รวบโจ๋กร่างปา "อีโต้"ใส่รถ ตั้ง 4 ข้อหาหนัก

ตำรวจอุบลฯจับกุมนายพงษ์สิทธิ์ เศษวิวงศ์ชัย ก่อเหตุปา"อีโต้"ใส่รถตำรวจ ตชด.ตั้ง 4 ข้อหาหนัก จากกรณี ร.ต.อ.สมพร เหล่าสิงห์ อายุ 59 ปีรองสารวัตร กก.ตชด.ที่ 22 อุบลราชธานี ที่ได้นำคลิปภาพจากกล้องติดหน้ารถซึ่งเป็นเหตุการณ์ช่วงวัยรุ่นขี่รถ จยย.ปาดหน้าและจอดรถขวางรถกระบะยี่ห้อโตโยต้ารีโว้ หมายเลขทะเบียน กย 4122 อุบลราชธานีเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม จากกรณี ร.ต.อ.สมพร เหล่าสิงห์ อายุ 59 ปีรองสารวัตร กก.ตชด.ที่ 22 อุบลราชธานี ที่ได้นำคลิปภาพจากกล้องติดหน้ารถซึ่งเป็นเหตุการณ์ช่วงวัยรุ่นขี่รถ จยย.ปาดหน้าและจอดรถขวางรถกระบะยี่ห้อโตโยต้ารีโว้ หมายเลขทะเบียน กย 4122 อุบลราชธานี รวมทั้งรถคันอื่นๆที่วิ่งตามกันมาเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา มอบให้พ.ต.ท.รุ่งทวี นาปาน สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองอุบลราชธานี ใช้ประกอบหลักฐานนำตัวมาดำเนินคดี
จากการสอบสวนเบื้องต้น ร.ต.อ.สมพร เหล่าสิงห์ โดย รองสารวัตร กก.ตชด.ที่22 อุบลราชธานี ให้การว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 ส.ค.61 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปทำธุระที่จ.อำนาจเจริญ ขากลับช่วงบ่ายโมงเศษๆ ขับรถมาตามถนนชยางกูร ขาเข้าตัวอ.เมืองอุบลราชธานี เมื่อเข้าเขต ต.หัวเรือ มีชายวัยรุ่นขี่รถ จยย.ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเลขทะเบียน 1กท 1405 อุดรธานีปาดหน้ารถของตน และขี่รถส่ายไปมาลักษณะเมาสุราก่อนจะหยุดมอเตอร์ไซค์ด้านหน้ารถตนเอง พร้อมเปิดชายเสื้อโชว์มีดอีโต้ขู่เมื่อได้จังหวะจึงขับรถเบี่ยงเพื่อจะเร่งเครื่องออกจากจุดเกิดเหตุแต่ชายวัยรุ่นได้ล้วงเอามีดขึ้นมาฟันไปที่กระโปงหน้ารถและกระจกข้างได้รับความเสียหายเป็นมูลค่าประมาณ 17,000 บาท
ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 18 สิงหาคม พ.ต.อ.สานิตย์ ไชยสถิตย์ผกก.สืบสวน ภ.จว.อุบลราชธานี, พ.ต.ท.ศิริพงศ์ สุดา รอง ผกก.สืบสวนสภ.เมืองอุบลราชธานี, พ.ต.ท.ณัฐกร พลภักดี สว.สส.สภ.เมืองอุบลราชธานีร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.อุบลราชธานี และ ชุดสืบสวนสภ.เมืองอุบลราชธานี ได้ติดตามจับกุมนายพงษ์สิทธิ์ เศษวิวงศ์ชัย อายุ 21ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 ม.15 ต.หัวเรือ อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงอุบลราชธานี ที่ 118/2561 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2561 ซึ่งหลังก่อเหตุได้หลบหนี
จนเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้จึงนำตัวผู้ต้องหาส่ง พ.ต.ท.รุ่งทวี นาปาน สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองอุบลราชธานี ดำเนินคดีในข้อหาทำให้เสียทรัพย์,พาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันสมควร,ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ,ขับรถประมาทหรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน,ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือเดือนร้อนของผู้อื่น