เรียกได้ว่ากลายเป็นประเด็นเดือดที่ถูกจับตามองอย่างมากในขณะนี้ สำหรับศึกเดือด 2 นักแฉ อย่าง "ชูวิทย์ กับทนายตั้ม" ที่ล่าสุด นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แถลงโต้กลับกรณี "ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด" ออกมาโพสต์กล่าวหาตนเองว่าเรียกรับเงินจากผู้ทำเว็บพนันออนไลน์และธุรกิจผิดกฎหมายไปก่อนหน้านี้
โดยนายชูวิทย์ อัญเชิญพระเจ้าตากสิน มาสาบานต่อหน้าสื่อมวลชนว่าหากพูดโกหก ก็ขอให้เกิดความวิบัติแก่ตนเอง หากพูดความจริงก็ขอให้เกิดแต่ความเจริญ
โดยทางด้าน นายชูวิทย์ เปิดเผยว่า ทนายตั้มรับข้อมูลจากนายเปาที่ตนเลี้ยงดูมาดั่งลูกตั้งแต่ยังเล็ก เพราะพ่อเขาติดคุก ส่วนแม่ก็แยกทางไป ตนส่งเสียให้เรียนโรงเรียนชื่อดังจนจบ แล้วก็มาติดตามตัวเอง กระทั่งตนติดคุก จึงให้นายเปาไปคอยเก็บเงินค่าเช่าคอนโดมิเนียมตนเองเลี้ยงดูตัวเอง ก่อนเขาจะเลิกทำแล้วไปทำงานกับสารวัตรซัว ซึ่งเรียนโรงเรียนเดียวกันมา โดยได้ค่าจ้าง 3-4 แสนบาท และให้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของอาบอบนวดแห่งหนึ่ง
ส่วนเรื่องที่ทนายตั้มกล่าวหานั้น ประเด็นแรก ยอมรับว่าตนเองเคยพบกับนายแทนไท ซึ่งมีอดีตนายตำรวจยศ พล.ต.อ.ที่ตนรู้จักกัน พามาหาที่โรงแรมของตนตอนกลางวัน เพื่อปรึกษาจะฟ้องร้องบุคคลหนึ่ง ตนก็แนะนำว่าอย่าไปฟ้องเพราะสู้ไม่ได้ ก่อนนายแทนไท จะกลับไป ตนไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมต้องมาปรึกษา
ประเด็นต่อมาคือเรื่องที่มีเงินดิจิทัล 50 ล้านบาทโอนเข้ามายังบัญชีของกล่องดวงใจหรือนายเติมลูกชายคนเดียวของตน ยืนยันว่าลูกชายตัวเองมีอันจะกิน เพราะได้รับเงินเดือนจากตน ไม่เคยเล่นการพนัน และไม่มีเงินตามที่ทนายตั้ม กล่าวอ้างโอนเข้ามา เว้นแต่เพื่อนของลูกตนจะทำเว็บพนันหรือไม่ ตนไม่ทราบ
ด้าน ประเด็นเรื่องรูปเงินทั้ง 2 ถุงที่ทนายตั้มโพสต์ไว้และบอกว่ามีเงินมากกว่า 6 ล้านบาทตามที่ตนระบุ โดยตนขอชี้แจงว่า เงินดังกล่าวมีถุงละ 3 ล้านบาท รวมเป็น 6 ล้านบาท
- ทนายตั้ม แฉเบื้องลึกมือขวา ชูวิทย์ พร้อมแจงทำไม "นายแทนไทย" ถึงรอด
- เผยแล้วใครหิ้วถุงเงิน ให้ "ชูวิทย์" สั่งหยุดแฉ
- "ทนายตั้ม" เปิดหลักฐานปม "แฉไป ไถไป" เงินที่ชูวิทย์ได้ ไม่ใช่แค่ 6 ล้าน
ไม่มีเงินจากแหล่งอื่นมาเพิ่มเติม ซึ่งเงินดังกล่าวมีตำรวจเกษียณราชการ ตัวย่อ อ. และอีกนายชื่อ ป.ที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยยังทำอาบอบนวด นำมาให้ตนในวันที่ 3 ก.พ.66 และได้ปฏิเสธไปแล้ว แต่ภาพดังกล่าวไม่ได้ถ่ายที่โรงแรมแห่งนี้ และไม่ทราบว่าผู้ใดนำไปเปิดเผยซึ่งตนไม่สนใจ แต่เชื่อว่าเป็นการแบล็กเมล์ และเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองที่ตนกำลังทำลายนโนบายพรรคการเมืองหนึ่ง
นายชูวิทย์ ยังถามถึงทนายตั้มว่ารับงานมาจากใคร ยอมรับว่ามีบางเรื่องที่กล่าวหามานั้นมีทั้งถูกและผิด ซึ่งไม่ทราบเหตุผลที่ต้องออกมาพูดในครั้งนี้ พร้อมตอบคำถามที่ว่าทำไมตนถึงไม่แฉเรื่องนายแทนไท เพราะเขาเปลี่ยนธุรกิจให้ถูกตามกฎหมายไปแล้ว จึงไม่นำมาแฉ
รวมถึงหลังจากนี้ "ตนไม่ยอมรับนายเปา เป็นหลานแล้ว เพราะถือว่าเนรคุณ" ซึ่งปัจจุบันตนไม่เคยได้พบหรือติดต่อกันอีก
ninja ก่อนจะขุดคนอื่น..
ก่อนจะแฉคนอื่น..
ก่อนจะกล่าวหาคนอื่นรับงานจากใคร...
ถามตัวเองก่อนโสโครกแค่ไหน?
หมาเคยกินขี้จะกินขึ้อยู่วันยังค่ำ
สันดานยากเปลี่ยนแปลง...
แดกน้ำกามจนสันดานลงลึก
ตอนนี้รับงาน รับเงิน แบล็กเมล์คืออาชีพหลัก เบื้องหลังจัญไรตัวนึงใช้หากิน
รับเงินแต่ปิดเงียบ พอโดนเปิดโปงดิ้นพล่าน เบื้องหน้ายกตัวเองเป็นฮีโร่..
หลังฉากแดกยัด แบล็กเมล์มหาศาล
ซาตานในคราบฮีโร่ โจรกลับใจ???
24 มี.ค. 2566 เวลา 02.18 น.
ดูทั้งหมด