ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมด้วย ดร.ดร.จิตติ์พร ธรรมจินดา ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) (TCELS : ทีเซลส์) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และ ดร.ภก.ณรงค์ อาสายุทธ ผู้อำนวยการ สปสช. เขต 7 ขอนแก่น
ร่วมลงพื้นที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเพื่อรับฟังแนวทางและติดตามการดำเนินงาน "นวัตกรรมชุดตรวจคัดกรองโรคพยาธิใบไม้ในตับแบบรวดเร็ว" (OV-ATK) ที่อยู่ในชุดสิทธิประโยชน์บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท)
โดยมี ผศ.นพ.นรงฤทธิ์ เกษมทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการทางการแพทย์ชั้นเลิศ คณะแพทยศาสตร์ และ รศ.ดร.วัชรินทร์ ลอยลม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยมะเร็งท่อน้ำดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น และคณะร่วมให้ข้อมูล พร้อมกันนี้ยังได้เยี่ยมผู้ป่วยโรคมะเร็งท่อน้ำดี ณ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ และการให้บริการชุดตรวจฯ ที่ร้านยาคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
รศ.ดร.วัชรินทร์ กล่าวว่า โรคพยาธิใบไม้ในตับ มีสาเหตุมาจากการรับประทานอาหารที่มาจากปลาน้ำจืดเกล็ดขาว วงศ์ปลาตะเพียน ซึ่งมีตัวอ่อนระยะติดต่อของพยาธิใบไม้ตับ แล้วนำมาปรุงแบบดิบหรือ สุก ๆ ดิบ ๆ เช่น ก้อยปลา ส้มปลา ปลาจ่อม ปลาร้าไม่ปรุงสุก ฯลฯ
เมื่อพยาธิใบไม้ในตับเข้าสู่ร่างกาย หากไม่ได้ทานยาหรือรับการรักษาตัวก็จะพัฒนาสู่โรคมะเร็งท่อน้ำดีได้ในระยะเวลา 20-30 ปีข้างหน้าซึ่งในปัจจุบันไทยเป็นประเทศที่มีผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีมากที่สุดในโลก
จากข้อมูลปี 2559 มีจำนวนถึง 85 คนต่อแสนประชากร หรือ 2 หมื่นรายต่อปี โดยพบที่ภาคอีสานมากที่สุด ขณะที่ประเทศในยุโรปมีอัตราพบผู้ป่วยเพียง 1 – 2 คนต่อแสนประชากร หรือห่างจากประเทศไทยถึง 50 เท่า โดยกว่าร้อยละ 70 เคยมีประวัติป่วยด้วยโรคพยาธิใบไม้ในตับ ดังนั้น การรักษาโรคพยาธิใบไม้ในตับจึงเป็นประตูบานแรกในการยับยั้งการเกิดโรคมะเร็งท่อน้ำดี
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาร้อยละของผู้ป่วยโรคพยาธิใบไม้ในตับจะมีจำนวนลดลงทุกปีแต่จำนวนของผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งท่อน้ำดีกลับไม่ต่างจากเดิม ขณะที่ผู้ป่วยโรคพยาธิใบไม้ในตับลดลง ทั้งนี้สาเหตุเป็นเพราะวิธีการตรวจแบบเดิมที่ตรวจจากตัวอย่างอุจจาระมีความซับซ้อนและใช้เวลา
อีกทั้งปัจจุบันจำนวนพยาธิที่อยู่ในตัวคนไม่ได้มีปริมาณมากเหมือนสมัยก่อนจึงทำให้การตรวจอาจทำให้ไม่พบไข่ของพยาธิ ที่เป็นผลลบลวง ดังนั้น สถาบันวิจัยมะเร็งท่อน้ำดี คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงพัฒนาวิธีการการตรวจจากสารคัดหลั่งของพยาธิที่ออกมากับปัสสาวะแทน โดยใช้ชื่อชุดตรวจคัดกรองว่า OV-ATK อีกทั้งประชาชนสามารถตรวจได้ด้วยตนเองใช้ระยะเวลาในการอ่านผลภายใน 5 – 10 นาทีแต่มีประสิทธิภาพการตรวจที่แม่นยำ
