เมื่อเวลา 12.20 น.วันที่ 19 สค.61 พ.ต.ต.วิทูล สีตะวัน สว.ป.สภ.เมืองแพร่ รับแจ้งมีเหตุใช้อาวุธทำร้ายร่างกายกันจนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 73 หมู่ 2 ต.เหมืองหม้อ อ.เมือง จ.แพร่ จึงแจ้งให้ ร.ตงอ.ณรงค์ ซ่อนกลิ่น ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองแพร่ แพทย์เวรโรงพยาบาลแพร่ หน่วยกู้ชีพเวียงโกศัย กู้ภัยแพร่ เดินทางไปที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นถนนซอยที่เชื่อมจากถนนใหญ่ และบริเวณหน้าบ้านตามที่รับแจ้ง พบผู้เสียชีวิตหนึ่งรายคือ นายคำมูล ดาวหาร อายุ 66 ปี บ้านเลขที่ 73/2 หมู่ 2 ต.เหมืองหม้อ อ.เมือง จ.แพร่ อดีตข้าราชการกรมป่าไม้ นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 73 หมู่ 2 ต.เหมืองหม้อ อ.เมือง จ.แพร่ ในมือผู้ตายถือมีดหั่นเนื้อยาว 8 นิ้ว และ พบรถจักยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าดรีม หมายเลขทะเบียน กกล 153 แพร่ ล้มลงอยู่กลางถนนห่างจากผู้ตาย 5 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ยึดอาวุธมีดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนดำเนินการสอบสวนพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ
ส่วนคู่กรณี คือ นางศรีรัตน์ แก้วสีขาว อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 73 หมู่ 2 ต.เหมืองหม้อ อ.เมือง จ.แพร่ เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ได้รับบาดเจ็บนอนอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านของตนเอง ห่างจากผู้ตาย 23 เมตร โดยบริเวณแขนทั้งสองข้างของ นางศรีรัตน์มีรอยถูกคมมีดบาดหลายแห่ง เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแพร่ราม ไดนำตัวเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแพร่
จากการสอบถาม นางพิสมัย บ่อคำ อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 73/2 หมู่ 2 ต.เหมืองหม้อ อ.เมือง จงแพร่ ที่เป็นภรรยาของ นายคำมูล ผู้ตาย และเป็นน้องสาวของ นางศรีรัตน์ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า พี่สาวและสามีมีบ้านอยู่ติดกัน มีความระหองระแหงในเรื่องของโฉนดที่ดินที่พี่สาวเอาไปเก็บไว้แล้วขอคืนไม่ได้ ตนเองจึงไปแจ้งว่าโฉนดหายและได้โฉนดกลับมาแล้ว และคิดว่าเรื่องคงจบแล้ว แต่ว่าสามียังไม่ยอมจบ ขู่ว่าจะฆ่าทั้งพี่และน้องทั้งสองคน นอกจากนี้สามีเป็นคนขี้หึงหวงมาก จะไปวัดก็ไม่ได้ หากไปวัดก็จะบอกว่าพระให้ข้าวกินหรือยังไง
ช่วงเวลาที่เกิดเหตุ นางศรีรัตน์ พี่สาว มาตามหาหลานชายอายุ3ขวบที่บ้านของตนเองที่อยู่ติดกัน แต่นายคำมูลไม่พอใจเป็นทุนเดิมในเรื่องโฉนดที่ดินอยู่แล้ว จึงตะโกนบอกว่ามาทำไม นางศรีรัตน์ ตอบว่า นี่เป็นบ้านของพ่อตนเองจะมาไม่ได้หรือยังไง ทำให้นายคำมูลโกธรจึงคว้าปืนพกของตนเองออกมาขู่ ทำให้นางศรีรัตน์วิ่งหนีกลับบ้าน นายคำมูลจึงขี่รถจักรยานยนต์ตามนางศรีรัตมา หลังจากนั้นตนเองได้ยินเสียงคนทะเลาและเสียงรถจักรยานยนต์ล้มเสียหลักจึงตามมาพบว่า นายคำมูล นอนตายอยู่บนถนน ส่วนนางศรีรัตน์ ได้รับบาดเจ็บนอนครวญครางอยู่บริเวณหน้าของตัวเอง จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ
ทางด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า อาวุธมีดดังกล่าวเป็นของนางศรีรัตน์ แต่อยู่ในมือของ นายคำมูล ผู้ตายซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจาการแย่งมีดกัน และ นายคำมูลน่าจะถูกแทงเข้าที่ชายโครงด้านขวาขณะที่ขับขี่รถจักยานยนต์ตามมาจนรถเสียหลักล้มลงและเมื่อ นางศรีรัตน์แทงนายคำมูลแล้วก็เกิดการแย่งมีดกันขึ้น ก่อนที่นายคำมูลจะทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในที่สุด ส่วน นางศรีรัตน์กระเสือกกระสนคลานไปล้มลงที่บริเวณปากทางเข้าบ้านของตนเอง หลังจากที่ชุดสายตรวจ สภ.เมืองแพร่เดินทางถึงที่เกิดเหตุ พร้อมกับหน่วยกู้ชีพเวียงโกศัย จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแพร่
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหา นาศรีรัตน์ ว่าฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ไว้ก่อน และสอบสวนเพิ่มเติมว่าเกิดจากสาเหตุจากความกลัวว่าจะถูกนายคำมูลตามมาฆ่าหรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนนางศรีรัตน์ มือมีดที่ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแพร่ เพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง
น้องเขยกับพี่เมีย พี่สะใภ้บ้านพ่อมรึงสิ ลำดับญาติยังไม่ถูกเลย
20 ส.ค. 2561 เวลา 00.23 น.
ช่างเปี๊ยก แก่เฒ่ากันทุกคนตายแล้วก็เอาไปไม่ได้ซักอย่าง..จะอะไรนักหนา..หัดปลงซะบ้างนะ..ตายแบบทรมาน..คนเราแค่กินอิ่มท้อง..ลองคิดดูนะครับจะได้มีความสุขทางใจ..เผื่อแผ่คนอื่นมีความสุขจะตาย..ลองดูก็ได้..
19 ส.ค. 2561 เวลา 17.04 น.
Anisara Sangsri ความอยากได้ของคนมันมากมายจริง ไม่ใช่ของตัวมันก็จะเอา
19 ส.ค. 2561 เวลา 21.33 น.
tum tim ทะเลาะเรื่องไม่เป็นเรื่อง
20 ส.ค. 2561 เวลา 01.06 น.
สมบัติเป็นเหตุ
19 ส.ค. 2561 เวลา 21.19 น.
ดูทั้งหมด