เมื่อคำถามทั่วไปตอบง่าย แต่คำถามหัวใจดันตอบยาก ความรักก็เลยมักมีปัญหาเสมอ
จะทำอย่างไรถ้าคนที่เรารักมาก ๆ ไม่มีเงิน มีแต่หนี้ แถมยังต้องมาพึ่งเงินในกระเป๋าเราแทบจะตลอดเวลา ไม่ใช่แค่ตัวเค้า แต่ลามไปยังครอบครัวของเค้าด้วย รักก็รัก แต่ไม่รู้จะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน จะทำยังไงกับความรักครั้งนี้ต่อไปดี…
“ความรักของเรามีปัญหาเรื่องการเงินมาเกี่ยวข้อง เราคบกันมาเข้าปีที่ 9 แล้ว เรากับแฟนเรียนคณะเดียวกัน คบกันตั้งแต่ปี 1 ก็รู้มาตลอดว่าสถานการณ์การเงินบ้านเค้าไม่ค่อยดี บางทีไม่พอจ่ายค่าหอหรือค่ากิน เราช่วยออกตลอด ไม่เคยคิดมากเพราะกินด้วยกัน เราก็ออกให้ได้
“เราสองคนไม่ได้อยู่ด้วยกัน เพราะที่บ้านเคร่งเรื่องนี้มาก แต่เราก็ช่วยเค้าแบบนี้จนกระทั่งเรียนจบ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไม่ได้มากมายอะไร ช่วยได้ก็ช่วย บางทีถ้าเยอะ เค้าก็ใช้คืนตลอด ทำให้เค้าเกรงใจเรามาก ๆ ครอบครัวเค้ารู้ก็เกรงใจและเป็นกันเอง เอ็นดูเรามาก ๆ
“จากนั้นครอบครัวเค้ามีหนี้ที่ต้องใช้ เค้ายืมเงินเราไปใช้ส่วนหนึ่ง อันนี้เราให้เค้าด้วยความเชื่อใจ เพราะอยากให้เค้าปลดหนี้ได้เร็ว ๆ จนถึงตอนนี้เค้าก็ยังไม่ได้คืนเงินที่ยืมไป เพราะต้องเอาเงินเดือนเลี้ยงพ่อแม่ในแต่ละเดือนด้วย ส่วนตัวเค้าเองก็ไม่ได้เป็นคนประหยัดเท่าไหร่ อยากได้อะไรก็ซื้อ ตรงข้ามกันเราที่คิดแล้วคิดอีกเวลาซื้อของอะไร เราบอกให้เค้าหางานเสริมอื่นเพื่อเพิ่มรายได้ แต่เค้าบอกว่างานที่ทำทุกวันมันก็เหนื่อยมากแล้ว
“พอเราเริ่มทำงาน ทำให้คิดเรื่องการเงินมากขึ้น ไม่รู้ว่าถ้าแต่งงานกัน มันจะไปในทิศทางไหน ตอนนี้รู้สึกถึงคำว่าหมด Passion เลยจริง ๆ คือไม่ได้มีคนอื่นหรือว่าหมดรักกันนะ แต่หาความเจริญเติบโตไม่เจอเลยเท่านั้นเอง
“เราไม่รู้ว่าห่วงอนาคตมากไปไหม เค้าเป็นคนดีในทุก ๆ เรื่อง รับฟังปัญหาของเราเวลามีเรื่องไม่สบายใจ ไม่เคยเจ้าชู้หรือมีเรื่องผู้หญิงมากวนใจเลย เหมือนเราต้องเลือกระหว่างการใช้สมองกับใช้หัวใจ ไม่รู้จะเดินหน้าต่อไปยังไงดี”
ต้องบอกอย่างนี้ว่าเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ มีอิทธิพลมาก ๆ สำหรับความรักสมัยนี้ จะรักกันแล้วมานั่งกัดก้อนเกลือ หรือฐานะต่ำต้อยแต่มาพบรักแท้กับคนรวยอย่างในหนัง ในละครคงไม่มีอีกต่อไปแล้ว