คาดการณ์ว่า ในภาคอีสานขณะนี้มีผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคพยาธิใบไม้ตับอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านคน หากต้องการแก้ไขปัญหาต้องทำการตรวจคัดกรองประชากรกลุ่มเสี่ยงให้ได้ 75% และเข้าสู่การรักษา หากทำได้นั่นหมายความว่า ในระยะเวลาอีก 10 ปีข้างหน้าที่จะพบผู้ป่วยโรคมะเร็งท่อน้ำดีรายใหม่ 20,000 รายต่อปี จะมีจำนวนลดลงมา
ปัจจุบันชุดตรวจ OV-ATK ได้ถูกบรรจุเป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติแล้ว จึงเป็นโอกาสที่จะทำให้ไปถึงเป้าหมายที่ต้องการได้” ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยมะเร็งท่อน้ำดี กล่าว
รศ.ภญ.สุนี เลิศสินอุดม ผู้จัดการสถานปฏิบัติการเภสัชกรรมชุมชน (ร้านยา) คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และกรรมการสภาเภสัชกรรม กล่าวว่า ร้านยาของคณะเภสัชศาสตร์ ได้ร่วมดำเนินการคัดกรองโรคพยาธิใบไม้ในตับกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น มาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี จากการตรวจด้วยตัวอย่างอุจจาระจนถึงการตรวจคัดกรองด้วยปัสสาวะผ่านชุดตรวจคัดกรอง OV-ATK ในปัจจุบัน
ทั้งนี้ จากการขึ้นทะเบียนเป็นร้านยาที่ให้บริการชุดตรวจคัดกรองโรคพยาธิใบไม้ในตับ ด้วยชุดตรวจคัดกรอง OV-ATK ผ่านแพลตฟอร์ม แอปพลิเคชันเป๋าตัง ในช่วง 1 เดือน พบว่า ได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนใน จ.ขอนแก่น เพราะเป็นวิธีการที่ตรวจที่ทำได้ง่ายกว่าวิธีเดิมซึ่งเมื่อประชาชนเข้าถึงได้ง่าย และทราบผลการตรวจเร็ว ก็จะส่งผลให้ประชาชนเกิดความตระหนัก และตื่นตัวที่จะเข้าสู่การรักษาต่อไป
ในภาคอีสานมีผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งท่อน้ำดีในจำนวนที่สูงมาก แม้ว่าจะมีความพยายามแก้ไขปัญหามาอย่างยาวนานแต่ในวันนี้ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้วิจัยคิดค้นชุดตรวจคัดกรอง OV-ATK จากปัสสาวะขึ้นแทนการตรวจด้วยวิธีเดิม ทำให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจคัดกรองได้ง่าย
มีวิธีการแสดงผลแบบเดียวกับการตรวจโควิด-19 หากมีเส้นสีแดงขึ้น 2 ขีด แสดงว่า ผลตรวจเป็นบวก มีพยาธิใบไม้ในตับอยู่ในร่างกายที่ต้องได้รับยารักษาจะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งท่อน้ำดีในอนาคตได้
สำหรับการมาที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นทั้งที่สถาบันวิจัยมะเร็งท่อน้ำดี ร้านยา และ รพ.ศรีนครินทร์ ทั้งคณะผู้บริหาร สปสช. สวรส. และทีเซลส์ เพื่อติดตามดูประสิทธิผลการให้บริการซึ่งที่นี่ได้ดำเนินการอย่างจริงจัง โดยจะนำข้อมูลไปพัฒนาและขยายผลต่อไป
"งานวิจัยชิ้นนี้ สปสช. ได้นำเสนอต่อบอร์ด สปสช. เพื่อบรรจุชุดตรวจ OV-ATK เป็นสิทธิประโยชน์ภายใต้บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้กับคนไทยทุกคนแล้วซึ่งผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสามารถขอรับการตรวจได้ที่ร้านยา
วันนี้เราจึงอยากเชิญชวนประชาชนทุกคนให้เข้ารับการตรวจคัดกรองกันมาก ๆ และแนะนำว่า หากร้านยามีความพร้อมให้บริการตรวจที่ร้านยาก็ควรทำการตรวจด้วยตัวเองที่ร้านยาเลย เนื่องจากถ้าพบว่า ผลเป็นบวก ในกรณีที่มีสิทธิบัตรทองสามารถขอรับยากำจัดพยาธิใบไม้ในตับกับทางร้านยาได้เลย" รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว