และก็ถึงวันที่รัฐบาลเตรียมไฟเขียวให้คนต่างชาติเข้ามาประเทศไทยในการปลดล็อคดาวน์เฟส 6 หลังจากที่ประเทศไทยประกาศปลดล็อกดาวน์เฟส 5 ไปแล้วระยะหนึ่ง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประชาชนที่ช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศ ยกเว้นแต่มีผู้ที่ติดเชื้อจากต่างประเทศเดินทางเข้าประเทศ ทำให้ยังคงมีตัวเลขเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้“แนวทางการปลดล็อคดาวน์เฟส 6 ที่คาดว่าจะดำเนินการได้” อาทิ 1.ให้ต่างชาติเข้ามาจัดแสดงสินค้า ในราชอาณาจักร ,2. ให้ต่างชาติเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ ในราชอาณาจักร เขาสามารถควบคุมการระบาดของเชื้อได้ ,3. ให้แรงงานต่างชาติเข้ามา ที่ไม่ใช่นักท่องเที่ยว เป็นแรงงานต่างชาติ ทำงานด้านอาหาร ก็ต้องมีมาตรการให้เห็นว่า ทำอย่างไร เขาดูแลตัวเองได้อย่างดี ไม่ให้ติดโรค และ 4. กลุ่มที่จะเข้ามารักษาตัวในไทย ก็ต้องให้เขาอยู่ต่อหลังอยู่ 14 วัน แล้วก็มาเที่ยวประเทศเราต่อ ทำให้มีรายได้เข้ามาหมุนเวียนเศรษฐกิจประเทศ
ซึ่งจังหวัดที่ประกาศความพร้อมที่จะประเดิมเปิดประตูบ้านรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยข้อสรุปเบื้องต้นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มองกันว่าจะเข้ามาภูเก็ต เพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจของภูเก็ตเดินต่อไปได้ กลุ่มแรกจะต้องเป็นนักท่องเที่ยวทั่วไปที่มาจากประเทศที่ปลอดภัยจากโควิด-19 และเป็นประเทศที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้แล้ว เช่น จีน เวียดนาม และจะต้องมีชั่วโมงบินไม่เกิน 4 ชั่วโมง เพื่อไม่ต้องต่อไฟลต์ในประเทศอื่นๆ โดยกลุ่มนี้ทางรัฐบาลจะมีการเจรจากันในการให้เดินทางเข้าออกประเทศ
และกลุ่มที่ 2 เป็นนักท่องเที่ยวที่เข้ามารักษาพยาบาลและการดูแลสุขภาพ หรือเมดิคัลทัวร์ลิสต์ เพราะภูเก็ตมีความพร้อมในเรื่องของการดูแลนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ และนักท่องเที่ยวกลุ่มที่ต้องการจะเข้ามาอยู่ในภูเก็ตนานๆ ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มที่ต้องการหนีความวุ่นวายในประเทศของตัวเอง หรือกลุ่มที่มั่นใจในศักยภาพของภูเก็ตในการป้องกันโควิด-19 โดยกลุ่มนี้น่าจะเป็นตลาดกลุ่มใหญ่สำหรับภูเก็ต และสามารถสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจของภูเก็ตได้ในช่วงนี้ เพราะโดยกลุ่มนี้สามารถเดินทางเข้ามาได้ทั่วโลก แต่จะต้องเข้ามากักตัว 14 วัน ในโรงแรมต่างๆ ที่ได้รับการรับรองจากสาธารณสุข หรือ ที่เรียกกว่า Alternative State Quarantine
ล่าสุด “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงมาตรการผ่อนคลายต่างๆ เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ว่า จำเป็นจะต้องมีการผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของนักธุรกิจที่จะต้องเข้ามา แต่ต้องมีมาตรการที่รัดกุม เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นเชื่อถือในการเข้ามาติดต่อธุรกิจ ซึ่งเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ โดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด 2019 หรือโควิด-19 (ศบค.) ต้องมีการหารือกัน สัปดาห์หน้าในที่ประชุม ศบค.คงจะรู้ผลเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามถ้ามั่นใจ ควบคุมได้ มันก็มีความจำเป็น แต่ถ้ายังไม่พร้อมมันก็อีกเรื่องหนึ่ง
เช่นเดียวกับ “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การเปิดประเทศให้ต่างชาติเข้ามา ทางสธ.จะรับนโยบายของนายกฯ ที่ได้กำชับให้ ศบค.และ สธ.หาวิธีการว่าจะดำเนินการอย่างไรให้มีความปลอดภัย และสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจค้าขายในประเทศได้ด้วย เนื่องจากการค้าขายต้องมีการเจรจาตลอด เช่น ผู้เชี่ยวชาญต้องมาที่ต้องมาเดินเรื่องเครื่องจักร คนเหล่านี้ไม่สามารถมากักตัวเอง 14 วัน และเหลือเวลาไปทำงาน 3-4 วันได้ ดังนั้นเราต้องหาวิธีการจัดการในเรื่องนี้
