พีเอฟเอ ประกาศ 6 ผู้เข้าชิงรางวัลแข้งยอดเยี่ยมแห่งปีออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งแต่ละคนก็ถือว่ามีความเหมาะสมและมีความยอดเยี่ยมสร้างผลงานที่ดีกับทีมแตกต่างกันไป วันนี้ขอบสนามจะพามาวิเคราะห์ว่านักเตะคนไหนใน 6 คนที่เหมาะกับรางวัลนี้มากที่สุดในปีนี้
*1. เซร์คิโอ อเกวโร่ *
สิ่งที่น่าเหลือเชื่อคือนับตั้งแต่เจ้าตัวย้ายมาค้าแข้งที่พรีเมียร์ลีก อเกวโร่ กุน ยังไม่เคยได้สัมผัสกับรางวัลนี้เลยสักครั้งเดียวถึงแม้จะมีหลายฤดูกาลที่เจ้าตัวสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งต้องบอกว่าซีซั่นนี้โอกาสของเจ้าตัวได้กลับมาอีกครั้ง ซึ่งในตอนนี้ยิงไปแล้ว 19 ประตู นำดาวซัลโวร่วมกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ปิแอร์ -เอเมอริค โอบาเมยอง รวมถึงทำไปแล้วถึง 7 แอสซิสต์ การนำเป็นดาวซัลโวร่วมของ พรีเมียร์ลีก ในตอนนี้ ถือเป็นการยืนยันว่าเขาคือหนึ่งในกองหน้าชั้นยอดคนหนึ่ง โดยเจ้าตัวยังมีโอกาสยิงเพิ่มสถิติของตัวเองเพื่อลุ้นรางวัลดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกอีกด้วย เพราะยังมีเกมเหลือในลีกให้เขาได้ลงแข่ง อย่างไรก็ตามแม้ผลงานของเจ้าตัวจะยอดเยี่ยม แต่ถ้าเทียบกับ ฟาน ไดจ์ค และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ก็อาจจะดร็อปกว่าทั้ง 2 คนในเรื่องของความโดดเด่นจนเป็นที่พูดถึง ซึ่งเขาต้องรอคอยรางวัลนี้ต่อไป
2. เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค
เต็งจ๋าที่สื่อทุกสำนักยกให้เป็นเบอร์ 1 ที่มีสิทธิ์คว้ารางวัลนี้ไปครอง ต้องยอมรับว่ากองหลังค่าตัวแพงที่สุดในโลกรายนี้เป็นนักเตะที่มีส่วนสำคัญที่พา ลิเวอร์พูล ก้าวขึ้นมาลุ้นแชมป์ลีกได้อย่างเต็มตัวนั้นก็คือการมีปราการหลังที่ไว้ใจได้อย่าง ฟาน ไดจ์ค เพราะไม่ว่าจะลูกบนพื้น หรือกลางอากาศเจ้าตัวมักที่จะเก็บกินได้หมด นอกจากนั้นใครก็ตามที่ได้มาจับคู่เล่นกับเขาก็เหมือนเป็นการยกระดับเพื่อนร่วมทีมไปในตัวด้วย ซึ่งนอกจากเกมรับแล้ว เกมรุกของเขาก็ถือว่าทำได้เยี่ยมไม่แพ้กันโดยเฉพาะการขึ้นไปลุ้นทำประตูจากลูกตั้งเตะ ด้วยความครบเครื่องของกองหลังชาวดัตช์ในฤดูกาลนี้ หลายคนต่างออกมายกย่องว่านี่คือปราการหลังที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งหาก ลิเวอร์พูล ไม่มีเขาอาจจะไม่ไม่ได้ลุ้นแชมป์ลีกจนถึงทุกวันนี้ นั่นทำให้เขาคู่ควรทุกประการกับการเป็นกองหลังคนแรกนับตั้งแต่ จอห์น เทอร์รี่ เมื่อฤดูกาล เมื่อฤดูกาล 2004/2005 ที่ได้รับรางวัลนี้
3. แบร์นาร์โด้ ซิลวา
ผลงานในฤดูกาลนี้ถือว่ายอดเยี่ยม ได้รับโอกาสจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ให้ลงสนามอย่างต่อเนื่องหากไร้ปัญหาอาการบาดเจ็บ มีเพียงบางนั้นเท่านั้นที่ตกเป็นสำรอง แต่ก็ถูกส่งลงมาเป็นคีย์แมนสำคัญช่วยทีมได้เสมอ โดยเฉพาะฟอร์มในเกมที่ช่วย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านยัดเยียดความปราชัยนัดแรกของฤดูกาลให้กับ ลิเวอร์พูล โดยในเกมดังกล่าว แบร์นาโด ซิลวา ลงเป็นตัวจริงและทำสถิติวิ่งถึง 13.7 กิโลเมตร ซึ่งเป็นสถิติมากสุดต่อหนึ่งซีซั่นของศึกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ จนทำให้เขาได้รับรางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครอง หลังจบเกม ส่วนผลงานในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ทำไปแล้ว 6 ประตู กับอีก 8 แอสซิสต์ แต่ทว่าถึงแม้ผลงานโดยรวมจะยอดเยี่ยมแต่ถ้าพูดถึงความต่อเนื่องและความโดดเด่นเทียบกับอีก 5 คนที่เหลือแล้วก็ต้องยอมรับว่าเจ้าตัวมีความโดดเด่นน้อยที่สุดจากทั้งหมดที่มีชื่อติดโผเข้ามา
