ทั่วไป

"กรณ์" สวน "ธนาธร" แอบอ้างโอนทรัพย์สินเข้า "Bind Trust”คนแรก แนะอยากโปร่งใสให้ขายขาดหรือเปิดเผยชัดเจน

Manager Online
อัพเดต 18 มี.ค. 2562 เวลา 15.46 น. • เผยแพร่ 18 มี.ค. 2562 เวลา 15.46 น. • MGR Online

"กรณ์" สวน "ธนาธร" ไทยยังไม่มี "Blind Trust” เพราะกฎหมายไม่รองรับ ส่วนการโอนทรัพย์สินให้สถาบันการเงินดูแลแทน มีนักการเมืองหลายคนรวมถึงตนเคยทำมาก่อนแล้ว ไม่ใช่ทำเป็นคนแรกตามที่อ้าง แนะวิธีที่โปร่งใสสุดให้ขายขาดหรือไม่ก็เปิดเผยข้อมูลให้ตรวจสอบได้ ไม่ควรโอนเข้าไปในที่ ๆ "มองไม่เห็น"

วันนี้ (18 มี.ค.) ภายหลังจากที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวถึงการบริหารจัดการทรัพย์สินของตัวเองที่ถือหุ้นธุรกิจเครือซัมมิทมูลค่า 5 พันล้านบาทว่าใช้แนวทาง Blind Trust คือโอนทรัพย์สินไปให้ Trust หรือ กองทุน เป็นผู้ดูแล ซึ่งวิธิการนี้จะเป็นมาตรฐานใหม่ ไม่เคยมีนักการเมืองคนไหนใช้ Private Fund มาก่อน เป็นนวัตกรรมใหม่ ยกระดับมาตรฐานแสดงความจริงใจให้เกิดต่อสาธารณะ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ล่าสุด นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประธานกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวว่า …

ยิ่งมองไม่เห็น ยิ่งตรวจสอบไม่ได้

จากการแถลงข่าวเรื่อง ‘blind trust’ ของคุณธนาธร ทำให้มีสื่อบางรายได้ทักท้วง สรุปความได้ว่า การอ้างว่านี่เป็นครั้งแรกที่มีการทำเช่นนี้ เป็นการอ้างไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เคยมีนักการเมืองอีกหลายท่าน รวมทั้งผมด้วย เคยทำเช่นนี้มาก่อนแล้ว..

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ผมขอชี้แจงตามนี้ว่า

1. “Blind Trust” ยังไม่มีจริงในประเทศไทย เพราะยังไม่มีกฎหมายรองรับ เพราะฉะนั้นที่คุณธนาธรลงนามไปนั้น ไม่ใช่ blind trust และไม่มีใครเคยทำได้มาก่อน

2. คุณธนาธรได้โอนทรัพย์สินให้สถาบันการเงินดูแล อันนี้หลายคนน่าจะเคยทำเหมือนกัน ผมก็เคยและวันนี้ก็ยังมีอยู่ โดยที่ผมก็ได้ลงนามสัญญาให้เขาบริหารโดยอิสระเช่นเดียวกัน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

3. ผมเองเคยมี Trust อยู่ที่ต่างประเทศ และรายงานรายละเอียดทั้งหมดกับ ปปช. ตามกฎหมายว่าด้วยเรื่องการรายงานบัญชีทรัพย์สิน

4. แต่หลายปีมาแล้วผมได้ตัดสินใจทำสวนทางกับที่คุณธนาธรพยายามที่จะทำ คือผมยกเลิก Trust ที่มีอยู่ เพราะผมคิดว่าความโปร่งใสสำคัญกว่า ผมคิดว่าประเด็นที่น่ากังวลที่สุดในสิ่งที่คุณธนาธรได้ประกาศวันนี้ ไม่ใช่ว่าท่านเป็นคนแรกหรือไม่ แต่ที่ท่านบอกว่าทรัพย์สินที่ท่านโอนไปนี้จะ ‘มองไม่เห็น’ เพราะเมื่อทุกคนบอดสนิทกับข้อเท็จจริงว่าท่านมีทรัพย์สินอะไรบ้าง การตรวจสอบเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนจะเกิดขึ้นไม่ได้

จริงๆแล้ววิธีที่ชัดเจนที่สุดที่จะปลดปัญหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนคือการขายขาด (แต่อย่าขายให้ nominee กันอีกนะครับ)

แต่หากไม่ขาย ผมว่าที่ดีที่สุดคือเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะว่าเรามีทรัพย์สินอะไรบ้าง เพื่อให้มีการตรวจสอบได้ และที่ไม่ควรคือการโอนเข้าไปในที่ๆ ‘มองไม่เห็น’

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 21
  • ACE
    แบบกรณ์แนะนำมาน่าจะโปร่งใสตรวจสอบได้มากที่สุด
    18 มี.ค. 2562 เวลา 16.37 น.
  • รับโฆษณาหน้า1 Google
    เลือกใครดี โกงชาติ ชังชาติ รักชาติ โกงชาติ 1. ทั้งเผา ทั้งท่วม โกงแล้วหนีทั้งโคตร 2. หวังล้มสถาบัน แอบคุยพี่ให้มาหักน้อง # เป๋าตุง บังหน้า จริงๆ หวัง รัฐไทยใหม่ ชังชาติ 1. ทำนิตยสารด่าเจ้า พอเพียงก็ด่า ยิ้มก็ด่า 2. จะไม่ไหว้ครู ไม่อุปถัมภ์ศาสนา # อุดมการณ์ชัด อนาคต ล้มศาสน์ กษัตริย์ รักชาติ 1. ทั่วโลกเศรษฐกิจถดถอย ไทยค่อยๆ โต 2. สงบ ไร้ม็อบ แบบที่ไม่มีฝ่ายไหนให้ได้ # ผู้นำซื่อสัตย์ ภักดี เน้น มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน # เลือก สงบสุขต่อ หรือ แตกแยกทั่วไทย # สังคมดี เพราะคนเลวท้อแท้ รักชาติ สู้!
    18 มี.ค. 2562 เวลา 16.05 น.
  • wc
    หวานกูล่ะ คนไทยโง่เยอะ หลอกมันให้เข็ด ไฮเปอร์ลูป, ประธานอุตฯแห่งประเทศไทย ฝ่ายประชาธิปไตย vs เผด็จการ ทุกคนเท่าเทียม นายทุนจงพินาศ ทุกอย่างหลอกคนไทยแทบทั้งสิ้น.
    18 มี.ค. 2562 เวลา 16.07 น.
  • woraphot khunsit
    ....เกลียดคนรู้ทัน...ธนากร...เฮ่อ..เจอรุ่นเก๋าสอนมวย...เก็บเลเวลไปก่อนละกัน...คุณตี๋
    18 มี.ค. 2562 เวลา 16.40 น.
  • Tommytorn Ph.D
    สาดนึกว่ากูฉลาดคนเดียว พวกมึงโง่หมด(แอบคิดและยิ้มมุมปาก) สาดมึงมายุ่งเรื่องกูทำไม สาด มึงมาพูดทำไม กูกำลังจะหลอกได้แล้ว สาด
    18 มี.ค. 2562 เวลา 16.16 น.
ดูทั้งหมด