เป็นเวลากว่า 30 ปีที่คุณปรุง ป้อมเกิดปลูกมะละกอแขกดำจุดเริ่มต้นเมื่อครั้งอดีตมีแม่ค้าในตลาดนำมะละกอแขกดำมาให้ภรรยาของคุณปรุงมาชิมทั้งสองชอบใจในรสชาติ จึงนำเมล็ดมะละกอลูกนั้นมาเพาะขยายพันธุ์ในตอนแรกที่ผลผลิตออกมายังไม่ค่อยได้รับความนิยม แต่คุณปรุงก็ไม่ย่อท้อพยามปลูกพร้อมคัดพันธุ์มะละกอแขกดำมาอย่างต่อเนื่องจนสายพันธุ์นิ่งให้รสชาติหวานหอมอร่อยมากจนได้ชื่อว่า "มะละกอแขกดำสายพันธุ์นายปรุง" สิ่งนี้เป็นเครื่องสะท้อนความมุ่งมั่น ความพยายามที่มีต่ออาชีพเกษตรกรการคัดเมล็ดพันธุ์อย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 30 ปีเป็นเรื่องไม่ง่ายเพราะต้องใช้ความอดทนอย่างมากจึงจะประสบความสำเร็จ
เป็นเวลากว่า 30 ปีที่เรียนรู้การปลูกมะละกอแขกดำด้วยตัวเองได้ลองผิด ลองถูกจนเป็นองค์ความรู้ที่ทำให้คุณปรุง ประสบความสำเร็จโดยให้ความใส่ใจในทุกขั้นตอนนับตั้งแต่การเพาะเมล็ดไปจนถึงการเก็บเกี่ยวบรรจุภัณฑ์ทุกขั้นตอนต้องทำด้วยความระมัดระวังนี่คือเคล็ดลับที่คุณปรุงทำจนประสบความสำเร็จ
การปลูกมะละกอแขกดำสายพันธุ์นายปรุง
การเตรียมดินใช้รถไถไถพรวนดินให้ละเอียดตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรค ระหว่างนั้นทำการเพาะกล้ามะละกอ วิธีการปลูกมะละกอจะต้องปลูกพร้อมกัน 2 ต้นห่างกันราว 30 เซนติเมตรโดยขุดหลุมราว 2-3 นิ้วให้พอมิดตุ้มรากมะละกอจากนั้นกลบดินให้แน่นรดน้ำ เมื่อต้นตั้งตัวได้ราว 1 เดือนให้ใส่ปุ๋ยมูลไก่โรยรอบทรงพุ่มห้ามชิดโคนต้น ประมาณ เดือนครึ่งถึงสองเดือนมะละกอจะออกดอกเราจะเลือกมะละกอที่มีดอกสมบูรณ์เพศหรือดอกกระเทยเอาไว้เพียง 1 ต้นส่วนอีกต้นที่เหลือต้องโค่นทิ้ง ถ้าเกิดเป็นดอกกระเทยทั้งสองต้นสามารถขุดแยกเอาไปปลูกได้
ในช่วงที่ต้นยังเล็กการดูแลรักษาต้นมะละกอสามารถใช้น้ำส้มควันไม้ฉีดไล่แมลงได้แต่ถ้าถึง 5 เดือนห้ามฉีดน้ำส้มควันไม้เด็ดขาดเพราะจะทำให้รสชาติมะละกอเปลี่ยนไปไม่อร่อย ใส่ปุ๋ยมูลไก่,ปุ๋ยมูลค้างคาว รดน้ำให้ชื้นห้ามแฉะโดยให้น้ำ 2-3 วันครั้งครั้งละ 30 นาทีด้วยระบบสปริงเกอร์ สังเกตดูว่าถ้าพื้นดินรอบโคนต้นแห้งแข็งก็จะต้องให้น้ำทันทีแต่ถ้าชื้นๆก็ไม่ต้องให้ก็ได้
เมื่อมะละกอติดผลจะต้องใช้ไม้ไผ่มาค้ำลำต้นเพื่อกันลมพัดต้นหัก มะละกอจะทยอยออกมาเรื่อยๆจนสุดคอ(หมายถึง 1 รอบ จะทำการห่มผ้าซับในสีขาวเพื่อป้องกันแสงแดด แมลงวันทอง ทำให้ผิวสวยประมาณ 3 เดือนก็ทำการตัดมะละกอได้เมื่อได้ผลจะต้องทำการสวมโฟมตาข่ายเพื่อป้องกันผิวช้ำเตรียมบรรจุลงกล่องจำหน่ายต่อไป โดยมะละกอขนาดใหญ่จะส่งห้างสรรพสินค้าชื่อดังขนาดน้ำหนักราว 1.5-2 กิโลกรัมต่อ 1 ลูก,ส่วนขนาดเล็กลงมาจำหน่ายตามตลาดซึ่งทั้งสองขนาดจะมีคนมารับซื้อถึงสวน ในราคากิโลกรัมละ 40 บาทตลอดทั้งปี
หลังจากที่มะละกอออกลูกคุณปรุงจะใช้ผ้าซับในสีขาวหุ้มลำต้นปิดผลมะละกอ การหุ้มห่อมะละกอด้วยผ้าซับในนี้ดีคือทำให้ผิวมะละกอสวยไม่ไหม้จากความร้อนแดด ไม่มีแมลงวันทองเจาะทำไมถึงใช้ผ้าซับในเพราะว่าเป็นผ้าผืนบางเบาเหนียวแข็งแรง แห้งไว ไม่ติดผิวมะละกอที่สำคัญคือทนทานใช้งานได้นาน
คำแนะนำ:การควบคุมคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญ ถึงแม้จะคัดพันธุ์มาอย่างดีแล้วเกษตรกรต้องหมั่นสังเกตต้นมะละกอและผลด้วยว่าเหมือนต้นแม่พันธุ์หรือลักษณะที่ดีของสายพันธุ์แขกดำหรือไม่ถ้าไม่ตรงสายพันธุ์ห้ามนำมาทำพันธุ์ต่อโดยเด็ดขาดเพราะไม่อย่างนั้นพันธุ์จะเพี้ยนไปเรื่อยๆ
ยศวัจน์ คนๆนี้น่าบูชา
มีทางแก้จนได้ไม่ปิดบัง
ขอให้คุณรวยยิ่งๆขึ้นไปนะครับ
มีอะไรดีๆแบ่งความรู้กันบ้างนะครับ
15 พ.ย. 2562 เวลา 13.32 น.
Weerawat S.(Mes̄ʹā) ผมทำมะละกอแขกนวล มะละกอฮอลแลน ราคาขายเองก็ไม่ถึงครับ สำหรับแขกนวลขายได้ 4-25 บาทต่อกิโล แล้วแต่ช่วงครับ สำหรับฮอลแลนด์ ผลสุขลูกละ 15-30 แล้วแต่หน้าครับ เกินนี้ผมว่าเป็นไปได้แต่ยาก
15 พ.ย. 2562 เวลา 12.41 น.
magneto สรุปก็จะมาขายของ
15 พ.ย. 2562 เวลา 12.28 น.
chatree ราคาหน้าสวน 40บาทตลอดทั้งปี ... เกินจริงไปไหม
15 พ.ย. 2562 เวลา 12.23 น.
แตงโม ขอเบอร์โทรศัพหน่อยคับอยากได้พัน
15 พ.ย. 2562 เวลา 12.06 น.
ดูทั้งหมด