ความรักเดี๋ยวนี้มันมีองค์ประกอบหลายอย่างที่เพิ่มเติมเข้ามา “เงิน” ก็คือส่วนหนึ่งที่ช่วยเติมเต็มให้ความรักสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นด้วยเหมือนกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าคนไม่มีเงินจะต้องไม่มีความรัก คนส่วนใหญ่มองว่าไม่มีเงินหรือจะมีหนี้ก็ไม่เป็นไร แต่ต้องมีใจที่จะถีบตัวเองขึ้นมา เรียกง่าย ๆ ว่าพอมองเห็นอนาคตที่ปลายอุโมงค์อยู่บ้างก็ยังดี
กลายเป็นว่าเป็นเรื่องดีของความรักสมัยนี้ ที่ผู้หญิงไม่ได้มีมุมมองว่าผู้ชายต้องเปย์ ต้องเลี้ยง ต้องจ่ายอยู่ฝ่ายเดียว เพราะผู้หญิงสมัยนี้ส่วนใหญ่ทำงาน หาเงิน เลี้ยงตัวได้แบบสบาย ๆ โดยไม่ต้องพึ่งผู้ชายแม้แต่น้อย ก็เลยไม่ได้แคร์ว่าผู้ชายจะต้องมาจ่ายอะไรให้ ทุกอย่างสามารถแชร์กันได้หมด แต่….ถ้าจะให้เลี้ยงผู้ชาย พวกเธอขอบาย ต่างคนต่างอยู่จะดีกว่า
แต่ก็มีผู้หญิงหลายคนที่มองว่าเรื่องแบบนี้ไม่เป็นไร รับได้ แค่ผู้ชายทำตัวดี ๆ เป็นคนดี ไม่วอกแวก แค่นั้นก็พอแล้ว เพราะพวกเธอคิดว่าการที่เรามีมากกว่า และจะออกเงินเพื่อช่วยเหลือหรือเลี้ยงดูคนที่เรารักบ้างก็ไม่แปลกหรือผิดอะไร ตราบใดที่ความรักของเรายังโอเค เรื่องเงินก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร
ทีนี้ถ้าถามว่า“คนรักไม่มีเงิน แถมยังมีหนี้เพียบ ความรักจะไปต่อได้ไหม”
คำตอบก็คือ “ได้” มีตัวอย่างให้เห็นเพียบที่ผู้ชายมีปัญหาเรื่องเงิน แต่ฝ่ายหญิงก็ยังไม่ไปไหน คอยสนับสนุน คอยให้ความช่วยเหลืออยู่ใกล้ ๆ ตลอดเวลา เป็นเพื่อนคู่คิดจนผ่านอุปสรรคด้วยกันมาได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะฝ่ายผู้ชายที่เป็นหนี้ ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ขยันทำมาหากิน ทำตัวดีจนผู้หญิงเชื่อใจ จับมือพร้อมไปด้วยกัน ก็เลยทำให้ความรักมันไปรอด
ถ้าลองฝ่ายชายไม่มีเงิน เป็นหนี้ แถมยังไม่เอาไหน ก็คงไม่มีผู้หญิงคนไหน ยอมทนเดินหน้าไปต่อด้วยกันได้ เพราะฉะนั้นการที่คนรักจะมีหรือไม่มีเงิน คงไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้ความรักไปต่อไม่ได้ แต่เป็นเรื่องของพฤติกรรม การแสดงออก ความขยันทำมาหากินเสียมากกว่า ที่ทำให้อีกฝ่ายคิดหนักว่าจะเดินหน้ารักกันต่อไปดีไหม
แต่ถ้าในใจคิดว่า “คนรักไม่มีเงิน แถมยังมีหนี้เพียบ และเรายังรู้สึกถึงคำว่าหมด Passion ทั้งที่ไม่ได้มีคนอื่นหรือว่าหมดรักกันไปแล้ว แต่แค่นึกหาความเจริญเติบโตไม่เจอเลย ความรักจะไปต่อได้ไหม”
