามนั้นจริงๆ มันก็ส่อเค้าวุ่นวายเหมือนกัน เพราะแม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะได้จำนวน ส.ส.มากเป็นอันดับหนึ่ง แต่ไม่สามรรถรวบรวมเสียง ส.ส.สนับสนุนจากพรรคการเมืองอื่นได้ถึง 376 เสียง แต่นั่นต้องอยู่ในกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ที่ถือว่าเป็น"ตัวแปร"ไม่ยอมไปเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทย และไม่ต้องไปพูดถึงพรรค"ไทยรักษาชาติ"ว่าจะถูกยุบหรือไม่
เมื่อสถานการณ์ส่อเค้า"ล็อก"ไว้แบบนี้ นั่นคือ ฝ่ายสนับสนุน "บิ๊กตู่"สามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้ เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่อีกฝ่ายคือฝ่ายพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งได้จำนวน ส.ส.มากที่สุดแต่รวบรวมเสียงข้างมากไม่ได้ หากเป็นแบบนี้มันก็ส่อเค้าป่วน เพราะพวกเขาจะอ้างความชอบธรรม ขณะเดียวกันก็จะโหมโจมตีสร้างวาทกรรม"ใช้อำนาจรัฐโกงเลือกตั้ง"มันก็มีแนวโน้มเกิดขึ้นได้ หากพิจารณาจากบรรยากาศการเคลื่อนไหวเท่าที่เห็นกันอยู่
แต่นั่นไม่เท่ากับว่ามันอาจจะเกิดจากความ"จำเป็นต้องป่วน"หรือเปล่า เพราะหากพรรคเพื่อไทยซึ่งสังคมรับรู้กันว่าสนับสนุน ทักษิณ ชินวัตร ดำเนินทุกวิถีทางเพื่อหวังเป็นรัฐบาล ช่วงชิงอำนาจรัฐกลับมา ดำเนินกลยุทธ์ที่เรียกว่า "แตกแบงก์พันเป็นแบงก์ร้อย"เกิดเป็นพรรคตระกูลเพื่อ หรือเกิด"ปรากฎการณ์ 8 กุมภาฯ"ก็ยังกล้าทำ และหลายคนเชื่อว่า ทักษิณ ชินวัตร อยู่เบื้องหลัง และยังเชื่อว่าเป้าหมายที่ซ่อนไว้นอกเหนือจากต้องการอำนาจรัฐแล้ว ยังมั่นใจว่าโอกาสสำหรับนิรโทษกรรมมีความเป็นไปได้มากที่สุด
ดังนั้นในกรณีของพรรคไทยรักษาชาติที่พังครืนลงมาแล้ว ก็ยังเหลือให้ลุ้นจากการเลือกตั้งจากพรรคเพื่อไทย แต่ในเมื่อไปผูกติดกับพรรคไทยรักษาชาติที่บังเอิญว่ามีการหลีกทางกันให้ในหลายเขตเลือกตั้งทำให้เป้าหมายจากการ"แตกแบงก์พัน"มีปัญหา ซึ่งเมื่อพิจารณาจากนาทีนี้ยังแทบมองไม่เห็นหนทางที่ฝ่ายที่เรียกตัวเองว่า"ฝ่ายประชาธิปไตยของทักษิณ"จะมีโอกาสได้จัดตั้งรัฐบาลได้เลย
ถึงได้บอกว่ามันเริ่มมีสัญญญาณบางอย่างที่เริ่มก่อหวอดขึ้นมา โดยเฉพาะการโหมวาทกรรมการใช้อำนาจรัฐโกงเลือกตั้ง เริ่มโจมตีผู้นำกองทัพมากขึ้น หรือแม้กระทั่งเสนอนโยบายยั่วยุกอง
ทัพในช่วงนี้แบบผิดปกติ หากพิจารณากันแบบตั้งข้อสังเกตก็ต้องบอกว่ามันเหมือนกับเห็นสัญญาณล่วงหน้าบางอย่าง นั่นคือสร้างสถานการณ์ป่วนหลังเลือกตั้งหรือเปล่า !!
pruitipong789 มึงก็ลองออกมาป่วนเมืองดูแล้วกันไอ้พวก
ขี้ข้าคนหน้าเหลี่ยมทั้งหลาย กูรับรองได้เลย
ว่าคราวนี้ "นรกบนดิน"มันมีจริงๆสำหรับพวกมึง
เพราะพวกมึงรู้จักชายชาติทหารที่ชื่อ"บิ๊กแดง"
น้อยเกินไป...
19 ก.พ. 2562 เวลา 05.48 น.
ตลก. มันเหรือจะได้กลุ่มพรรคใบพันหรอ
หนักแผ่นดินตัวพ่อ. ไอเก๋าทักษิณาเจ้ง
19 ก.พ. 2562 เวลา 03.51 น.
Benyapa ka เข้าข้างเผด็จการอีกแล้ว
19 ก.พ. 2562 เวลา 02.35 น.
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ.. หนักแผ่นดินมี.3.ประเภท.1.โกงข้าว.2.ล้มจ้าว.3.เผาบ้านเผาเมืองเผาศาลากลางรู้ยังให้เอาไปคิด
19 ก.พ. 2562 เวลา 02.27 น.
Ming-78 เลือกตั้ง = ประชาธิปไตย
แค่นั้น
แล้วไอ้อีนักการเมืองก็มาโกงกิน
เหมือนเดิม วนไป
โดยอ้างเสียงประชาชน
19 ก.พ. 2562 เวลา 02.26 น.
ดูทั้งหมด