วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า หน่วยปฏิบัติการขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประจำเกาหลีเหนือได้เผยแพร่บันทึกย่อจำนวน 2 หน้า ที่เตือนว่าเกาหลีเหนือกำลังเผชิญภาวะอาหารขาดแคลนเป็นจำนวน 1.4 ล้านตันในปีนี้ ส่งผลทำให้เสบียงฉุกเฉินถูกแบ่งเกือบครึ่งหนึ่ง พร้อมกับตำหนิผลพวงจากภัยธรรมชาติอย่าง ความแห้งแล้ง น้ำท่วม อุณหภูมิที่สูงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรและผลจากมาตรการคว่ำบาตรของยูเอ็น นับเป็นคำเตือนที่มีขึ้นก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำครั้งที่ 2 ระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือที่เวียตนาม
บันทึกดังกล่าวระบุว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือต้องเรียกร้องให้องค์กรระหว่างประเทศตอบสนองอย่างเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์อาหาร โดยผลผลิตทางการเกษตรของเกาหลีเหนือเมื่อปีที่แล้ว อยู่ที่ 4.951 ล้านตัน ลดลงจากปี 2560 ถึง 503,000 ตัน ซึ่งทางเกาหลีเหนือระบุด้วยว่า ได้นำเข้าอาหาร 2 แสนตัน และผลผลิตช่วงต้นปีอยู่ที่ 4 แสนตัน แต่ก็มีช่องว่างปรากฎ และจากเดือนมกราคมเป็นต้นมา เกาหลีเหนือได้ลดเสบียงรายวันลงอยู่ที่ 300 กรัมต่อวัน จากที่รับคนละ 550 กรัมต่อวัน
ด้านสเตฟานเน่ ดูจาริค โฆษกของยูเอ็น กล่าวว่า ทางยูเอ็นและหน่วยบรรเทาทุกข์ได้หารือกับรัฐบาลเกาหลีเหนือเกี่ยวกับความเข้าใจเพิ่มเติมถึงผลกระทบของสถานการณ์ความมั่นคงทางอาหารกับคนจำนวนมาก เพื่อสามารถดำเนินการส่งความจำเป็นทางมนุษยธรรมเบื้องต้นก่อน
“องค์กรมีความสามารถช่วยผู้คนได้เพียง 1 ใน 3 จากทั้งหมดที่คาดการณ์ราว 6 ล้านคน อันเป็นผลมาจากการขาดแคลนงบประมาณ ยูเอ็นประมาณการว่า มีประชากรเกาหลีเหนือ 10.3 ล้านคน โดยเกือบครึ่งของประชากรที่มีความจำเป็น และอีกราว 41% ของชาวเกาหลีเหนือได้รับอาหารไม่เพียงพอ” นายดูจาริค กล่าว
นอกจากปัญหาสภาพอากาศที่เลวร้ายแล้ว ยังตำหนิถึงมาตรการคว่ำบาตรของยูเอ็นที่ระงับการส่งสินค้าทางเกษตรและเชื้อเพลิงสำรองสำหรับภาคเกษตรกรรม
ขณะที่นายเบนจามิน ซิลเบอร์สไตน์ รองบรรณาธิการนอร์ธ โคเรีย อิโคโนมี วอทช์และนักวิชาการสถาบันวิจัยนโยบายต่างประเทศกล่าวว่า การเก็บเกี่ยวของเกาหลีเหนือถือว่าอยู่ในระดับแย่แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณภาวะฉุกเฉิน
“แน่นอนว่า ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการคว่ำบาตร” นายซิลเบอร์สไตน์ กล่าว
นอกจากนี้ คิม ยัง-ฮี ผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือและผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจเกาหลีเหนือของธนาคารการพัฒนาเกาหลีกล่าวว่า บันทึกดังกล่าวไม่ได้ระบุขอเรื่องอาหาร
“บันทึกดังกล่าวเหมือนพยายามส่งสารว่า แม้มาตรการคว่ำบาตรของยูเอ็นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้คนโดยตรง แต่พวกเขาได้รับผลจากระบบเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่กำลังเลวร้าย จึงเป็นการดีหรือไม่ หากมาตรการคว่ำบาตรถูกยกเลิก” น.ส.คิม กล่าว
มีเรื่อง เล่า สร้างแต่อาวุธจนลืมปลูกข้าวกินไอ้ห่าคิม
22 ก.พ. 2562 เวลา 16.01 น.
เขาอยู่ของเขามานานแล้ว เขาเก่งอยู่แล้ว
22 ก.พ. 2562 เวลา 13.46 น.
กฤติเดช สุขเนืองนอง หลีเหนือ คงไม่ถึงคั่วกรวดแช่เกลือ ตราบใด จีน ยังต้องใช้บริการด้านความมั่นคง หลีเหนือ
22 ก.พ. 2562 เวลา 10.51 น.
Anupap. ใช่,พี่ใหญ่จีนก็ซื่อข้าวแถบบ้านเรา
ถูกๆเหมือนได้เปล่าแถมพกไปแลก
กับเหล็กถูกๆเกาหลีเหนือรางรถไฟ
มาขายแพงๆบวกค่านายหน้าวงใน
เหมือนซื้อยางดิบถูกๆไปที่อาฟริกา
เพราะเราแสร้งไม่มีปัญญาค้าขาย
โลกไปถึงไหนก็ยังต้องให้สิงคโปร์
ฮ่องกงขายข้าว,ยางดิบ,ผลไม้ฯลฯ
/อันโตนีโย
22 ก.พ. 2562 เวลา 13.08 น.
ดูทั้งหมด