ประจวบคีรีขันธ์ - ชาวบ้านหาดทุ่งประดู อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ หมดความอดทนประกาศขายบ้านและที่ดิน หลังปัญหาคลื่นกัดเซาะชายหาด บ้าน ทรัพย์สินพังทุกปี แถมเจอฝุ่นละอองจากถุงบิ๊กแบ็คสีดำ จนส่งผลกระทบให้ตาเจ็บและเกิดอาการผื่นคันตามร่างกาย วอนหน่วยงานภาครัฐ เร่งแก้ปัญหาโดยเร็ว เนื่องจากฤดูมนสุมกำลังมาแล้ว
วันนี้ (15 ต.ค.) เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมภาค 8 จังหวัดราบุรี และ เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างทรายที่อยู่ในถุงบิ๊กแบ็คสีดำ ที่บริเวณชายหาดทุ่งประดู่ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนำมาบรรจุทรายจำนวน 1,000 ถุง กั้นไม่ให้คลื่นซัดบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สุ่มเก็บตัวอย่างในถุงบิ๊กแบ็คสีดำ เมื่อเปิดปากถุงจะพบว่ามีคราบสีดำอยู่ในหน้าทรายอยู่ภายในถุง จึงได้ทำการเก็บตัวอย่างทรายในถุงจำนวน 3 จุดคือตรงกลาง ด้านซ้ายและด้านขวา รวมทั้งเก็บตัวอยู่ทรายปกติชายหาดดังกล่าวด้วย รวมทั้งน้ำทะเล
โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าตัวอย่างที่เก็บทั้งหมด จะส่งเข้าห้องปฏิบัติการที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 8 จ.ราชบุรี ซึ่งอาจต้องใช้เวลาประมาณ 15-1 เดือนถึงจะรู้ผล แต่ยอมรับว่าในถุงมีคราบสีดำปนเปื้อนจริง ซึ่งน่าจะเป็นคราบของคาร์บอน เพราะถุงดังกล่าวเป็นถุงมือสองที่มีการใช้มาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ป้าต้อย ชาวบ้านทุ่งประดู่ ที่อาศัยอยู่บริเวณจุดที่มีการน้ำถุงบิ๊กแบ็คสีดำ มาวางเป็นแนวกั้นการกัดเซาะชายฝั่ง กล่าวยอมรับว่าได้ติดป้ายประกาศขายบ้านและทีดินรวม 1 ไร่ ในราคา 12 บาทจริง หากใครซื้อขายจริงๆ เนื่องจากทนต่อสภาพความเดือดร้อนไม่ไหว บ้านที่ปลูกสร้างมาถูกคลื่นซัดพังหายไป ซ่อมมาถึง 3 ครั้งยอมรับว่าไม่มีเงินที่จะมาซ่อมอีกแล้ว เพราะไม่ได้มีรายได้อะไร และที่ผ่านมานำถุงสีดำมาวางเป็นแนวกันคลื่น ช่วงแรกก็จะมีคราบสีดำปลิวเข้าในบ้านตามพื้น ตามผนัง มีคราบสีดำเดินถอดรองเท้าไม่ได้ ซึ่งตนก็รู้สึกมีอาการแพ้ทั้งเจ็บตาและคันตามร่างกาย ชาวบ้านอย่างป้าไม่รู้หลอกว่าในถุงมีสารเคมีอะไร
รวมถึงชาวบ้านรายอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ริมชายหาดบ้านทุ่งประดูบอกว่า ไม่รู้หรอกว่าในถุงบิ๊กแบ็ค ที่นำมาใส่ทราย วางเป็นแนวป้องกันคลื่นซัดนั้น จะเป็นถุงทีมีสารเคมี เพราะชาวบ้านไม่มีความรู้ พอมีการพูดถึงก็ยอมรับว่ากลัวเหมือนกัน แต่จะทำอย่างไรหากทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จะมาเคลื่อนย้ายออกไปคงไม่ได้ เพราะตอนนี้ใกล้ลมมรสุมจะเข้ามาแล้ว หากเอาออกไปก็ต้องเอาถุงบิ๊กแบ็ค ที่ไม่มีผลกระทบมาเปลี่ยนให้ทันที เพื่อความปลอดภัยในทรัพย์สินของชาวบ้าน
เพราะทุกวันนี้ชายหาดถูกกัดเซาะจนบ้านและทรัพย์สินเสียหายมาโดยตลอด แต่การแก้ไขของจังหวัด ก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ทั้งๆที่ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างหนักทุกวันนี้ ผลัดกันไปเรื่อย เดือนนั้น เดือนนี้ จนถึงปัจจุบันก็ยังเหมือนเดิม
Porr ที่น่าสงสัยคือถุงดำ จนท.น่าจะรู้ดีว่าเป็นถุงใส่อะไร และนำมาวางสร้างทิวทัศน์ได้สวยทรามมาก และอาจเป็นโอกาสของพวกแอบทิ้งของเสียใดๆหรือเปล่า
16 ต.ค. 2562 เวลา 01.37 น.
พีระ ขายจริงป๊ะ เดี๋ยวจะไปรับซื้อสักร้อยไร่พันไร่
16 ต.ค. 2562 เวลา 00.34 น.
ใช้เวลาตรวจสอบ 15-1 เดือน คืออะไร? นักข่าวสมัยนี้
15 ต.ค. 2562 เวลา 23.50 น.
peerinkub ถุงดูน่ากลัว จะมีสารพิษ ใครจะไปซื้อ
15 ต.ค. 2562 เวลา 21.52 น.
Sittichai 2559 พลิกวิกฤติเป็นโอกาส...เปลี่ยนป้ายประกาศขาย เป็นที่พักริมทะเล เปิดบ้านเป็นโฮมสเตย์ ให้พักรายวัน บรรยากาศ ริมทะเลสุดๆๆ ครับ
15 ต.ค. 2562 เวลา 16.09 น.
ดูทั้งหมด