คำตอบก็คงเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจาก “คงรักกันต่อไปได้” เพราะในเมื่อเราเองเป็นคนที่มองไม่เห็นอนาคต ความรักอย่างเดียวมันก็ไม่น่าจะพอ ถ้ามีสักครั้งที่คิดว่า “เป็นแบบนี้แล้วจะรักกันต่อไปยังไง” แปลว่าเราเองก็เริ่มไม่มั่นใจในความรักและการใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว หรือบางทีเราอาจหมดรักไปแล้วก็ได้ แต่ที่ยังอยู่ก็เพราะผูกพัน สงสาร และยังไม่มีใคร
คนเรามีสิทธิ์เลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง ของบางอย่างแรก ๆ มันอาจจะใช่ แต่นาน ๆ ไปมันอาจไม่ใช่อีกต่อไปแล้วก็ได้ และต่อให้ทนใช้ไปยังไงก็ไม่มีวันใช่อยู่ดี ความรักก็เช่นกัน ถึงจะรักกันมานาน ก็อาจมีวันที่ความรักมันไม่ใช่ในแบบที่เราคิดไว้ ซึ่งก็ไม่ผิดที่เราจะจากกันด้วยดี ให้ต่างคนต่างไปมีชีวิตของตัวเอง
การเลิกกับใครสักคนเพราะเค้าไม่ได้เป็นในแบบที่เราต้องการ ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรเลย คนเรามีเป้าหมายการใช้ชีวิตที่ต่างกัน ทัศนคติก็ต่างกัน ถ้าคบกันต่อไป ยังไงก็ต้องมีปัญหาอยู่ดี การคบกันมานานไม่ได้การันตีอะไรได้เลย เพราะคนเราเปลี่ยนกันได้ตลอดเวลา วันนี้คิดอย่าง พรุ่งนี้ก็อาจคิดอีกอย่าง แค่ต้องมั่นใจว่าสิ่งที่เราคิดและจะทำ คือความต้องการที่แท้จริงของเราก็พอ~
KIK(tooktik) เข้าใจนะสำหรับบทความนี้ เรากับสามีแต่ก่อนสามีมีหนี้ตอนเป็นพนักงานบริษัทเป็นแสนเพราะเที่ยวเล่น ตอนคบกันคือพึ่งมารู้เอาตอนหลัง ก็นั่งจับเข่าคุยกัน แก้ไข ประหยัด ขยัน อดทน เก็บเงิน และช่วยกันปิดหนี้ ตอนนี้เรามีธุรกิจเป็นของตัวเอง มีบ้าน มีรถ มีความสุขมากๆค่ะ ชีวิตไม่ได้ขึ้นกับเงิน แต่เงินเป็นปัจจัยที่ทำให้เรารู้ว่าเค้าจะมีความรับผิดชอบกับครอบครัว คนรักและความรักยังไงมากกว่า
27 ก.ค. 2563 เวลา 06.18 น.
คนถูกใจ ไม่สำคัญเท่ากับคนจริงใจ
27 ก.ค. 2563 เวลา 05.19 น.
ไม่ได้!
"เมื่อความจนมาเคาะประตู ความรักจะโบยบินออกทางหน้าต่าง"
27 ก.ค. 2563 เวลา 05.38 น.
winai ขอให้โชคดีไปกันตลอด ใช้ชีวิตให้มีความสุขกับรายได้ที่หามาได้ ไม่ไหลตามความอยากทำให้ลำบากนะครับ
27 ก.ค. 2563 เวลา 05.51 น.
Mr.aek เงินมาก่อนเสมอ
27 ก.ค. 2563 เวลา 05.37 น.
ดูทั้งหมด