หนุ่ม แจงปม บิลค่าขนศพ แพงหูฉีก 3.4 หมื่น หลังโพสต์ถาม ชาวโซเชี่ยล

*หนุ่ม แจงปม บิลค่าขนศพ แพงหูฉีก 3.4 หมื่น หลังโพสต์ถาม ชาวโซเชี่ยล *

ล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Chook Kaweepol ได้โพสต์ข้อความ ชี้แจง หลังจากที่เคยโพสต์ภาพบิลค่าดำเนินการ ขนย้ายศพที่มีราคาสูงถึง 3.4 หมื่นบาท โดยผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า  ชี้แจงครับ จากการที่โพสต์สอบถามเพื่อนๆพี่ๆทั้งหลาย ตอนนี้ผมใด้คำตอบแล้ว จากพี่ท่านหนึ่ง ตามนี้ครับ #ผมขอเรียนให้ทราบดังนี้นะครับ แต่ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่า “ผมไม่ได้ปกป้องสังคมคนอาสา” และรู้ดีว่า “อาจจะไม่มีใครอ่าน” เพราะตั้งหน้าตั้งตาจะด่าอาสากันอยู่แล้ว เหตุการณ์กรณีแบบนี้ เกิดจาก 1.ฝ่ายบริหารจัดการศพของโรงพยาบาล ซึ่งในที่นี้จะเป็น ร้านโรง บริษัทเอกชน หรือแล้วแต่จะเรียก เข้ามารับสัมปทานในกิจการบริหารจัดการศพ ติดต่อกับญาติผู้วายชนม์เสนอการบริการ ต่างๆให้กับญาติ

2.ญาติอยู่ในภาวะกำลังเศร้าโศกเสียใจ มืดมิด คิดอะไรไม่ออก ก็รับข้อเสนอโดยไม่ทันได้ฉุกคิด เมื่อคิดได้ ก็รับบริการ และจ่ายเงินไปแล้ว 3.ฝ่ายบริหารจัดการศพ คุยกับญาติ ตกลงค่าใช้จ่ายกันที่เท่าไหร่ มีเพียงฝ่ายบริหารจัดการศพ และญาติเท่านั้นที่รู้เรื่อง 4.ฝ่ายบริหารจัดการศพ ติดต่อรถของอาสามูลนิธิมาช่วยวิ่ง ซึ่งจากกรณีนี้ (ที่จันทบุรี) ได้มีการสอบสวนจากต้นสังกัดแล้ว

ทราบว่า อาสาได้รับว่าจ้างจากฝ่ายบริหารจัดการศพในเรื่องค่ารถอยู่ที่วงเงิน 20,000บาท อาสามิใช่ผู้ไปร่วมเจรจาค่าใช้จ่าย แต่อาสารับการว่าจ้างจากฝ่ายบริหารจัดการศพ 5.บิลค่าใช้จ่ายต่างๆถูกออกโดยฝ่ายบริหารจัดการศพ ไม่ใช่การออกบิลโดยอาสา หรือรถของอาสา

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่

#ต่อไปคือข้อเสนอแนะ  ทั้งนี้ข้อเสนอเป็นความเห็นส่วนตัวของผม “จ่าคิงส์ อาสาอิสระ” แต่เพียงผู้เดียว ไม่เกี่ยวกับต้นสังกัด หรืออาสาท่านอื่นๆ  ข้อที่1.มูลนิธิ สมาคม องค์กร หน่วยงาน ควรออกมาตรการ ข้อกำหนด ระเบียบ มากำกับดูแลรถอาสาในสังกัด ให้ระมัดระวัง และใช้วิจารณญาณในการรับจ้างขนย้ายศพ หรือรีเฟอร์ผู้ป่วย ข้อที่2.มูลนิธิ สมาคม องค์กร หน่วยงานควรมีข้อบังคับเรื่องการนำเครื่องแบบอาสา และรถที่มีเครื่องหมายหน่วยงาน มาใช้ในภารกิจการรับจ้างเคลื่อนย้ายศพ หรือรีเฟอร์ผู้ป่วย

