ฆ่าตัวแล้ว! พบศพโจ๋รัสเซียวัย 18 มือวางระเบิด-ยิงนร.ในวิทยาลัยตัวเอง

ฆ่าตัวแล้ว! พบศพโจ๋รัสเซียวัย 18 มือวางระเบิด-ยิงนร.ในวิทยาลัยตัวเอง

ฆ่าตัวแล้ว! – จากความคืบหน้าเหตุวางระเบิดแสวงเครื่องและบุกยิงนักเรียนในวิทยาลัยเทคนิคในเมืองเคียร์ช ทางตะวันออกของคาบสมุทรไครเมีย จนมีผู้เสียชีวิตแล้ว 19 ราย และมีผู้บาดเจ็บราว 50 คน ล่าสุด ทางการรัสเซียประกาศแล้วว่าเป็นการก่อการร้าย เมื่อวันที่ 17 ต.ค.

อ่านต่อ: เขย่าขวัญรัสเซีย! วางบึ้ม-บุกยิงนร.ในวิทยาลัยเทคนิค ตาย 18 เจ็บครึ่งร้อย

เว็บไซต์ ไลฟ์ ของรัสเซียเผยแพร่ภาพถ่ายของผู้ต้องสงสัยเป็นวัยรุ่นชายพร้อมอาวุธปืน โดยกล้องวงจรปิดภายในวิทยาลัยโปลีเทคนิคบันทึกขณะเดินเข้าไปในห้องเสื้อผ้าเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนก่อเหตุ แต่ล่าสุด วัยรุ่นชายเสียชีวิตแล้วด้วยการยิงตัวตาย เจ้าหน้าที่พบศพของวัยรุ่นชายในสภาพถูกยิงภายในห้องสมุดบนชั้นสองของอาคารที่ก่อเหตุ

ขณะที่ข้อมูลผู้ต้องสงสัย ทราบชื่อว่า นายวลาดีสลัฟ รอสเลียคอฟ อายุ 18 ปี เป็นนักเรียนของวิทยาลัยโปลีเทคนิคเมืองเคียชร์ที่ลงมือก่อเหตุ เข้าเรียนเมื่อปี 2558 ขณะนี้อยู่ชั้นปีที่ 4 สาขาการประกอบอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์และอาคารอุตสาหกรรมการก่อสร้าง

ก่อนเกิดเหตุราวหนึ่งเดือน นายรอสเลียคอฟได้รับอนุญาตในการครอบครองลูกกระสุนปืน 12 ลูก อย่างถูกกฎหมาย เมื่อวันที่ 8 ก.ย. และเมื่อวันที่ 13 ก.ย. นายรอสเลียคอฟสั่งซื้อลูกกระสุนปืนอีก 150 ลูก

ล่าสุด คณะกรรมการต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติรัสเซียแถลงว่า เจ้าหน้าที่พบระเบิดแสวงเครื่องภายในวิทยาลัยโปลีเทคนิคแล้ว

• ทบทวนรายละเอียดเหตุการณ์ (เวลาท้องถิ่น)

11.40 น. – นายรอสเลียคอฟแฝงตัวปะปนกับนักเรียนเข้ามาในวิทยาลัย พร้อมนำอาวุธปืนกับระเบิดแสวงเครื่อง

11.43 น. – นายรอสเลียคอฟขึ้นไปยังชั้น 2 ของอาคารวิทยาลัยและเปิดฉากยิงตรงบริเวณทางเดินอาคาร ยิงใส่ทุกคนที่อยู่ใกล้ๆ พนักงานรักษาความปลอดภัยหญิงในวิทยาลัยได้ยินเสียงยิงปืนและกดปุ่มฉุกเฉิน (เพื่อส่งสัญญาณแจ้งให้เจ้าหน้าที่รับทราบว่าเกิดเหตุร้ายขึ้นในวิทยาลัย)

11:44 น. – นักเรียนตกใจกลัวต่างทุบกระจกและพังเหล็กดัดเพื่อนำเพื่อนออกมาและหนีตายออกจากวิทยาลัย

11:45 น. – นายรอสเลียคอฟยิงปืนจนลูกกระสุนหมด จึงลงไปยังชั้นล่างของอาคารและจุดระเบิดแสวงเครื่อง

11.50 น. – รถฉุกเฉิน พร้อมด้วยพนักงานดับเพลิง ตำรวจ และสุนัขตำรวจ รุดมายังที่เกิดเหตุ ช่วยกันลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากอาคารวิทยาลัย แต่เปลสนามมีจำนวนไม่เพียงพอ เจ้าหน้าที่ต้องใช้บานประตูลำเลียงผู้บาดเจ็บแทน