ทั่วไป

ผมนี่แหละแพทยสภา พลังจิต “เอ ตาทิพย์” โวเท้าเหยียบหน้าผิดตรงไหน ท้าจะจับก็รีบมา (คลิป)

Amarin TV
อัพเดต 25 ส.ค. 2560 เวลา 19.03 น. • เผยแพร่ 25 ส.ค. 2560 เวลา 19.02 น. • AmarinTV

จากกรณีโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพและคลิปการรักษาโรคด้วยการใช้เท้าเหยียบ หรือ บาทาบำบัดแก้กรรม โดยมีคนที่เข้าไปรับการรักษาในลักษณะนี้กันจำนวนมาก

นายสุภชาติ สุวรรณสิงห์ หรือ อาจารย์เอตาทิพย์
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

วันนี้ (25 ส.ค.60) ทีมข่าวเดินทางมาพบ นายสุภชาติ สุวรรณสิงห์  หรือ อาจารย์เอตาทิพย์ อาชีพพนักงานรัฐวิสาหกิจ เปิดเผยว่า วันนี้นอกจากประชาชนเดินทางมาใช้เท้าบำบัดแล้ว ยังมีการทำพิธีกรรมอื่น เช่น การครอบครู สักยันต์ ลงนะหน้าทอง แก้กรรม ซึ่งไม่ได้ใช้เท้าทุกกรณี เท้าเป็นเพียงวิธีการหนึ่งเท่านั้น

นายสุภชาติ เผยว่าหลังจากที่มีกระแสข่าวออกไป ก็ไม่ได้ทำให้จำนวนประชาชนเดินทางมาพบตนน้อยลง แต่กลับทำให้มีจำนวนคนเข้ามาเพิ่มขึ้น คนที่เขาศรัทธาเพราะตนทำให้พวกเขาหายป่วย ร่ำรวย มีเสน่ห์ ความสุขก็เพียงพอ ซึ่งตั้งแต่เป็นข่าว ในกลุ่มลูกศิษย์ก็ไม่มีใครมาต่อว่า แต่กลับพาเพื่อนมาเพิ่ม โดยตนมีเป้าหมายเพียงให้คนที่มาพบตนหายป่วยหรือดีขึ้นเท่านั้นและไม่ได้สนใจว่าวิธีการรักษาจะเป็นอย่างไร

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

โดยนายสุภชาติ บอกอีกว่า หลังจากนี้หากแพทยสภาจะเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งตนก็ไม่ตอบว่ายินดีหรือไม่ แต่อยากตั้งข้อสงสัยว่า วิชาพลังจิตที่ตนใช้ทุกวันนี้ไม่ได้อยู่ในแพทยสภาส่วนตัวขอเปรียบตัวเองเป็นแพทยสภาทางพลังจิต เพราะตนเป็นเจ้าของวิชาพลังจิต อยากถามว่าวิชาพลังจิตในไทยมีเปิดสอนด้วยหรือ ฉะนั้นหากจะตรวจสอบตน อยากถามว่าจะตรวจสอบตนในข้อหาอะไร ตนไม่ใช่แพทย์ ไม่ใช่หมอ และไม่เคยแอบอ้างว่าตนเป็นหมอ แต่คนอื่นยัดเยียดความเป็นหมอให้ ส่วนตัวไม่ได้เรียกว่าการรักษา แต่เป็นการใช้พลังจิตทำให้คนหายป่วย ซึ่งตนยืนยันว่า 16 ปีที่ผ่านมา ตนไม่ได้เปิดบ้านเพื่อรักษาแค่คนที่เขาทุกข์ เขาเดินทางมาเอง และตนไม่ได้มีการเรียกเก็บเงินแต่อย่างใด

นายสุภชาติ สุวรรณสิงห์ ได้ทำการครอบครูกับผู้ที่มารักษา

ส่วนที่ตนใช้เท้าในการบำบัดนั้น นายสุภชาติ ระบุว่า เป็นศาสตร์ตั้งแต่โบราณ เป็นหนึ่งวิธีการของคนไทยที่มีมายาวนาน ส่วนตัวอยากฝากถึงคนที่ดูแลเรื่องทางการแพทย์ว่า อย่าปิดกั้นเรื่องเหล่านี้ อยากให้เปิดโอกาสให้คนได้มีทางเลือก ตนมองว่าที่ตนทำอยู่ทุกวันนี้ คือการช่วยเหลือคนเพื่อให้หายป่วยโดยไม่เก็บเงินแต่อย่างใด

