บทความโดย : สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA)
สิ่งที่นักลงทุนต้องรู้เกี่ยวกับเส้นอัตราผลตอบแทน (Yield curve)
เส้นอัตราผลตอบแnน (Yield curve) คือ เส้นที่แสตงถึงอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ในช่วงอายุต่างๆ โดยทั่วไปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ที่อายุยาวจะให้ผลตอบแทนสูงกว่าตราสารหนี้ที่มีอายุสั้น เนื่องจากนักลงทุนต้องการอัตราผลตอบแทนสูงขึ้นเพื่อชดเซยความเสี่ยงที่ถือตราสารหนี้เป็นเวลานานขึ้น ดังนั้นเส้นอัตราผลตอบแทนจะมีค่าความชั้นเป็นบวก
รูปร่างของ Yield curve มักใช้เป็นตัวบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ
เส้นอัตราผลตอบแทนปกติ (Normal yield curve)
คือ เส้นอัตราผลตอบแทนที่มีความชันเป็นบวก มีลักษณะเส้นลาดชันขึ้นจากช้ายไปขวา โดยพันธบัตรที่มีอายุคงเหลือสั่นจะให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าพันธบัตรที่มีอายุคงเหลือยาว
เส้นอัตราผลตอบแทนกลับด้าน (Inverted yield curve)
คือ เส้นอัตราผลตอบแทนที่มีความชันเป็นลม ซึ่งกลับด้านจากสถานการณ์ปกติ โดยพันธบัตรที่มีอายุคงเหลือสั่น จะให้ผลตอบแกนที่สูงกว่าพันธบัตรที่มีอายุคงเหลือยาว แสดงให้เห็นว่านักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงในระยะสั้นมากกว่าความเสี่ยงในระยะยาว ลักษณะเส้นอัตราผลตอบแทนกลับด้านจึงเป็นสัญญาณบ่งขี้ถึงโอกาสการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลง Yield curve
เส้นอัตราผลตอบแทนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามปัจจัยทางเศรษฐกิจที่อาจทำให้อัตราผลตอบแทนของรุ่นอายุต่างกันเปลี่ยนแปลงไม่เท่ากัน โดยอัตราผลตอบแทนระยะสั่นจะเปลี่ยนแปลงตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นหลัก ส่วนอัตราผลตอบแทนระยะยาวจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ทั้งนี้ เมื่ออัตราผลตอบแทนเปลี่ยนแปลง ราคาตราสารหนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางตรงกันข้าม