ดีเอสไอ ตั้งศูนย์ DSI COVID-19 รับร้องเรียนปัญหา "ไตรยฤทธิ์" เผย ได้รับเรื่องแล้วกว่า 300 เรื่อง เตือนคนทำผิดหยุดก่อนเจอดีแย้มมีข้อมูลเพียบ ยันมีมาตรการเข้มคุมโรคตามนโยบายรัฐ
นพ.ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ได้จัดตั้ง ศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมพิเศษในสถานการณ์การแพร่เชื้อระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศูนย์ DSI COVID-19) ล่าสุดเราได้รับแจ้งข้อมูลจากประชาชนที่เดือดร้อนเข้ามากว่า 300 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหาหน้ากากอนามัย อาทิ การขายเกินราคา สินค้าไม่ได้มาตรฐาน และบางรายโดนหลอกให้โอนเงินแล้วไม่ได้รับสินค้า โดยส่วนใหญ่เป็นการโฆษณาและขายสินค้าในระบบออนไลน์ แต่เนื่องจากบางเรื่องที่แจ้งเข้ามาไม่เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ ทางดีเอสไอจึงไม่มีอำนาจโดยตรงในการไปจัดการ เราจึงได้แจ้งเตือนไปยังผู้ถูกร้องเรียน ให้คำแนะนำกับผู้ร้องเรียน และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ลงไปดำเนินการแทน
"ตอนนี้มีหลายข้อร้องเรียนที่แจ้งเราเข้ามา ทางดีเอสไอได้ดำเนินการให้เรียบร้อย หลายคนที่ร้องเรียนเข้ามาได้รับเงินคืน ส่วนเรื่องการขายหน้ากากเกินราคาเราได้ประสานเจ้าหน้าที่ในจังหวัดๆนั้นไปปราบปรามและดำเนินคดีในหลายๆที่แล้วเช่นกัน นอกจากนี้เรากำลังจะสินธิกำลังกับ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการลงพื้นที่ตรวจค้นดำเนินคดีตามข้อมูลของผู้ที่แจ้งเบาะแสเข้ามา ซึ่งตนขอเตือนผู้ที่กำลังทำผิดกฎหมาย และหาประโยชน์บนความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนขอให้หยุดการกระทำเสีย ขณะนี้เรามีข้อมูลที่ประชาชนทยอยส่งเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งเราเอาจริงเอาจังในการดำเนินคดีตามกฎหมาย"
นพ.ไตรยฤทธิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนช่องทางการร้องเรียน เนื่องจากสถานการณ์ของโควิด ที่รัฐบาลออกมาตรการควบคุมการเดินทางและให้อยู่บ้านหยุดเชื้อ DSI Call Center 1202 คู่สายอาจจะเต็ม เราจึงได้จัดทำช่องทางเพิ่มคือ QR Code โดยประชาชนสามารถเข้าสู่เวปไซต์ของ ดีเอสไอ และจะมี QR Code ให้สแกนเพื่อเข้าไปกรอกข้อมูลร้องเรียน ซึ่งจะสามารถกรอกรายละเอียดต่างๆได้อย่างละเอียด เช่น การร้องเรียนหน้ากากอนามัยเกินราคา ขายในพื้นที่ใดหรือเวปไซด์หรือเฟซบุ๊กใด ซึ่งเมื่อทางเจ้าหน้าที่ได้กรองข้อมูลเรียบร้อยจะติดต่อกลับไปยังผู้แจ้งข้อมูล เพื่อของรายละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้ง ทั้งนี้ข้อมูลของผู้แจ้งเบาะแสจะเป็นความลับและหากผู้ใดแจ้งเบาะแสเท็จก็จะมีโทษตามกฎหมายด้วย นอกจากนี้ในเวปไซด์ของดีเอสไอยังได้นำข้อมูลที่ได้รับแจ้งเบาะแสจากช่องทางต่างๆ ไปแสดงผลบนระบบภูมิสารสนเทศ เพื่อให้สามารถเห็นถึงแนวโน้มและทิศทางของอาชญากรรมแต่ละประเภทที่มีความสัมพันธ์ในเชิงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อสามารถบูรณาการในการป้องกันปราบปรามกับหน่วยงานภูมิภาคหรือส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพตรงตามวัตถุประสงค์
นพ.ไตรยฤทธิ์ ยังกล่าวถึงมาตรการป้องกับไวรัสโควิด-19 หลังเจ้าหน้าที่ของดีเอสไอติดเชื้อ ว่า มาตรการการป้องกันทางดีเอสไอได้เริ่มมานานแล้ว เช่น การเข้าออกประตูทางเดียว การวัดอุณหภูมิและล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ก่อนเข้าอาคาร การขึ้นลิฟท์เรามีทิชชู่ให้กดแล้วทิ้ง การยืนในลิฟท์มีการยืนแยกและได้ทำรางการยืนแบบหันหลังชนกันไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่ติดเชื้อนั้นเราคิดว่าเป็นเหตุสุดวิสัย ซึ่งเราได้ปิดพื้นที่ทำความสะอาดฆ่าเชื้อในชั้นที่เจ้าหน้าที่คนนั้นทำงาน และชั้นอื่นๆใกล้เคียงไปเรียบร้อยแล้ว และได้สั่งกักตัวผู้ที่เกี่ยวข้องและอยู่ในกลุ่มเสี่ยงประมาณ 100 คน และกำชับว่าหากใครมีไข้หรืออาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ทันที และตามนโยบายของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ออกมาเน้นการลดเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาทำงานในอาคาร เน้น Work form Home ซึ่งทางดีเอสไอเรามีระบบการทำงานนอกสถานที่รองรับการทำงานได้ทั่วประเทศอย่างมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว ทั้งนี้จากการตรวจสอบอย่างละเอียดขณะนี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเติม แต่อย่างใด โดยทางกระทรวงยุติธรรมยังมีช่องทางการร้องเรียนหลัก คือศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข โทร 1111 ต่อ 77 อีกด้วย
ฮู้...ตั้งศูนยนั่นนี่หน่วยนั่นนี้เยอะแยะเปลืองงบเฉยหรอก ไม่มีอะไร ....
04 เม.ย. 2563 เวลา 14.50 น.
Manty2019 ทำช้าดีกว่า ไม่ทำอะไรเลย เราจะผ่านไปด้วยกัน
04 เม.ย. 2563 เวลา 14.51 น.
ฉัตรชัย. ทำป้ายครับ เอาแค่ศูนย์เดียวที่ี่ี่ติดต่อได้ง่ายๆเหอะ ศูนย์โควิตแม่งเยอะฉิบหาย ไอัห่านจิก
04 เม.ย. 2563 เวลา 14.47 น.
พิราบขาว จับรายใหญ่มาสักรายก่อนแล้วค่อยคุยได้ป่ะ..เอียนชิบหายเลย..?
04 เม.ย. 2563 เวลา 14.43 น.
Aiiln_.yyy😻 พึ่งคิดได้ หรือพึ่งโผล่ สัน
04 เม.ย. 2563 เวลา 14.39 น.
ดูทั้งหมด