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

โดยคุณป้ารายหนึ่งที่เข้ามาทำพิธีลงนะหน้าทอง บอกว่า ตนเชื่อเรื่องดังกล่าวจึงตัดสินใจเดินทางมาเพราะเชื่อว่าการทำพิธีลงนะหน้าทองทำให้ชีวิตเป็นสิริมงคล และหลังจากทำพิธีเสร็จสิ้น ตนก็บอกว่าอาการดีขึ้น รู้สึกเย็น สดชื่น อาการปวดเมื่อยที่ขาและหัวเข่าก็ดีขึ้นทันตาเห็น

นายแพทย์ธนวรรฒน์ โชติมา นายกสมาคมศัลยกรรมและเวชศาสตร์เพื่อการเสริมสวยประเทศไทย

ขณะที่ นายแพทย์ธนวรรฒน์ โชติมา นายกสมาคมศัลยกรรมและเวชศาสตร์เพื่อการเสริมสวยประเทศไทย เผยว่า จากกรณีนี้ ตนไม่ขอเรียกเป็นอีกวิธี หรืออีกทางเลือก เนื่องจากยังไม่มีหน่วยงานที่ดูแลควบคุมออกมารับรองความปลอดภัย ส่วนขั้นตอนการบำบัดของ อ.เอตาทิพย์ ตนอยากให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการพิจารณา เนื่องจากกะโหลกศีรษะ เป็นโครงสร้างพิเศษเป็นของแข็ง จะมีความเป็นไปได้อย่างไรที่จะใช้เท้าเหยียบ หรือกรรมวิธีต่างๆที่จะทำให้ของแข็งเหล่านี้เปลี่ยนรูปได้ ส่วนตัวคงไปตัดสินไม่ได้ แต่อยากให้ประชาชนได้ลองคิดดู อยากจะบอกว่าความเชื่อ กับวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกัน

ในทางการแพทย์ก็ยังไม่พบการทุบตีแล้วจะทำให้กระดูกเปลี่ยนรูป แต่หากเป็นการดัดเพื่อปรับรูปก็อาจเป็นไปได้ แต่ผู้ที่เป็นผู้ทำหรือผู้รักษาก็ต้องได้รับอนุญาตไม่ใช่มาทำได้เอง เพราะวิชาชีพมีกฎหมายคุ้มครองอยู่หลายครั้ง

ส่วนการใช้เท้าเหยียบลักษณะนี้ มองว่าอาจเกิดอันตรายได้ เนื่องจากกระดูกส่วนหน้ามีทั้งกระดูกส่วนบางและส่วนหนาเป็นเรื่องของกายวิภาคต้องใช้ความรู้ ความชำนาญ

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 70
  • ยูร
    ถ้ารักษาแล้วหาย ห้ามไม่อยู่หรอก แต่ถ้าไม่หาย เดี้ยวคนก็หายไปเอง
    26 ส.ค. 2560 เวลา 03.21 น.
  • รักษาแล้วดีขึ้น ดีกว่าหมอรักษาคนป่วยตาย ปล่อยเขาคนเถอะ อย่ากลัวจะหมดอาชีพ
    26 ส.ค. 2560 เวลา 02.49 น.
  • ◀🔹🔝ALEK🔝🔹▶
    รักษาเราให้หายเป็นตุ๊ดทีสิ #ไร้สาระ
    26 ส.ค. 2560 เวลา 02.20 น.
  • Bavo5
    รอบหน้าท่านจะได้เข้าไปศึกษา ในแดนพิเศษกรุงเทพ เหล่าอาจารย์รอท่านอยู่ ท่านยังเรียนบาทาไร้เงาไม่ครบสูตรเลย
    26 ส.ค. 2560 เวลา 03.09 น.
  • off
    ถามจริงๆคนที่ว่าเพราะหวังดีกับการที่คนทำให้หายได้โดยหวังดีมีใครผิดไหมไม่มีใครผิดแต่ถ้าหายได้จริงๆโดยไม่มีทางรักษา แล้วแบบไหนดีกว่ากัน ความปลอดภัยนะสำคัญ แต่อย่าลืมหมอเองก็เคยมีผิดพลาดเช่นกัน
    26 ส.ค. 2560 เวลา 03.20 น.
ดูทั้งหมด