รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักรัฐศาสตร์ อดีตที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โพสต์ Facebook “Panitan Wattanayagorn” ถึงปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า “The New Normal South”
สื่อทั้งในและต่างประเทศต่างก็รายงานว่า สถานการณ์ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ยุคของความรุนแรงครั้งใหม่
เพราะตั้งแต่ต้นปี มีสัญญาณบอกเหตุที่ไม่ดีหลายประการ เช่น ขีดความสามารถของกลุ่มต่อต้านรัฐที่เพิ่มขึ้น แกนนำรุ่นใหม่ของกลุ่มก่อความไม่สงบ เข้ามาแทนที่คนรุ่นเก่ามากขึ้น และ เกิดการเปลี่ยนแปลงในประเทศเพื่อนบ้าน ที่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ในพื้นที่
แม้ว่าตัวเลขสถิติทางการยังคงชี้ให้เห็นว่า ความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินใน จชต.ลดลงมากถึง 3-5 เท่า เทียบจากช่วงปีที่มีเหตุการณ์ความรุนแรงสูงๆ และปัจจุบัน การทำงานของหน่วยงานของภาครัฐและภาคประชาสังคมในพื้นที่ก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้น
แต่ปัจจัยใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นข้างต้น ทำให้ไฟที่กำลังจะมอดไปนั้น เกิดปะทุขึ้นมาอีก เพราะมีความรุนแรงเกิดขึ้นหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีเป้าหมายพลเรือนที่อ่อนแอกว่า (softer targets) เช่น จุดตรวจของอาสาสมัคร หรือการโจมตีเป้าหมายความมั่นคงที่มีจุดอ่อน เช่น โรงพัก หรือที่ตั้งของกองกำลังฝ่ายรัฐ รวมทั้งการออกปฏิบัติการนอกพื้นที่ของกลุ่มก่อความไม่สงบที่เพิ่มขึ้น
ทั้งหมดนี้ นักวิเคราะห์อาจจะเรียกว่าเป็น ความไม่ปกติที่เป็นปกติ (New Normal) ซึ่งทางภาครัฐได้มีการสั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่แก้ไขและปรับเปลี่ยนแผนการรักษาความปลอดภัยในระยะเฉพาะหน้าให้ดีขึ้นแล้ว
หลายคน โดยเฉพาะครอบครัวผู้ที่สูญเสียหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบ อาจจะผิดหวังหรือท้อแท้ต่อสภาพการที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และอีกหลายคนก็คงจะคิดว่า ปัญหาใน จชต.นั้น แก้ไม่ได้แล้ว หรือยิ่งแก้ยิ่งแย่ลง
แต่ Jonathan Powell อดีตหัวหน้าคณะเจรจาปัญหาความขัดแย้งไอร์แลนด์เหนือของอังกฤษ ซึ่งประสบความสําเร็จในการเจรจายุติความขัดแย้งที่ยาวนานกว่า 30 ปี ผู้คนเสียชีวิตไปกว่า 3,500 คน และได้เล่าประสบการณ์ของเขาในการหยุดยั้งการสู้รบกับกองกำลังติดอาวุธของขบวนการแบ่งแยกดินแดนในหนังสือชื่อ Talking to Terrorists : How to End Armed Conflicts ตลอดจนได้เดินทางไปช่วยแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและการแบ่งแยกดินแดนที่รุนแรงในประเทศต่างๆ ทั่วโลกนั้น เขาคิดต่างจากคนไทยหลายๆ คนในเรื่องการแก้ปัญหา จชต.
ในช่วงรัฐบาลที่แล้ว คุณ Jonathan ได้เดินทางไปใน จชต.หลายครั้ง และได้กลับขึ้นมาสรุปให้ฟังว่า ในกรณีของ จชต.นั้น ยังมีความหวังที่จะยุติปัญหาความขัดแย้งและความรุนแรงอยู่ และไทยก็ได้แก้ปัญหาหลายประการไปในทิศทางที่ถูกต้อง เขาบอกอย่างมั่นใจว่าเขาได้เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แล้ว ถ้าเทียบกับหลายปีก่อนหน้านี้ เพียงแต่ว่าต่อไปนี้ไทยจะต้องมีแผนการแก้ปัญหาที่ดีขึ้นและรอบด้านมากขึ้นเท่านั้น
แผนที่ว่านั้น ในปัจจุบันนี้มีแล้วและก็คือ “แผนตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ซึ่งเป็นแผนงานเร่งด่วนในระยะ 5 ปีแรกของการบังคับใช้แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง ซึ่งก็เป็น 1 ใน 6 กรอบการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ของยุทธศาสตร์ชาติ ระหว่างปี 2561-2580
“แผนตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ดังกล่าว เป็นแผนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตและความมั่นคงปลอดภัยของประชาชนในด้านสำคัญๆ ของกว่าเจ็ดพันตำบลเป้าหมายทั่วประเทศ รวมทั้งใน จชต.ด้วย โดยมีตัวชี้วัดและห้วงเวลาปฎิบัติที่ชัดเจน และที่สำคัญคือมีความผูกพันทางกฏหมายกับทุกหน่วยงาน โดยบังคับให้มีการดำเนินการไปในทิศทางเดียวกันและไม่ซ้ำซ้อนกัน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของการบริหารจัดการของภาครัฐของไทยอย่างเป็นระบบและสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลง
ซึ่งการนำยุทธศาสตร์ชาติแบบนี้มาใช้ ก็คล้ายคลึงกับหลายประเทศที่ได้ประสบความสำเร็จในการนำยุทธศาสตร์ชาติมาใช้การพัฒนาประเทศก่อนหน้านี้ เช่น อังกฤษ หรือมาเลเซีย
สำหรับ จชต. แผนตำบลในยุทธศาสตร์ชาติดังกล่าวจะผูกมัดหน่วยงานกว่า 50 หน่วยงาน และกว่า 20 กระทรวงที่มีโครงการต่างๆ ในพื้นที่ ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิผลจริงจังและวัดได้ด้วยตัวชี้วัดที่เป็นสากล ซึ่งหากไม่สำเร็จ ก็อาจจะมีการยื่นเรื่องร้องเรียนเพื่อให้มีการถอดถอนผู้ที่รับผิดชอบในการแก้ปัญหาในอนาคตได้
การที่ภาคประชาชนจะได้นำแผนพัฒนาต่างๆ ในยุทธศาสตร์ชาติไปเป็นแนวทางผลักดันให้สถานการณ์ใน จชต.ดีขึ้นนั้น จะเป็นแสงสว่างที่แท้จริงในอุโมงค์ ซึ่งจะนำพาทุกคนให้ออกจากอุโมงค์ไปสู่โลกภายนอก
เพราะในที่สุดแล้ว คนในพื้นที่จะรู้ดีว่าอะไรเหมาะสมกับท้องถิ่นของตนเอง และเมื่อมีเครื่องมือใหม่ คือยุทธศาสตร์ชาติที่สามารถใช้กำหนดวิถีการพัฒนาของท้องถิ่นได้แล้ว การแก้ปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็จะเข้าสู่ยุคใหม่ (The New Normal South) ที่สงบสุขและปกติอย่างแท้จริง
mu Macgyver โถ..ป้อมแบบนั้นกูท้าให้ซีลไปอยู่เลย รับรองได้ขี่โหลกลับบ้าน ถ้าคนเคยรบมองปั้งเดียวก็รู้ มันศาลาพักศพชัดๆ ใครมันคนออกแบบวะต้องเอาไอ้นี่ไปยิงทิ้งก่อนเลย
09 พ.ย. 2562 เวลา 13.09 น.
gorn ปัญหาของรัฐบาลทหารคือ มีแผนแต่นำไปปฏิบัติไม่เป็น ชอบสร้างภาพ ดูอย่างการปิดโรงเรียนที่ราชบุรี เพราะนายกฯจะเดินทางไปประชุม เพราะกลัวรถติด กลัวเกิดภาพที่ไม่ดี กลายเป็นนายกฯไม่เคยเห็นความจริงในสังคม ประชาชนเป็นอยู่ยังไง เดือดร้อนอะไร เพราะภาพถูกเซตให้สวยงามก่อนที่นายกฯจะไปดู ไปถึงก็มีแต่คนเอาดอกไม้มาให้
09 พ.ย. 2562 เวลา 12.24 น.
@mnatton "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา" ที่ในหลวง ร.9 ทรงพระราชทานไว้น่าจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำสันติสุขกลับสู่ชายแดนใต้อย่างแท้จริง
ชาวบ้านในพื้นที่คือผู้ที่รู้ดีที่สุด แต่เขาไม่กล้าให้ข่าว ไม่กล้าให้ความช่วยเหลือ จนท.รัฐ ส่วนหนึ่งมาจากความปลอดภัย เพราะ จนท.รัฐ ไม่สามารถคุ้มครองและรับประกันความปลอดภัยให้เขาได้ ส่วนหนึ่งเกิดจากการไม่ไว้วางใจ จนท.รัฐ เพราะเรา "เข้าไม่ถึง" เขา จะทำอย่างไรถึงจะเข้าถึง เพื่อให้เขาร่วมมือและช่วยเหลือ จนท.รัฐ ทำได้เมื่อไร ก็แก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ได้เมื่อนั้น
09 พ.ย. 2562 เวลา 13.08 น.
ไอ้บ้า ดีแต่พูดน้ำเน่าเหม็นขี้ฟัน. .ตายห่ากี่พันศพแล้ว เจ้านายมึงเก่งแต่ปากหายหัวเข้ากระดองปล่อยให้ลูกน้องตายห่ากันหมดพวกมึงแดกเงินเดือนนั่งห้องแอร์สบาย ถุยยยยยท. .....ดีแต่ว่าคนกรุงเทพหนักแผ่นดิน. พวกหนักแผ่นดินตัวจริงอยู่ 3. จว.ภาคใต้ กล้าลงไปป่าว
09 พ.ย. 2562 เวลา 13.14 น.
Prapant w. เก่งแต่ปาก เก่งหลังเหตุการณ์เกิด
09 พ.ย. 2562 เวลา 13.00 น.
ดูทั้งหมด