ไอที ธุรกิจ

Main Brigitte ร้องไห้ PTR 1.31 เนิร์ฟพุ่งใส่โล่ไม่ทะลุแล้ว

Thaiware
อัพเดต 16 พ.ย. 2561 เวลา 11.06 น. • เผยแพร่ 16 พ.ย. 2561 เวลา 11.06 น. • HikaLuces
Overwatch PTR 1.31 อัพเดทใหญ่มีทั้งเนิร์ฟและบัฟหลายฮีโร่ ไฮไลต์คือเนิร์ฟ Brigitte และ Doomfist

หลังจากแพทช์ 1.30 ที่มีตัวละครใหม่เข้าเซิร์ฟจริง แพทช์ 1.31 ก็อัพเดทต่อทันทีในเซิร์ฟเวอร์ PTR ซึ่งครั้งนี้นับได้ว่าเป็นการปรับฮีโร่ขนานใหญ่ มีทั้งบัฟและเนิร์ฟ ซึ่งเหยื่อการเนิร์ฟครั้งนี้คือ่ Brigitte และ Doomfist ที่หลายต่อหลายคนบ่นว่าฆ่ายากฆ่าเย็นเหลือเกิน พี่เจฟก็จัดการเนิร์ฟให้ตามระเบียบ

ขณะที่ฮีโร่ที่ถูกบัฟนั้นได้แก่ Bastion, McCree, Soldier: 76 และ Torbjörn ซึ่งสกิลที่ถูกบัฟของแต่ละตัวนับว่ามีผลมากต่อเกมเพลย์ในแพทช์หน้าได้เลย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ฮีโร่ที่ถูกเนิร์ฟ

  • Brigitte

  • Shield Bash ทะลุโล่ไม่ได้แล้ว

  • Doomfist

  • Rising Uppercut เมื่อศัตรูอยู่บนอากาศจะควบคุมได้เมื่อเวลาผ่านไป 0.6 วินาที จาก 3 วินาที

    • Seismic Slam ระยะสูงสุดลดเหลือ 15 เมตรจาก 20 เมตร

ฮีโร่ที่ถูกบัฟ

  • Bastion

  • Recon เพิ่มกระสุนจาก 25 เป็น 35 นัด

    • Sentry การกระจายกระสุนลดลง 33%
  • McCree

  • Fan the Hammer เพิ่มดาเมจจากนัดละ 40 เป็น 55

  • Soldier: 76

  • Tactical Visor ไม่ล็อกเป้าตอนยิง Helix Rocket แล้ว

  • Torbjörn

  • Molten Core เพิ่มดาเมจจาก 130 เป็น 160 ต่อวินาที

วิเคราะห์ตัวละคร

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ทั้ง Brigitte และ Doomfist ต่างเป็นฮีโร่ที่ติดเมต้าแรงค์มาโดยตลอด โดยมีดาเมจและสตั๊นศัตรูอย่างรุนแรง ขณะเดียวกันก็เป็นฮีโร่ที่ฆ่าได้ยาก การเนิร์ฟโล่ของบริกิตไม่ให้พุ่งทะลุโล่ได้ จะทำให้ไรน์ฮาร์ทมีที่ยืนมากขึ้น เพราะโดยปกติบริกิตจะพุ่งใส่ไรน์ฮาร์ทตอนกางโล่ให้สตั๊นเพื่อเปิดทางให้เพื่อนเข้าไปไฟต์ศัตรูได้ง่ายขึ้น และถ้าศัตรูเล่นแผน 2 โล่อย่าง Reinhardt-Winston หรือ Orisa-Winston รวมถึงอัลติโล่ของ Symmetra จะทำให้บริกิตมีการเล่นที่จำกัดกว่าเดิมมากเลยทีเดียว

ขณะที่การเนิร์ฟ Doomfist คือทำให้ศัตรูเคลื่อนที่กลางอากาศเร็วขึ้น เปิดโอกาสให้ดูมฟิสถูกสวนกลับกลางอากาศได้ง่าย ไม่ใช่คอมโบกดเสยแล้วกดยิงแล้วส่งศัตรูไปเกิดใหม่อีก ตรงนี้ต้องระวังให้ดี

ด้านการบัฟ ตัวที่น่าจะมีผลมากที่สุดคือ Bastion ในโหมด Sentry ที่การกระจายกระสุนน้อยลง 50% (ที่จริงคือปรับกลับให้เป็นแบบในยุคแรก) ทำให้คนที่แทร็กเมาส์แม่นๆ แทบจะกดสั่งตายศัตรูได้ทันที เพราะอย่างที่รู้ว่าบาสชั่นโหมดนี้มันโหดร้ายแค่ไหน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

McCree ที่เพิ่มดาเมจคลิกขวาเป็น 55 หรือดาเมจรวม 6 นัดเป็น 330 ทำให้เขาสามารถฆ่าฮีโร่ทุกตัวที่ไม่ใช่แทงค์ตายในแม็กเดียว ถ้ายิงคู่กับ Flash Bang คงไม่มีใครรอดอีกแล้ว (ในอดีตเคยมีดาเมจนัดละ 70 เรียกได้ว่ายิงแทงค์ตายเรียบ)

Soldier: 76 การไม่ล็อกเป้าตอนยิง Helix Rocket เพราะว่าสกิลนี้เป็นแบบ Projectile ถ้าหากศัตรูอยู่ไกลมากๆ เวลากดคลิกขวาหากศัตรูหนีได้จะทำให้ยิงไม่โดน เพราะล็อกตอนยิง ไม่ล็อกตอนไปถึง การเอาออกทำให้ผู้เล่นแทร็กเองว่าต้องยิงไปตามทิศของศัตรูอย่างไรถึงจะโดน

Torbjörn เพิ่มดาเมจอัลติเมทยิงลาวาให้แรงขึ้น เพื่อให้สังหารศัตรูได้เร็วขึ้น ปกติจะเป็นสกิลที่ใช้ควบคุมพื้นที่มากกว่าสังหารศัตรู แต่ถ้าในช่วงชุลมุนมากๆ แล้วกดอัลตินี้ที่ Point จะทำให้ศัตรูโดนหลอมละลายไปเกิดใหม่เร็วขึ้นนั่นเอง

สรุป

เรียกได้ว่าการบัฟ-เนิร์ฟครั้งนี้คงได้เปลี่ยนโฉมไฟต์หลายๆ อย่าง ประกอบการมาของ Ashe ในแพทช์ที่แล้ว เป็นที่น่าสนใจว่าเมต้าฮีโร่ในแรงค์ รวมถึงใน Overwatch League ในปีหน้าจะเปลี่ยนไปอย่างไร ฮีโร่ตัวไหนจะผงาดหรือตกกระป๋อง ต้องรอติดตามการอัพเดทเข้าเซิร์ฟเวอร์จริงครับ

ดูข่าวต้นฉบับ