ข้อที่3.การไปร่วมงานกับฝ่ายบริหารจัดการศพ หรือการรับจ้างรีเฟอร์ผู้ป่วย หากใช้รถของอาสา ต้องได้รับอนุญาตจากทางต้นสังกัด และข้อสุดท้าย ขอฝากไปถึงญาติผู้ป่วย ญาติผู้เสียชีวิต เรื่องราวของการหากินบนความตาย มีข่าวนำเสนออยู่อย่างต่อเนื่อง และมีตัวอย่างให้เห็นอยู่เนืองๆ อีกทั้งหน่วยงานด้านอาสาสมัคร ก็มีทำประชาสัมพันธ์อยู่ตลอด เรื่องของการช่วยเหลือโลงศพฟรี หรือรถเคลื่อนย้ายลำเลียงผู้ป่วย และร่างผู้เสียชีวิต โดยคิดราคาตามจริงจากค่าน้ำมัน ค่าอาหารการกินของเจ้าหน้าที่อาสา

หากท่านได้รับการเสนอจากฝ่ายบริหารจัดการศพ แล้วท่านคิดว่าท่านรับไม่ได้ รับไม่ไหว ท่านสามารถติดต่อหน่วยงานอาสา หรือติดต่อมูลนิธิกู้ภัยต่างๆ ซึ่งมีอยู่ทุกๆจังหวัด หรือติดต่อผ่านมาทางผมได้ ผมจะช่วยเหลือจัดหาหน่วยงาน และรถของอาสา ไปร่วมวิ่งให้การช่วยเหลือ ในราคาของอาสา ถ้ายากจน (ยากจนจริงๆ) ก็ขอรับการช่วยเหลือมาได้

พวกที่เขาทำงานรับบริหารจัดการศพ มันเป็นอาชีพของเขา เขาก็ต้อง แสวงหาผลกำไร และกอบโกย โดยใช้วิธีหว่านล้อมญาติต่างๆ นาๆ เพื่อให้ธุรกิจของเขาไปต่อได้  แต่เรื่องของการทำธุรกิจ มันต้องยินยอมทั้ง2ฝ่าย ดังนั่นในฐานะลูกค้า ถ้าท่านไม่ยอม และไม่ยินดีใช้บริการซะอย่าง ใครก็บังคับท่านไม่ได้ แต่ถ้าเลือกใช้บริการไปแล้ว ทางเราซึ่งเป็นอาสาก็แก้ไขอะไรไม่ได้ครับ ขอฝากไว้ให้พิจารณากันนะครับ

ขอบคุณมาก ครับ ทุกความคิดเห็น ตอนนี้ ศพเพื่อนผมถึงบ้านแล้ว ขอบคุณผู้ที่ดำเนินการ เอาศพออก แล้วเพื่อนๆที่ช่วยกันร่วมสมทบทุน และเถ้าแก่ของเพื่อนผม ทำให้ผ่านไปด้วยดี การที่ผมเอามาโพสต์ เพื่อสอบถาม เผื่อใครเคยมีประสบการณ์หรือเคยผ่านมา มิใด้มีเจตนาทำให้องค์กรหรือหน่วยงานใดเสียหาย และหาก เป็นการกะทำส่วนตัวของผู้รับจ้างส่งศพ

ก็ไม่น่านำรถที่ติด โลโก้ ของหน่วยงานนั้นมาใช้ เพราะอาจทำให้ เข้าใจผิดใด้ว่าเป็นรถของมูนิธิ ส่วนผู้ที่เดินเรื่องมิใด้เกี่ยวข้องด้วย ต่อการโพสต์ของกระผม หากแต่ตัวผมและเพื่อนบางคนมีข้อสงใส จึงใด้สอบถามมายัง ทุกท่านว่า ทำไมราคามันถึงสูง หรือ ใช้หลักการคิดแบบไหน เท่านั้นเอง ขอขอบคุณอีกครั้งครับ สอบถามไปแล้ว ตัวเลขมิใด้มีการ แก้ไข ครับผม

cr.Chook Kaweepol