หุ้นร่วง7.97จุด ขานรับปัจจัยความเสี่ยงศก.โลกชะลอตัว

วันนี้ (17 ธ.ค. 61) ตลาดหลักทรัพย์ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,601.48 จุด ลดลง 7.97 จุด (-0.50%) มูลค่าการซื้อขาย 39,756.77 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผย ตลาดหุ้นไทยวันนี้ค่อนข้างผันผวน ความเสี่ยงยังมากจากความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัวหลังตัวเลขจีน-ยุโรปต่ำกว่าคาด ส่วนสงครามการค้า-Brexit ยังต้องตามต่อ

ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งแคบทั้งบวก-ลบ ส่วนยุโรปติดลบเล็กน้อย ตลาดฯยังไร้ปัจจัยบวกใหม่หนุนการรีบาวด์จึงลำบาก อีกทั้งกลางสัปดาห์นี้ต้องติดตามการประชุมเฟด-กนง. และพรุ่งนี้ (18 ธ.ค.) ประธานาธิบดีของจีนกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันครบรอบ 40 ปีแห่งการเปิดประเทศและการปฏิรูป คาดพรุ่งนี้ (18 ธ.ค.) ตลาดฯคงยังผันผวน ให้แนวรับ 1,595-1,600 ถัดไป 1,585 แนวต้าน 1,610-1,620 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,601.48 จุด ลดลง 7.97 จุด (-0.50%) มูลค่าการซื้อขาย 39,756.77 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,615.63 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,593.37 จุด ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 302 หลักทรัพย์ ลดลง 1,067 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 392 หลักทรัพย์

ขณะที่นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ค่อนข้างผันผวน มองความเสี่ยงของตลาดฯยังมีมากจากความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยตัวเลขเศรษฐกิจของจีนและยุโรปต่างออกมาต่ำกว่าคาด และยังต้องติดตามประเด็นสงครามการค้า รวมถึงประเด็นการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย ส่วนตลาดในยุโรปก็เคลื่อนไหวในแดนลบเล็กน้อย ทั้งนี้มองว่าตลาดฯยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา ดังนั้นการรีบาวด์จึงเป็นไปได้อย่างลำบาก

นอกจากนี้ ในช่วงกลางสัปดาห์นี้จะต้องติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ย และในวันพรุ่งนี้ (18 ธ.ค.) ประธานาธิบดีจีนจะกล่าวสุนทรพจน์ในโอกาสการประชุมเนื่องในวันครบรอบ 40 ปีแห่งการเปิดประเทศและการปฏิรูป

ทั้งนี้ แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (18 ธ.ค.) นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังผันผวน พร้อมให้แนวรับ 1,595-1,600 จุด ถัดไป 1,585 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,610-1,620 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,914.32 ล้านบาท ปิดที่ 124.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,218.57 ล้านบาท ปิดที่ 70.00 บาท ลดลง 1.00 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,879.19 ล้านบาท ปิดที่ 48.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,525.31 ล้านบาท ปิดที่ 135.00 บาท ลดลง 3.50 บาท

EA มูลค่าการซื้อขาย 1,138.00 ล้านบาท ปิดที่ 45.50 บาท ลดลง 1.75 บาท