21 พ.ย.61 - ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษายืนตามศาลปกครองกลาง สั่งเพิกถอนคำสั่ง กทม.ที่ให้นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ ชนะคดีไม่ต้องชดใช้เงินจำนวน 1,296,794,910.27 บาท ให้กับ กทม. กรณีเกิดความเสียหายการทุจริตการซื้ออุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย จากบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ จํากัด ประเทศออสเตรีย เมื่อปี 2547 เนื่องจากเห็นว่า แม้ในขั้นตอนการทำการค้าต่างตอบแทน นายวัฒนา ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็น รมว.พาณิชย์ในขณะนั้น จะเข้าร่วมประชุม ครม.เมื่อ 22 มิ.ย.2547 และ ครม.มีมติรับหลักการโครงการจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิง อุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยตามที่ กทม.เสมอ โดยมีเงื่อนไขทำการค้าต่างตอบแทน ร้อยละ100 โดยมอบให้ให้ ก.พาณิชย์ไปดำเนินการ ซึ่งนายวัฒนารับที่จะไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของกรมการค้าต่างประเทศ ก.พาณิชย์ โดยที่การทำการค้าต่างตอบแทน เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของกรมการค้าต่างประเทศ นายวัฒนาซึ่งเป็น รมว.พาณิชย์มีหน้าที่กำหนดนโยบาย ควบคุมดูแลเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติตามนโยบาย ไม่ได้มีหน้าที่ทำการค้าต่างตอบแทนเอง จึงไม่ต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดจากการทำการค้าต่างตอบแทนดังกล่าว นอกจากนี้ ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงที่แสดงให้เห็นว่า การกำหนดให้สินค้าในการทำการค้าต่างตอบแทน เป็นไก่ต้มสุก ตามมติ ครม.เมื่อ 22 มิ.ย.2547 เป็นผลมาจากการผลักดันของนายวัฒนา จึงไม่อาจฟังได้ว่า นายวัฒนามีส่วนต้องรับผิดชอบในการกำหนดสินค้าส่งออกเป็นไก่ต้มสุก
ส่วนที่อ้างว่า นายวัฒนาตอบข้อหารือของนายโภคิน พลกุล รมว.มหาดไทย ในขณะนั้น ตามหนังสือก.พาณิชย์ ด่วนที่สุดที่ 0311/2547 ลงวันที่ 2 พ.ย.2547 ว่า แม้ กทม.ได้ดำเนินการซื้อขายรถดับเพลิงกับผู้ขายไปก่อนการทำการค้าต่างตอบแทนแล้ว แต่เมื่อกรมการค้าต่างประเทศ ได้ทำการค้าต่างตอบแทนกับบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ จํากัด ผู้ขายสินค้ากับ กทม. ก็ให้ กทม.ทำสัญญาจัดซื้อรถดับเพลิง เพื่อป้องกันความผิดพลาดจากการทำสัญญาต่างตอบแทนนั้น เห็นว่า นายวัฒนาตอบข้อหารือไปยังนายโภคิน หลังจากการที่ กทม.ได้ทำสัญญาจัดซื้อรถดับเพลิงไปแล้ว และหลังจากที่ กรมการค้าต่างประเทศได้ทำสัญญาการค้าตอบแทนไปแล้วเช่นกัน การตอบข้อหารือดังกล่าวของวัฒนาจึงไม่ได้การกระทำที่เป็นเหตุให้ กทม.ต้องซื้อรถ-เรือดับเพลิงแพงกว่าปกติ ส่วนที่อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศในขณะนั้นลงนามในสัญญาการค้าต่างตอบแทน โดยไม่ได้กำหนดว่าห้ามส่งออกไก่ต้มสุกไปยังประเทศญี่ปุ่น เห็นว่า การทำการค้าต่างตอบแทน เป็นอำนาจของอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของนายวัฒนา สอดคล้องกับที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำวินิจฉัยคดีนายวัฒนา เป็นจำเลยที่ 3 ว่า พยานหลักฐานยังฟังไม่ได้ว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ อันเป็นเอื้อประโยชน์แก่ตนเองหรือผู้อื่น กรณีนี้จึงไม่อาจรับฟังได้ว่า การกระทำของนายวัฒนาเป็นการกระทำจงใจหรือประมาทเลินเล่นอย่างร้ายแรง จนทำให้ กทม. เกิดความเสียหาย ดังนั้นนายวัฒนาไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมให้กับกทม. ตาม มาตรา 10 วรรคหนึ่ง ประกอบ มาตรา 8 วรรคหนึ่ง ตาม พ.ร.บ.การรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ 2539
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการนัดอ่านคำพิพากษาคดีดังกล่าว คู่กรณีทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะนายวัฒนา เมืองสุข ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาตามหายนัดแต่อย่างใด.
Dekdeena ดีน่ะที่ศาลท่านยกฟ้อง ถ้าศาลตัดสินว่าผิดติดคุก ศาลก็คงโดนด่าว่าสองมาตรฐาน จ้องเล่นงานแต่เสื้อแดง เวลาศาลท่านตัดสินว่าไม่ผิด คนที่ว่าที่ด่าศาลว่าสองมาตรฐานน่ะ ช่วยออกมาชื่นชมศาลด้วยนะ ว่า ศาลท่านมีความยุติธรรม
21 พ.ย. 2561 เวลา 10.18 น.
Pia อะไรว่ะหลุดอีกล่ะ สองมาตราฐานชัดๆ
แม่งโกงเอ๋ยกินเอ๋ยฆ่าเอ๋ยระเบิดเอ๋ย
ยิง M 79 อีกแม่งหลุดหมดถุย ถุย ถุย
21 พ.ย. 2561 เวลา 10.07 น.
chokhd แล้วความเสียหายที่เกิดขึ้นใครจะรับผิดชอบ เงินภาษีที่เสียไป ประชาชนตาดำๆตามเคย
21 พ.ย. 2561 เวลา 10.02 น.
Jew1565 พอชนะก็บอกกฎหมายยุติธรรม พอแพ้ก็บอก2มาตรฐาน???
21 พ.ย. 2561 เวลา 10.38 น.
Toom คนเลวเริงร่า อีกแล้ว ทั้งที่ก็รู้เห็นกีนอยู่ว่าทำจริง แต่พอเข้าขบวนการยุติธรรม ไหงหบุดมาได้ บ้านนี้เมืองนี่ คนดีอยู่ยาก พวกนักโทษเดินกันให้ควั่ก เห่าหอนไปทั่ว กลับมีพวกเห็นดีเห็นงาม นี่คงถึงยุค ทั้งโจรและขี้ข้าโจร เดินเต็มถนน แล้วกระมัง
21 พ.ย. 2561 เวลา 10.21 น.
ดูทั้งหมด