วันนี้ (15 ต.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคพลังประชารัฐ มีการประชุม ส.ส.พรรค เพื่อเตรียมความพร้อมในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 วาระแรกระหว่างวันที่ 17 -19 ตุลาคมนี้ โดยมีนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม โดยมีตัวแทนสำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง มาชี้แจงและให้ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมแก่ ส.ส.พรรค
นายวิรัช แถลงผลประชุม ส.ส.พรรคว่า กำหนดเวลาอภิปรายฝ่ายละ 15 ชั่วโมง รวม 30 ชั่วโมง ขณะที่นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี่ว่าการกระทรวงการคลัง จะมีเวลารวมกัน 2 ชั่วโมง และเผื่อเวลาหากอภิปรายพาดพิง และประท้วงอีก 3 ชั่วโมง รวมทั้งสิ้น 35 ชั่วโมง โดยการอภิปรายวันแรก 17 ตุลาคมนี้จะเริ่มเวลา12.00 - 23.00 น. ใช้เวลา 11 ชั่วโมง ส่วนวันที่ 2 เริ่มเวลา 09.30 - 21.00น. และในวันสุดท้าย 19 ตุลาคม จะเริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น. แต่จบไม่เกินเวลา 18.00 น. ทั้งนี้ วันที่ 16 ตุลาคมนี้เวลา 10.00 น. นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 จะนัดหารือวิปทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อตกลงทำความเข้าใจให้ชัดเจน
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในที่ประชุม ครม.ถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ที่จะมีขึ้นว่า อยากให้คณะรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมทุกคน เนื่องจากหากโหวตกฎหมายดังกล่าวไม่ผ่านในสภา รัฐบาลก็จะอยู่ไม่ได้
ด้าน นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงหลังประชุมวิป 7 พรรคฝ่ายค้านว่า ที่ประชุมหารือเห็นว่าการอภิปรายควรใช้เวลา 3 วัน การอภิปรายงบประมาณครั้งนี้ มีรายละเอียดมาก มีเอกสารถึง 35 เล่ม กับงบประมาณที่ตั้งไว้ 3.2 ล้านล้านบาท ฝ่ายค้านจะทำให้ข้อมูลและอภิปรายมีประสิทธิภาพ ไม่ตั้งโจทย์ทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ไม่สาดโคลน ไม่สร้างวาทะกรรม เพื่อทำลายล้าง แต่จะทำงานด้วยข้อมูล เอาผลประโยชน์ของประเทศ ประชาชน เป็นตัวตั้ง
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน ระบุว่า มีผู้เสนอตัวขออภิปรายแล้วทั้งสิ้น 106 คน โดยเป็นของพรรคเพื่อไทย 66 คน พรรคอนาคตใหม่ 33 - 35 คน พรรคเสรีรวมไทย 2 คน พรรคประชาชาติ 2 คน พรรคเพื่อชาติ 1 คน พรรคพลังปวงชนไทย 1 คน พรรคประชาชาติ 2 คน และพรรคเศรษฐกิจใหม่ 1 คน ยืนยันจะไม่อภิปรายวกวน ซ้ำซาก ซ้ำซ้อน
ขณะที่ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2563 จำนวน 3.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงบประมาณปี 2562 จำนวน 2 แสนล้านบาท ทั้งนี้ งบกลางปี 2563 จำนวน 5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงบกลางปี 2562 กว่า 47,000 ล้านบาท และเมื่อดูเป็นรายกระทรวงมี 5 อันดับแรก ที่ได้งบประมาณมากสุด คือ
อันดับ 1 กระทรวงศึกษา ได้งบประมาณ 368,660 ล้านบาท
อันดับ 2 กระทรวงมหาดไทย ได้งบประมาณ 353,007 ล้านบาท
อันดับ 3 กระทรวงการคลัง ได้งบประมาณ 249,675 ล้านบาท
อันดับ 4 กระทรวงกลาโหม ได้งบประมาณ 233,353 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงบปี 62 จำนวน 6,226 ล้านบาท โดยในส่วนกระทรวงกลาโหม แบ่งเป็น กองทัพบก 113,677 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,300 ล้านบาท กองทัพเรือ 47,277 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,793 ล้านบาท และกองทัพอากาศ 42,882 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,273 ล้านบาท
อันดับ 5 กระทรวงคมนาคม ได้งบประมาณ 178,840 ล้านบาท
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand
ที่อยากเป็นใหญ่เป็นโตกันหนักหนา เพราะได้อ้าปากกว้างรอแดกงบประมาณที่จัดเก็บมาจากภาษีของประชาชน แดกเงินจากน้ำพักน้ำแรงของคนทั้งชาติ ระวังเวรกรรมจะทำให้ล้มละลาย ซึ่งตัวอย่างก็มีให้เห็นมาแล้ว
16 ต.ค. 2562 เวลา 00.31 น.
JATURONG ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
15 ต.ค. 2562 เวลา 15.35 น.
วิศิษฐ์ งบทหาร มากสุดอันดับสี่ มากกว่าสาธารณสุข คมนาคมอีก ยุคทหารมีอำนาจ ซื้อเข้าไป ใครจะตัดลดงบมันบ้าง ขู่จังหากไม่ผ่านยุบสภา ถ้ายุบพวกมึงคงไม่ได้มาอีก
15 ต.ค. 2562 เวลา 15.33 น.
อนาคามี กระทรวงแรงงานน่าจะให้งบเยอะๆเอามาจ่ายค่าประกันว่างงาน อนาคตคนไทยตกงานมากมายแน่นอน
15 ต.ค. 2562 เวลา 15.27 น.
Mai อ่านกันก่อนมั้ยก่อนจะด่าอะไร งบทหารก็ไม่ได้ต่างจากยุคทักษิณ แถมน้อยกว่ายุคยิ่งลักษณ์ถ้าเทียบเป็น เปอร์เซ็นต์ แล้วทุกวันนี้ก็ตรวจสอบได้แล้วไง แต่ไอ้ฝ่ายค้านแม่งวันๆ ไม่มีอะไรค้านพูด โ_ๆ ให้เปลืองค่าแอร์ในสภา ไม่เห็นมีประโยชน์หัวขวดอะไร วันๆจ้องพูดทำลายล้าง อะไรดีก็ไม่เอา อะไรไม่ดีแม่งเงียบขอส่วยด้วยกัน จะทะเลาะเพื่อมันไปทำไม
15 ต.ค. 2562 เวลา 15.24 น.
ดูทั้งหมด