4. ซาดิโอ มาเน่
มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ มาเน่ ฟอร์มดร็อปลงไป แต่สุดท้ายก็สามารถงัดฟอร์มช่วย ลิเวอร์พูล โกยแต้มโดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2018/2019 นี้ในยามที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ฟอร์มตกไม่เปรี้ยงเหมือนเคย มาเน่ ซัลโวไปแล้วถึง 18 ประตู ซึ่งในช่วงหลังเจ้าตัวทำประตูได้จากการสอดขึ้นไปโหม่งอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ ลิเวอร์พูล มีความหลากหลายในเกมรุกมากขึ้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคนที่เป็นตัวแปรสำคัญช่วยให้ เร้ดแมชีน ขับเคี่ยวแย่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเวลานี้ แต่ต้องยอมรับกันตามตรงว่าถ้าเทียบกับฟอร์มโดยรวมกับคนอื่นในกลุ่มเข้าชิงรางวัลนี้ เขาอาจจะมีความเหมาะสมที่จะได้รางวัลนี้น้อยที่สุด
5. ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
เป็นฤดูกาลที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้ปล่อยของและเฉิดฉายมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ซึ่งมันเห็นได้ชัดว่า สเตอร์ลิ่ง มีการพัฒนาที่ยอดเยี่ยมจากทั้งรูปแบบการเล่นและการจบสกอร์ เจ้าตัวพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาได้เรื่อย และฤดูกาลนี้กลายเป็นกองกำลังหลักสำคัญของทีม พร้อมกับสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยม ช่วย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีเกมรุกที่จัดจ้าน และเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รักษามาตรฐานลุ้นแชมป์ได้อยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ สเตอร์ลิ่ง ทำไปแล้ว 17 ประตู กับอีก 9 แอสซิสต์ เรียกได้ว่าโดดเด่นไม่แพ้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ดาวยิงของทีม รวมไปถึงยังเด่นกว่าด้วยซ้ำ ดังนั้นไม่น่าแปลกใจถ้าหากเจ้าตัวจคว้ารางวัลนี้ในฤดูกาลนี้ไปครอง
6. เอแด็น อาซาร์
สำหรับอนาคตของเจ้าตัวยังคงไม่แน่นอน แต่บทบาทในทัพสิงห์บลูส์เขาคือเดอะแบกของทีม ที่นัดไหนไม่มีเขาลงสนาม เชลซี แทบจะทำอะไรคู่แข่งไม่ได้เลย ผลงานและอิทธิพลที่เขาสร้างไว้กับ เชลซี จัดว่ายอดเยี่ยมมาก ทำไปแล้ว 16 ประตูกับอีก 12 แอสซิสต์ รวมแล้วมีส่วนกับการทำประตูให้ทีมไปถึง 28 ประตูในพรีเมียร์ลีก อย่างไรก็ตามผลงานของ เชลซี เองไม่ส่งให้ อาซาร์ โดดเด่นในปีนี้เท่าไหร่นักเมื่อเทียบกับที่เหลือทั้งหมด แต่ก็มีลุ้นเล็ก ๆ อยู่บ้างสำหรับรางวัลนี้
- เปี๊ยกบางใหญ่ -
ฟานไดท์ โอเคร
23 เม.ย. 2562 เวลา 10.37 น.
Chay Chummano ฟานไดซ์ 1 เสียง
23 เม.ย. 2562 เวลา 11.34 น.
บพิตร แอดมิน มาเน่
23 เม.ย. 2562 เวลา 13.10 น.
Chalee N. ลูกากู ทำไมไม่ติด
23 เม.ย. 2562 เวลา 12.07 น.
ฟานไดจ์ค กับ สเตอริง.. ภาษีฟานไดจ์ค..ดีกว่านิดๆ
23 เม.ย. 2562 เวลา 17.05 น.
ดูทั้งหมด