การสำเร็จการศึกษาย่อมเป็นความภาคภูมิใจและเกียรติภูมิแก่เหล่าบัณฑิตทุกคน โดยเฉพาะ เมื่อครั้งในหลวงรัชกาลที่ 9 ยังทรงพระราชกรณียกิจในการเสด็จพระราชทานปริญญาบัตรแก่มหาวิทยาลัยต่างๆ ด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เองด้วยแล้ว ยิ่งเป็นอีกความปีติอันยิ่งใหญ่ในชีวิตที่ใช่ว่าบัณฑิตทุกคนจะหากันง่ายๆ
ดังนั้น เพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนถึงที่ปรัชญาที่พ่อสอน ทั้งแก่บัณฑิตจบใหม่เมื่อในอดีต และบัณฑิตใหม่ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่วิถีการขับเคลื่อนประเทศในปัจจุบัน เราจึงขออัญเชิญพระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาจาก 12 มหาลัยที่เคยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากในหลวงรัชกาลที่ 9 มาให้เราทุกคนได้ไตร่ตรองกันอีกครั้ง จะมีมหาวิทยาลัยใดบ้าง ที่เราขอหยิบยกมากล่าวถึงในครั้งนี้ ติดตามได้ ต่อไปนี้…
1. มหาวิทยาลัยมหิดล
สถาบันที่ก่อตั้งมาจากโรงเรียนแพทย์ ณ โรงพยาบาลศิริราช ที่มีชื่อว่า “โรงเรียนแพทยากร” ต่อมาในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2486 ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น “มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์” และเปลี่ยนมาเป็น “มหาวิทยามหิดล” เช่นในปัจจุบัน โดยถือเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย โดยเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์
ที่มาภาพ : muarms.mahidol.ac.th
"ความสงบหนักแน่นเป็นเครื่องผ่อนปรนระงับความรุนแรง ความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจในกันและกันได้ทุกกรณี โดยเฉพาะความสงบหนักแน่นในจิตใจนั้น ทำให้เกิดความยั้งคิดพิจารณาตามเหตุตามผล จึงช่วยให้สามารถขบคิดวินิจฉัยเรื่องราวปัญหาและกระทำได้ถูกต้องพอเหมาะพอดี มีประสิทธิผล"
- พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยมหิดล ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2535
2. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
มหาวิทยาลัยของรัฐแห่งแรกของประเทศไทยที่เปิดสอนหลักสูตรทางด้านการเกษตร ก่อตั้งขึ้นเป็นลำดับที่ 3 ของประเทศ ปัจจุบันมี 4 วิทยาเขต ได้แก่ บางเขน, กำแพงแสน, สกลนคร, และศรีราชา ทั้งยังมีโครงการจัดตั้งวิทยาเขตสุพรรณบุรีอีกหนึ่งแห่งด้วย
ที่มาภาพ : www.sa.ku.ac.th
"ประเทศไทยเป็นประเทศกสิกรรม วิชาที่ท่านได้ศึกษามาทุกสาขาล้วนแต่เป็นคุณประโยชน์แก่การกสิกรรมและการเศรษฐกิจของประเทศโดยตรง ดังนั้น โอกาสที่ท่านทั้งหลายจะช่วยกันสร้างชาติบ้านเมืองในด้านนี้จึงมีอยู่มากมายขอให้ท่านทั้งหลายจงพยายามช่วยกันทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด และในการปฏิบัติหน้าที่ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีนั้นนอกจากต้องใช้ความรู้ ความสามารถแล้วยังต้องเป็นผู้มีจิตใจสูง มีศีลธรรม มีสติสัมปชัญญะ ประพฤติตนแต่ในสิ่งที่ชอบที่ควรวางตนให้สมเกียรติ เป็นผู้ที่ควรแก่การนับถือ"
- พระบรมราโชวาท ในพิธีประสาทปริญญาบัตรและอนุปริญญาบัตร จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วันที่ 14 กรกฏาคม พ.ศ. 2498
3. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยและสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกของประเทศไทย และมหาวิทยาลัยที่มีพิธีพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรก ในรัชสมัยรัชกาลที่ 9 อีกด้วย
ที่มาภาพ : www.chaoprayanews.com
“การปิดทองหลังพระนั้น เมื่อถึงคราวจำเป็นก็ต้องปิด ว่าที่จริงแล้วคนโดยมาก ไม่ค่อยชอบปิดทองหลังพระกันนัก เพราะนึกว่าไม่มีใครเห็น แต่ถ้าทุกคนพากันปิดทองแต่ข้างหน้า ไม่มีใครปิดทองหลังพระเลย พระจะเป็นพระที่งามบริบูรณ์ไม่ได้”
- พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2506
4. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ก่อตั้งเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2477 โดยมีชื่อแรกเริ่มว่า "มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์ และการเมือง" (มธก.) มหาวิทยาลัยนี้ถือกำเนิดมาจากความคิดริเริ่มของ ศาสตราจารย์ ดร.ปรีดี พนมยงค์ ผู้เป็นรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทยขณะนั้น จากความที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยใน พ.ศ. 2475 ประเทศชาติมีความจำเป็นต้องมีบุคคลที่มีความรู้ทางกฎหมาย การปกครอง และสังคมมารับใช้ประเทศชาติโดยด่วน จึงเป็นจุดกำเนิดของมหาวิทยาลัยแห่งนี้
ที่มาภาพ : www.rachineeburana.net
"การดำเนินชีวิตโดยใช้วิชาการอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ จะต้องอาศัยความรู้รอบตัวและหลักศีลธรรมประกอบด้วย ผู้ที่มีความรู้ดีแต่ขาดความยั้งคิด นำความรู้ไปใช้ในทางมิชอบ ก็เท่ากับเป็นบุคคลที่เป็นภัยแก่สังคมของมนุษย์"
- พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2504
5. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
มหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศที่จัดตั้งขึ้นในส่วนภูมิภาค ตามโครงการพัฒนาการศึกษาของภูมิภาค มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493
ที่มาภาพ : www.agri.cmu.ac.th
"ผู้ที่ทำงานให้เกิดประโยชน์ส่วนรวมย่อมได้รับประโยชน์เป็นส่วนของตนด้วย ผู้ที่ทำงานโดยเห็นแก่ตัว เบียดเบียนประโยชน์ส่วนรวม ย่อมบั่นทอนทำลายความมั่นคงของประเทศชาติ และที่สุดตนเองก็จะเอาตัวไม่รอด"
- พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2512
6. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ถือกำเนิดจาก "โรงเรียนฝึกหัดครูชั้นสูง" ซึ่งก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2492 เพื่อผลิตวิชาชีพครูที่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนเป็นจำนวนมากในขณะนั้น ต่อมาได้พัฒนาขึ้นเป็นลำดับจนเป็น "วิทยาลัยวิชาการศึกษา" เมื่อ พ.ศ. 2497 และได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น "มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ" เมื่อ พ.ศ. 2517
ภาพจาก มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สงขลา (ปัจจุบัน คือ มหาวิทยาลัยทักษิณ) ที่มา : ศิษย์เก่าคนเดิม TSU
"การทำงานใด ๆ ไม่ว่าเล็ก ใหญ่ ง่าย ยาก ถ้าย่อหย่อนจากความเพียรแล้ว ยากที่จะให้สำเร็จเรียบร้อยทันเวลา ได้ และเมื่อใดพลังของความเพียรนี้ เกิดขึ้น เมื่อนั้นการงานทั้งหลายก็สำเร็จได้โดย ง่ายดายและรวดเร็ว"
- พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2522
7. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิต เมื่อปี พ.ศ. 2531 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อใหม่ว่า “สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล” ในวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2531 โดยความหมายของชื่อก็คือ สถาบันเทคโนโลยีอันเป็นมิ่งมงคลแห่งพระราชา ต่อมาสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 9 แห่ง ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ. 2548
ที่มาภาพ : RMUTT Channel
"การคิดการปฏิบัติให้ถูกให้ดีนั้น ก็คือการคิดและปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักการ หลักวิชา หลักเหตุผล และหลักสุจริตธรรม ผู้มุ่งหมายจะสร้างสรรค์ประโยชน์และความเจริญ จึงควรพยายามปฏิบัติฝึกฝนตนเองให้มีความคิดจิตใจที่เที่ยงตรง และมั่นคงเป็นกลาง เป็นอิสระจากอคติ"
- พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร ระหว่างวันพฤหัสบดี ที่ 19-21 กรกฎาคม พ.ศ. 2533
8. มหาวิทยาลัยขอนแก่น
มหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจุดประสงค์เพื่อให้การศึกษาชั้นสูงขยายออกไปถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงประกอบพิธีเปิดเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2510 และสถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2509
ที่มาภาพ : www.ourking.in.th
"ใครต่อใครบอกว่า ขอให้เสียสละส่วนตัวเพื่อส่วนรวมอันนี้ฟังจนเบื่อ อาจรำคาญด้วยซ้ำว่า ใครต่อใครมาก็บอกว่าขอให้คิดถึงประโยชน์ส่วนรวม อาจมานึกในใจว่า ให้ๆ อยู่เรื่อยแล้วส่วนตัวจะได้อะไร ขอให้คิดว่าคนที่ให้เพื่อส่วนรวมนั้นมิได้ให้แน่ส่วนรวมอย่างเดียว เป็นการให้เพื่อตัวเองสามารถที่จะมีส่วนรวมที่จะอาศัยได้"
- พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น พ.ศ. 2514
9. มหาวิทยาลัยรามคำแหง
มหาวิทยาลัยตลาดวิชาแห่งเดียวในประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2514 เมื่อครั้งอดีต ในวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518 ในหลวงรัชกาลที่ 9 และพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินมาทรงประกอบพิธีเปิดพระบรมรูปพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยรามคำแหงรุ่นแรก
ที่มาภาพ : www.lib.ru.ac.th
"ผู้ที่มีปัญหาที่สามารถจะทำการงาน สำคัญ ๆ ให้ยึดหลักเป็นกำลังของ บ้านเมืองต่อไปได้นั้น จะต้องเป็นผู้ หนักแน่นในสัจจะ คือต้องมีความจริง พร้อมทั้งในคำพูดในการกระทำ ทั้งในบุคคลอื่นและในตนเองสิ่งใด ที่ตั้งใจจริงต้องปฏิบัติให้ได้ โดยเคร่งครัดครบถ้วน"
- พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2521
10. มหาวิทยาลัยศิลปากร
มหาวิทยาลัแห่งแรกของประเทศ มีชื่อเสียงโดดเด่นด้านศิลปกรรม และสถาปัตยกรรม ได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยเสด็จฯ ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2508 ณ วังท่าพระ แต่เมื่อย้อนไป ในปีการศึกษา 2497 มีผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี (คณะจิตรกรรมฯ) เพียงคนเดียวเท่านั้น นั่นคือ ศาสตราจารย์เกียรติคุณชลูด นิ่มเสมอ และถือเป็นบัณฑิตคนแรกที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้
ที่มาภาพ : www.tvbento.com
