ทั่วไป

#Huawei ขึ้นเบอร์ 1 ทวิตฮิตในไทย-ชาวเน็ตตื่นตัวผลกระทบ “หัวเว่ย” โดนแบน

ประชาชาติธุรกิจ
อัพเดต 31 มี.ค. 2565 เวลา 10.56 น. • เผยแพร่ 20 พ.ค. 2562 เวลา 05.49 น.

บรรดาผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งในไทยและทั่วโลก ต่างวิตกกังวล หลังสำนักข่าว “รอยเตอร์” รายงานข่าวว่า สมาร์ทโฟนของหัวเว่ย อาจจะได้รับผลกระทบจากการถูกสหรัฐอเมริกาขึ้นบัญชีดำ โดยเฉพาะ “Google” ที่อาจจะต้องระงับการช่วยเหลือทางเทคนิคและอัพเดทระบบปฏิบัติการ Andriod บนสมาร์ทโฟนของ “หัวเว่ย”  ทำให้ #Huawei ติดอันดับเทรนด์ทวิตเตอร์ซึ่งเป็นช่องทางสื่อสารของคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของสมาร์ทโฟน “หัวเว่ย”  โดยเฉพาะในไทย#Huawei ไต่อันดับขึ้นมาอยู่ในเบอร์ 1 ของเทรนด์ทวิตตั้งแต่เวลา 11.30 วันที่ 20 พ.ค. 2562  ขณะที่ทั่วโลกอยู่ในอันดับ 15 ด้วยยอดกว่า 3 แสนทวิต

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

รวมถึงบรรดาเว็บบอร์ดสาธารณะก็มีผู้ตั้งกระทู้ถามเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสมาร์ทโฟน “หัวเว่ย” อาทิ ห้องมาบุญครองในเว็บไซต์ pantip.com

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แม้ล่าสุดในบัญชีทวิตเตอร์ทางการของAndroid (@Android)  จะออกแถลงการณ์สั้นๆ หลังจากมีผู้ใช้สมาร์ทโฟนหัวเว่ยสอบถามเข้ามาจำนวนมาก โดยยืนยันว่า จะยังคงให้บริการ Google Play และอัพเดตความปลอดภัยจาก Google Play Protect ให้กับอุปกรณ์ Huawei รุ่นปัจจุบัน

โดยระบุว่า “For Huawei users’ questions regarding our steps to comply w/ the recent US government actions: We assure you while we are complying with all US gov’t requirements, services like Google Play & security from Google Play Protect will keep functioning on your existing Huawei device.”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แต่ก็มีข้อสงสัยว่า แล้วสำหรับ สมาร์ทโฟนของ “หัวเว่ย” ที่จะออกวางจำหน่ายต่อไป จะมีอนาคตเช่นไรกับระบบปฏิบัติการ Android

ขณะที่เมื่อเร็วๆ นี้ “หัวเว่ย” ได้เปิดเผยว่า ยอดขาย สมาร์ทโฟน “หัวเว่ย” ทั่วโลก อยู่ที่กว่า 200 ล้านเครื่อง ทำรายได้ 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 40% ขณะที่ในประเทศไทยหัวเว่ยมีรายได้เติบโต 60% พร้อมกับตั้งเป้าเติบโตในไทย 50% ในปีนี้ และที่ผ่านมาหัวเว่ยได้เปิดตัวสินค้าเรือธง “Huawei P30 Series” ที่มีจุดเด่นกล้องซูม 50 เท่า

ด้านผลสำรวจของบริษัทวิจัย IDC ระบุในผลวิเคราะห์ตลาดสมาร์ทโฟนไตรมาส 1 ปี 2562 ว่า  “หัวเว่ย” ได้ก้าวขึ้นสู่เบอร์ 2 ในฐานะผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเพียงรายเดียวที่อยู่ในอันดับต้น ๆ ของตลาดที่เห็นปริมาณการเติบโตในช่วงไตรมาส 1 ปีนี้  ขณะที่ตลาดรวมสมาร์ทโฟนมีปริมาณการจัดส่งสินค้าลดลง 6.6%  โดยมีการเติบโตปีต่อปีที่ 50.3% มียอดจัดส่ง 59.1 ล้านเครื่อง และมีส่วนแบ่งการตลาด 19.0%  ทั้งยังมีความโดดเด่นอย่างต่อเนื่องจากการที่มีสินค้าครอบคลุมตลาดตั้งแต่ราคาถูกจนถึงไฮเอนด์

ขณะที่ก่อนหน้านี้ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ จำกัด ได้ออกแลงการณ์ถึงกรณีที่มีชื่อใน Entity List ว่า “หัวเว่ยไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของสำนักงานด้านอุตสาหกรรมและความปลอดภัย (BIS) กระทรวงพาณิชย์ สหรัฐอเมริกาการตัดสินใจนี้ไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายใดทั้งสิ้น และยังจะสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อบริษัทอเมริกาซึ่งหัวเว่ยทำธุรกิจด้วย รวมถึงตำแหน่งงานอีกหลายหมื่นตำแหน่ง ทั้งยังขัดขวางความร่วมมือที่ดำเนินอยู่และความไว้วางใจซึ่งกันและกันในระบบซัพพลายทั่วโลกอีกด้วย ทั้งนี้ หัวเว่ยจะหามาตรการเยียวยาโดยทันที รวมถึงทางออกในเรื่องนี้ โดยเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อลดผลกระทบจากเหตุการณ์นี้”

 

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 2
  • Bond AIT
    ใช้ Playstore ไม่ได้ ก็ลง . Apk จบบบบบ
    20 พ.ค. 2562 เวลา 08.06 น.
  • @Bird@
    หัว...
    20 พ.ค. 2562 เวลา 07.00 น.
ดูทั้งหมด