ไม่แปลกที่คนเราจะมีความอยากได้ อยากมี อยากเป็น ซึ่งเป็นสันดานดิบที่อยู่ในจิตใจของมนุษย์เราอยู่แล้ว แต่การปล่อยให้ตัวเองมีความอยากที่ไม่จบสิ้นนั้น ไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้องเลย เพราะคุณจะเคยชินกับมัน และปล่อยให้กิเลสเหล่านั้นครอบงำจิตใจ กลายเป็นความทุกข์ที่ไม่รู้จักจบสิ้นจนพาตัวเองไปสู่หายนะนั่นเอง
ในทางธรรมกิเลสคือ สิ่งที่ทำให้ใจเศร้าหมองและความทุกข์ เป็นความอยากได้ อยากมีที่เกิดจากโลภะ (ความโลภ) โทสะ (ความโกรธ) และโมหะ (ความหลง) ซึ่งเมื่อกิเลสเกิดขึ้นย่อมทำให้จิตเศร้าหมอง โดยวิธีเดียวที่จะละกิเลสได้ ก็คือการการรักษาศีล การทำสมาธิตั้งจิตให้สงบ และการเจริญพุทธิปัญญาที่เกิดจากการเจริญวิปัสสนาสมถะกรรมฐาน แต่ถ้าไม่นับวิธีทางธรรม วิธีการเหล่านี้ก็ช่วยหักห้ามใจไม่ให้เกิดกิเลสได้เช่นกัน
1. ยอมรับความจริง
อย่างที่บอกว่าไม่แปลกที่คนเราจะมีความอยากได้ อยากมี อยากเป็น แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ปล่อยให้ความอยากเหล่านี้มาครอบงำจิตใจ จนทำในสิ่งที่ไม่ควรหรือทำร้ายตัวเองและคนอื่น ซึ่งวิธีหนึ่งที่ช่วยระงับความอยากลงได้ก็คือการทำใจและยอมรับความจริง โดยเฉพาะถ้าความอยากนั้น ๆ เป็นสิ่งที่ไกลเกินฝัน วิธีนี้ช่วยได้ดีที่สุด
2. คิด ทบทวน ใคร่ครวญ
ตามหลักแล้วปุถุชนคนธรรมดาอย่างเรา ๆ มักไม่มีวิธีจัดการกับความอยากที่เกิดขึ้นในจิตใจได้ แต่สิ่งที่ช่วยให้ความอยากเหล่านี้บรรเทาลงได้ก็คือการคิด ใคร่ครวญ และทบทวนย้ำ ๆ กับตัวเอง ถามตัวเองว่าความอยากที่เกิดขึ้น เป็นแค่ความต้องการหรือเป็นความจำเป็น ไม่แน่ว่าคำตอบที่ได้ อาจทำให้คุณค้นพบสัจธรรมที่ซ่อนอยู่ภายในตัวคุณก็ได้
3. เปลี่ยนความอยากเป็นเป้าหมาย
ใคร ๆ ก็มีความต้องการ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ในสิ่งที่ต้องการ บางคนอยากได้แต่ไม่ทำอะไร แค่ฝันก็พอใจแล้ว บางคนอยากได้จนไปทำร้ายคนอื่น ขณะที่บางคนเปลี่ยนความอยากเป็นเป้าหมาย ใช้ความทะเยอทะยานเป็นแรงขับเคลื่อนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่ง ๆ นั้น และสุดท้ายก็ไม่ใช่แค่ความอยากอีกต่อไป
4. ทางสายกลางช่วยได้
จริง ๆ แล้ว ทางสายกลางคือหนทางแห่งการดับทุกข์ที่แท้จริง แต่น่าแปลกที่คนเรามักไม่ชอบเดินทางนี้ กลับชอบที่จะเบ้ไปเบ้มาให้ตกหลุมตกบ่อกลายเป็นความทุกข์ เกิดเป็นความโลภ อยากได้ อยากมี อยากเป็นขึ้นในจิตใจ เพราะฉะนั้นถ้าอยากหักห้ามใจ ระงับความอยาก การไม่ยึดติดกับใครหรืออะไรก็ช่วยได้เช่นกัน
อมร ธนาผลาผล ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ พาคนลืมธาตุแท้ของตนเองมีเพียง4 ดิน น้ำ ไฟ ลม เท่านั้นเอง มิใช่รึ
06 ก.พ. 2561 เวลา 23.46 น.
สุขบ้างทุกข์บ้างเป็นเรื่องธรรมดา การยึดติดต่างหากที่ทำร้ายตัวเองและผู้อื่น
22 มิ.ย. 2561 เวลา 06.13 น.
อมร ธนาผลาผล มองแค่ในตัวในตนให้เห็นค้นให้พบจบปัญหา มองแต่คนอื่น ไม่แก้ใขตนเองสร้วปัญหา ทำไม
06 ก.พ. 2561 เวลา 23.50 น.
นั่นสินะ
06 ก.พ. 2561 เวลา 22.25 น.
อมร ธนาผลาผล อำนาจที่มีก็พาให้บ้าทางที่ผิดไปจากปกติได้มากมาย
06 ก.พ. 2561 เวลา 23.48 น.
ดูทั้งหมด