เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ นายธีรวัฒน์ วุฒิคุณ ผู้ว่าราชการ จ.บุรีรัมย์ ประธานในการจัดงาน “พันธุ์บุรีรัมย์” มหกรรมความรู้เกี่ยวกับกัญชาทางการแพทย์ ระหว่างวันที่ 19-21 เม.ย.กล่าวว่า ตนรู้สึกยินดีที่ได้มาร่วมงานในวันนี้ หลาย ๆ ประเทศได้ปลดปล่อยและปลดล็อกกัญชาเป็นพืชสมุนไพร และนำมาใช้ทางการแพทย์รักษาโรคได้จริง ซึ่งไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มยาเสพติดแล้ว ขณะที่ไทยยังเป็นพืชที่จัดอยู่ในพ.ร.บ.ยาเสพติด แต่อีกด้านของสังคมก็ยอมรับว่า ไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีพันธ์ุกัญชาที่ดีที่สุด สามารถบรรเทาและยับยั้งเซลล์ของโรคมะเร็งได้
นายเนวิน ชิดชอบ เปิดเผยหลังพิธีการเปิดงานอย่างเป็นทางการว่า ในวันนี้มีทั้งผู้บริหารและนักวิชาการ ตัวแทนหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ รวมทั้งองค์กรภาคประชาชนที่เกี่ยวเนื่องกับกัญชา โดยตลอดทั้ง 3 วันจะเป็นประโยชน์แก่พี่น้องประชาชนอย่างมาก ซึ่งหลังจากนี้กัญชาจะไม่ใช่แค่พืชที่ถูกตราว่าเป็นยาเสพติด แต่จะเป็นเสมือนบัตรทองที่ใช้รักษาโรค และรักษาโรคแก้ความจนให้กับประชาชนคนไทย แต่จะทำอย่างไร มีวิธีการและขั้นตอนครอบครองตามกฎหมายที่ถูกต้อง จึงได้เกิดงานนี้ขึ้นมา โดยมีทั้งนพ.สมยศ กิตติมั่นคง ให้ข้อมูลประชาชนเรื่อง กัญชาเพื่อการแพทย์ ประเภทและการผลิตกัญชาทางการแพทย์ ส่วนเรื่องกัญชาพืชเศรษฐกิจและสังคมในอนาคต โดย ศ.ดร.สิริวัฒน์ วงษ์ศิริ อย่างไรก็ตาม การเสพติดสารชนิดอื่นให้โทษมากกว่า เช่น บุหรี่ แอลกอฮอล์ กลับจำหน่ายอย่างถูกกฎหมายและไม่มีประโยชน์ แต่ทำไมกัญชารักษาโรคได้ แต่ผิดกฎหมาย
“วันนี้เราหรือญาติอาจตายเพราะเป็นหนี้มากกว่าตายเพราะโรคด้วยซ้ำ เนื่องจากต้องใช้เงินซื้อยานำเข้าจากต่างประเทศ แต่แท้จริงแล้วไทยก็มีพันธุ์กัญชาที่สำคัญ และเป็นพืชที่รักษาโรคได้ และสามารถเปลี่ยนชีวิตของคนไทยทั้งประเทศ ฉะนั้นรัฐบาลใช้มาตรา 44 ปลอดล็อกกัญชาเถอะครับท่านนายกฯ” นายเนวิน กล่าว
นายเนวิน ยังกล่าวอีกว่า ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่ประชาชนมีคุณภาพชีวิตดีที่สุดประเทศหนึ่งในโลก และมีมาตรการควบคุมการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ด้านความปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ดีที่สุดประเทศหนึ่งของโลก ได้มีการจำหน่ายเครื่องดื่มผสมกัญชา ในร้านจำหน่ายสินค้าทั่วไปอย่างเปิดเผยและได้รับความนิยม ไม่น้อยกว่าเครื่องดื่มอื่นๆ สิ่งเหล่านี้คือตัวอย่างสินค้าที่คนไทยทำได้ และมีตลาดรองรับ อยู่ที่เราจะเลือกว่าเราเลือกเป็นผู้ผลิตเพื่อจำหน่าย สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ หรือ เลือกที่จะเป็นผู้ซื้อ ผู้บริโภค และต้องจ่ายเงินออกไป กัญชาไม่ใช่แค่ยาเพื่อผู้ป่วย แต่เพื่ออุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ยังเป็นโอกาสใหม่ของคนไทย.
Prawet.w แสดงว่าเขาจะร่วมรัฐบาลกับประชารัฐ 100%
19 เม.ย. 2562 เวลา 12.56 น.
Kho ถ้าจะเป็นทางการแพทยก็ต้องเป็นระบบปิดควบคุมไปครับ จะเป็นเสรีปลูกได้ทุกบ้านก็จะเป็น สูบแทนบุหรี่กันทุกบ้านครับ ทุกอย่างเป็นทั้งยาเป็นทั้งโทษ พวกคุณเคยเห็นคนเมากันชาหรือเปล่าครับ ถ้าเสรีก็จะเมาทั้งเมืองกลัวจะยิ่งส่งเสริมเยาวชนสิครับ ปลูกกันได้ทุกบ้าน นี้หรือชูเศรฐกิจประเทศ ผมว่าเน้นส่งเสริมปลูกพืชสมุนไพรของไทย มีดีอีกเยอะที่สามารถทำยาได้
19 เม.ย. 2562 เวลา 13.23 น.
ผิดหวังแต่ไม่มากเพราะรู้ผลต้องออกแบบนี้ทำเพื่อบ้านตัวเองนึกถึงแต่ประโยชน์ของตนเป็นที่ตั้ง
19 เม.ย. 2562 เวลา 13.09 น.
AAA ชัดเจน เยี่ยมครับ ลุงเน
19 เม.ย. 2562 เวลา 13.10 น.
KTU ... เห็นด้วยอย่างยิ่ง...
น้ำชาหวานๆ ฆ่าคน ที่เป็นโรคเบาหวาน ปีล่ะกี่คน...
คิดกันบ้าง...บริษัท ขายชาน้ำหวาน รวยปีๆหลายพันล้าน...มันสนใจ กันไม๊....นายทุนถ้าเห็นแก่ผลประโยชน์ อนาคต ก็ไม่มีคน กินน้ำหวาน อยู่ดี เพราะคนในประทศ ตายกันหมด...ประเทศก็ป่วยเป็นลูกโซ่...
หยุดนายทุนได้แล้วสมัยนี้...
19 เม.ย. 2562 เวลา 13.22 น.
ดูทั้งหมด