"ในชีวิตการงานนั้น ทุกคนมีภาระ อันหนักที่จะต้องกระทำมากมาย ทั้งในงาน อาชีพและงานที่ทำประโยชน์แก่สังคม นอกจากนั้นยังมีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติ รับใช้ชาติบ้านเมืองในฐานะที่เป็นพลเมือง ไทยอีกประการหนึ่งด้วย"
- พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยศิลปากร ณ วังท่าพระ วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2512
11. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในภาคใต้ของประเทศไทย ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2510 ต่อมา ในหลวงรัชากาลที่ 9 ได้พระราชทานชื่อ เมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2510 จึงถือว่าวันนี้ของทุกปี เป็นวันสงขลานครินทร์ ปัจจุบันมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ประกอบด้วย 5 วิทยาเขต ได้แก่ ปัตตานี, หาดใหญ่, ภูเก็ต, สุราษฎร์ธานี, และตรัง
ที่มาภาพ : pr.pn.psu.ac.th
"การทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมนั้น ได้ประโยชน์มากกว่า ทำเฉพาะประโยชน์ส่วนตัว และบอกได้ว่าคนไหนทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวแท้ๆ ล้วนๆ เชื่อว่าประโยชน์นั้นจะไม่ได้เท่ากับรวบรวมของหนักมาวางบนหัว แบกเอาไว้ตลอดเวลา ซึ่งก็ไม่สบาย ก็หนัก ก็เหนื่อย แต่ถ้าผู้ใดทำเพื่อส่วนรวม ยิ่งมาก ยิ่งดี ยิ่งเบา ยิ่งคล่องแคล่วว่องไว และยิ่งมีความสุข"
- พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วันที่ 11 กันยายน พ.ศ.2523
12. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2513 ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ใช้พระนาม “พระจอมเกล้า” เป็นชื่อของสถาบัน และต่อมาได้เปลี่ยนเป็น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี หรือ บางมด โดยเป็น 1 ใน 9 มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ อีกด้วย
ที่มาภาพ www.kmutt.ac.th
"นักศึกษาของสถาบันสำเร็จการศึกษาแล้วอีกรุ่นหนึ่ง เป็นที่คาดหวังว่าจะออกไปเป็นกำลังปฏิบัติงานในหน่วยงานสำคัญต่างๆ ของบ้านเมือง จึงขอให้แต่ละคนตั้งใจให้ดี และเตรียมตัวให้พร้อมที่จะนำความรู้ ความคิด ความฉลาดสามารถไปใช้ปฏิบัติพัฒนางานของตนๆ ให้บรรลุประสิทธิผลและก้าวหน้า"
- พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2532
ติดตาม seventeen Thailand ได้ที่นี่
Website : http://www.seventeenthailand.com/
Instagram : https://www.instagram.com/seventeenthailand/
Facebook : https://www.facebook.com/SEVENTEENthailand
Youtube : http://www.youtube.com/user/seventeenthailandTV
Twitter : https://twitter.com/Seventeenthai
bunpot a. ผมจบวิศวะลาดระบังปี2521 ผมก็รับจากพระหัตถ์ครับ
21 ต.ค. 2560 เวลา 05.58 น.
นายเนี๊ยบ ด้วยความโง่เขลาของเจ้าของกระทู้ข่าว ที่ไม่รู้จักหาข้อมู ว่ามีอีกหลายๆมหาวิทยาลัย มี่ได้รับพระราชทาน เหมือนกัน ถ้าจะเขียนแค่เท่าที่รู้อย่ามาเขียนข่าวเลย เขียนแบบนี้ทำให้คนอื่นที่เคยได้รับพระราชทาน จากมหาลัย ที่ไม่กล่าวมาเค้าไม่พอใจ
21 ต.ค. 2560 เวลา 08.35 น.
S. SUNDARASÂRDULA มี ม.แม่โจ้ ด้วย
มีหลักฐานยืนยัน
คนหาข้อมูลบกพร่องไปนะ
20 ต.ค. 2560 เวลา 16.31 น.
Somchai Chobtumdee ผมจบมสธ.รุ่นแรกก็ได้พระราชทานปริญญาบัตรจากพระองค์ท่าน..!!
21 ต.ค. 2560 เวลา 07.30 น.
อดิศร พระราชทานปริญญามสธ.ปี 2527
20 ต.ค. 2560 เวลา 23.46 น.
ดูทั้งหมด