This War of Mine เกมที่สะท้อนความเป็นจริงบนโลกนี้ได้อย่างดี ว่าสงครามไม่ใช่เรื่องสนุก ชีวิตทุกคนนั้นมีค่าเป็นอย่างยิ่ง คุณจะเอาตัวรอด คุณจะตัดสินใจในสงครามอย่างไร เมื่อทุกการตัดสินใจมีผลที่ตามมาเสมอ
Story
This War of Mine “IN WAR NOT EVERYONE IS A SOLDIER”
ในสงคราม ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นทหาร
คำโปรยสุดทรงพลังและบอกถึงเรื่องราวเกมนี้ได้อย่างชัดเจน เนื้อเรื่องของเกมนั้นจะให้คุณรับเป็นพลเมืองที่เจอภัยจากสงครามหนีเอาตัวรอดมาเจอตึกร้างแห่งหนึ่ง ที่เราจะใช้เป็นบ้านร่วมกับผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ
เนื้อเรื่องสั้นๆแต่รับรองว่าถึงใจ ถึงใจยังไงเราจะพูดในส่วนของเกมเพลย์กัน
ในตอนแรก This War of Mineจะมีเนื้อเรื่องอยู่เพียงเท่านี้ ภายหลังได้มีการเพิ่มส่วนเสริมหรือ DLC ที่เพิ่มใน่ส่วนของเนื้อเรื่องเข้ามาถึง 3 DLC
- DLC ตัวแรกมีชื่อว่า Father’s Promiseเรื่องราวของพ่อลูกคู่หนึ่งที่ต้องเอาตัวรอดจากสงคราม อยู่มาวันนึงลูกกลับหายไปอย่างลึกลับ ทำให้พ่อต้องตามหาลูก ท่ามกลางเมืองที่สุดแสนอันตราย (ขอบอกว่าตอนจบนั้นสุดมาก ควรหามาเล่น) มีราคาอยู่ประมาณ 45 บาท
- DLC ตัวที่สอง The Last Broadcast เนื้อเรื่องที่ให้เรารับบทเป็นนักจัดรายการวิทยุในเมืองที่มีสงคราม ทุกเสียงที่เราประกาศออกไปนั้นมีความหมาย แสดงความจริงในเมืองแห่งความสิ้นหวังนี้ DLC มีราคาอยู่ประมาณ 85 บาท
- DLC ตัวที่สาม Fading Embers เรื่องราวเกี่ยวกับหญิงสาวอาศัยอยู่ในพื้นที่สงครามและต้องมีหน้าที่ภาระที่เกินตัว ที่ตั้งคำถามสำคัญว่า ระหว่างการอยู่รอดของมนุษย์ชาติกับการอยู่รอดของชายคนหนึ่ง อะไรสำคัญกว่ากัน DLC มีราคาอยู่ประมาณ 85 บาท
Gameplay
จุดแข็งเกมเพลย์ของ This War of Mineนั้นคือการเล่นกับจิตใจของผู้เล่น เกมจะบังคับให้เราเอาตัวรอด เริ่มต้นมาคุณจะได้ควบคุมผู้รอดชีวิตมีตั้งแต่ 1 คน 2 คน แต่ละคนจะมีทักษะแตกต่างกัน บางคนทำอาหารเก่ง บางคนต่อสู้เก่ง บางคนเก่งเรื่องการพูดคุย ทั้งหมดจะอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน เกมจะแบ่งเป็นช่วงการวันและกลางคืน ในช่วงกลางวันคุณต้องพัฒนาบ้าน ทำอาหาร ปลูกต้นไม้ เก็บน้ำ หรือแม้กระทั้งพูดคุย พักผ่อน ในช่วงกลางคืนเป็นช่วงที่คุณต้องออกจากบ้านไปหาของตามพื้นที่ต่างๆ ตั้งแต่ โรงพยาบาล ตลาดของเถื่อน โรงแรม ตึกร้าง เพื่อหาทรัพยากรมาใช้ที่บ้าน และใช้สำหรับแลกเปลี่ยนกับ NPC ในเกม ตรงนี้ละคือจุดที่จะเล่นกับจิตใจของเรา บางครั้งคุณไปสำรวจบ้านที่ดูร้าง คุณอาจจะเจอคนแก่ แต่ที่บ้านนั้นกลับมียาและอาหารที่จะสามารถให้คุณและผู้รอดชีวิตคนอื่นที่ผ่าน รอดตายได้ แต่ถ้าคุณเอาไป คนแก่นั้นก็ต้องเสียชีวิต หรือแม้มีเด็กมาขออาหารเพื่อไปให้แม่ที่ป่วยคุณจะตัดสินใจอย่างไร ให้ไปแม่เด็กอาจจะรอด แต่คุณก็จะไม่มีอะไรทานเช่นกัน ในเกมมีสถานะการณ์หลายอย่างที่จะเข้ามาหาผู้เล่น แล้วต้องตัดสินใจ และทุกการกระทำมีผลตามมาเสมอ เช่นตัวละครของคุณอาจจะเศร้าหากทำร้ายคนแก่ หรือไม่ช่วยเหลือตามคำขอ ร้ายที่สุดอาจจะเศร้าจนฆ่าตัวตาย แล้วเมื่อคุณออกไปสำรวจหากเจอทหาร โจร หรืออะไรก็แล้วแต่ทำร้ายคุณจนถึงชีวิต ตัวละครนั้นก็จะตายจริงๆ ไม่สามารถเล่นได้ หรือแม้กระทั้งการอยู่ที่บ้านเฉยๆก็อาจจะมีโจรบุกเข้ามา อากาศที่หนาวหากคุณไม่ก่อไฟ การบาดเจ็บ ขาดน้ำ ขาดอาหารทุกอย่างนั้นส่งผลต่อความเป็นความตายเสมอ จุดมุ่งหมายของเกมคือให้คุณเอาชีวิตรอดจนถึงวันที่ตัวเกมกำหนด ซึ่งจะเป็นวันที่กองกำลังทหารนานาชาติเข้ามาช่วยเมืองนี้
Graphic
กราฟิกของเกมนั้นดูเรียบง่าย ออกโทนมืดๆตามธีมของสงครามแต่สามารถสื่ออารมณ์ได้เป็นอย่างดี ถึงความสิ้นหวังและการเอาตัวรอด ทั้งแสงเงา เสียง ที่ประกอบกับฉากนั้นยิ่งส่งอารมณ์ให้เราดิ่งลงไปกับตัวเกมได้ง่ายๆ ในด้านของประสิทธิภาพเกมนั้นยอดเยี่ยม กินสเปคไม่มาก สามารถเล่นได้ทุกเครื่องแน่นอน นอกจากนี้เกมยังลงในหลาย Platform อีกด้วย
สำหรับตัวผู้เขียนเองมองว่า This War of Mineเองอาจจะไม่ใช่เกมที่เล่นสำหรับคลายเครียดหรือเอาสนุกเท่าไหร่ เพราะตัวเองนั้นต้องการสื่ออีกมุมมองหนึ่งของสงครามแล้วพาเราอินไปกับมัน ที่ทำให้เราต้องตั้งคำถามกับตัวเอง แต่รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนด้วยคุณภาพและราคา นอกจากนี้ยังมี DLC War Child Charity ที่จะนำเงินจากการซื้อไปบริจาคให้กับเด็กที่ต้องเจอภัยสงครามอีกด้วย
หากใครสนใจสามารถดูรายละเอียดหรือซื้อได้ผ่านลิงค์นี้เลย : https://store.steampowered.com/app/282070/This_War_of_Mine/?l=thai
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news