ด้าน “นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า โครงการกระตุ้นชาวต่างชาติที่มีถิ่นพักอาศัยอยู่ในประเทศไทยถาวร (เอ็กซ์แพท) ให้ออกเดินทางเที่ยวในประเทศ ที่มีจำนวนประมาณ 2,000,000 คน เนื่องจากคนกลุ่มนี้มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูงมาก แต่ที่ผ่านมาไม่ค่อยนิยมเที่ยวในประเทศ เพราะเจอกรณีการคิดค่าบริการในอัตราที่สูงกว่าคนไทย อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว จึงจะหารือร่วมผู้ประกอบการในภาคท่องเที่ยว เพื่อหาวิธีกระตุ้นให้คนกลุ่มนี้อยากเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น
ขณะที่ “นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย” รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภูเก็ตจะเป็นจังหวัดนำร่องในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 จังหวัด ประกอบด้วย ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และกระบี่ อาทิ ความพร้อมของสนามบิน, ความสามารถในการคัดกรองเชื้อผู้โดยสารเข้า-ออก และความเร็วของผลตรวจ, ความพร้อมผู้ประกอบการ ฯลฯ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามมาตรฐานความปลอดภัยและสุขอนามัยตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด (Clean Together) ความเห็นของบุคลากรในพื้นที่ต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติ, สถานที่ Villa Quarantine ตามหลักเกณฑ์มาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และการจัด Route เส้นทางท่องเที่ยว/แหล่งท่องเที่ยวให้มีความปลอดภัยตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
ส่วน“นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม” นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจังหวัดภูเก็ตได้ยุติลงแล้ว และทางจังหวัดสามารถควบคุมการระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ได้มีการคลาย Lockdown และอนุมัติให้เปิดบริการท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศตั้งแต่เมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานั้น เป็นปัจจัยบวกให้บรรยากาศการท่องเที่ยวในจังหวัดเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว
ทั้งนี้สภาพเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตที่ผ่านมาได้รับการขับเคลื่อนจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวรวม 14.4 ล้านคนในปี 2562 แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 ล้านคน และนักท่องเที่ยวชาวไทย 4 ล้านคน มีรายได้รวมจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรวม 480,000 ล้านบาท ซึ่งสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้เกิดการชะงักของเศรษฐกิจในภูเก็ตอย่างมาก
ครั้งนี้จึงเป็นการวัดใจรัฐบาลที่จะเตรียมปลดล็อคดาวน์เฟส 6
ความคุ้มค่าของรายได้ประเทศ กับ ความปลอดภัยของประชาชน!
จะทำอย่างไรให้ออกมาคุ้มค่ามากที่สุดดด!?!
Paitoon เมื่อวานเรื่องโรคภัยไข้เจ็บมาก่อนแต่วันนี้คนควรเรียนรู้วิธีการป้องกันและดูตัวเองได้แล้ว ไม่งั้นเราจะอยู่สู่กับชีวิตบนโลกไม่ได้ พรุ่งนี้ชีวิตต้องอยู่ได้ด้วยปากท้อง จึงสำคัญควบคู่กันไป
08 ส.ค. 2563 เวลา 07.25 น.
ร้อยพ่อพันแม่ ทำไปเถอะครับ ตอนล็อคก็โจมตี จะปลดล็อคก็โจมตี ปัญหาคือคนโจมตี คือคนๆเดียวกัน แค่เรื่องนี้ผมยกให้รัฐบาลนี้ครับ
08 ส.ค. 2563 เวลา 07.21 น.
Tana แล้วเกิดระบาดรอบ2จะไงต่อ
08 ส.ค. 2563 เวลา 06.11 น.
Noble Eightfold Path ยังงัยก็ต้องควบคู่กัน ทำตามมาตรการป้องกันเคร่งครัดเฝ้าระวัง ไทยต้องพึ่งพา ส่งออก ตปท ,ท่องเที่ยวจากต่างชาติ ให้เข้ามาแบบมีทำประกันรักษาโควิด ด้วย เช็คมีทุนหนาจริง มีเงินเข้ามาใช้จ่ายในไทย ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดว่าเงินจะเข้าไทยมากมาย ไทยเมืองสงบสันติ รักษาควบคุมโรคได้ดี ระบบการแพทย์ที่ดี ใครๆก้ออยากเข้ามา จัดโปรโมชั่นให้มหาเศรษฐีทั่วโลกมาพักในไทย จัดพื้นที่สร้างเมือง อินเตอร์เนชั่นแนล ริชชี่
08 ส.ค. 2563 เวลา 04.54 น.
หมวย3659 ตอบไปใครได้ยิน
08 ส.ค. 2563 เวลา 04.30 น.
ดูทั้งหมด