ไลฟ์สไตล์

ความตายไม่เรียงลำดับไหล่ - ศุ บุญเลี้ยง

TOP PICK TODAY
เผยแพร่ 25 ก.พ. 2563 เวลา 17.00 น. • ศุ บุญเลี้ยง

 

ทุกครั้งที่เราได้ยินคำกล่าว ถึงผู้วายชนม์

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เราจะได้ยินเสมอว่าท่านได้สิ้นลมหายใจ จากไปอย่างสงบ

เคยสงสัยบ้างไหมว่า มีใครสิ้นชีวิตอย่างไม่ค่อยสงบ

สิ้นชีวิตอย่าง ทุรนทุราย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เชื่อว่าต้องมีอย่างมากมาย

แต่เพราะเราไปนับการตาย ตั้งแต่ตอนที่ชีวิตหมดชีพจร มันจะไม่สงบได้ยังไง

ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น อาจจะหายใจติดขัดหอบเฮือกๆ แต่ก็ไม่มีใครคิดนำมากล่าว

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 

ตอนแม่ยังมีชีวิต แม่ค่อนข้างใช้ชีวิตตามใจตัวเอง

คือไม่ได้กังวลกับสิ่งที่หมอหรือลูกๆ ห้ามมากมาย

พวกเราขู่ว่าถ้าแม่ป่วยจะลำบาก อาจต้องไปฟอกไต

แม่บอกว่า กูไม่ฟอกหรอก เดี๋ยวถ้าไม่สบายกูตายเลย

เราขำและบอกแม่ว่า คนเราไม่ได้โชคดี นึกจะตายก็ตายได้เลย

 

ตอนแม่ล้มป่วย ช่างน่าอัศจรรย์ แม่เข้าโรงพยาบาลไม่นาน

อาการดีขึ้นดีขึ้นเล็กน้อย  แล้วก็ทรุดลง

อยู่ดีๆ ความดันแม่ก็ลดชีพจรแม่ก็ตก

และอาจจะเรียกได้ว่า แม่กำลังจะตายแบบไม่เกรงใจใคร

แต่การแพทย์สมัยใหม่ ไม่ยอม เหล่าเจ้าหน้าที่ช่วยกันปั๊มหัวใจ

จนแม่กลับมาหายใจ แต่ด้วยสมองที่ขาดอากาศไปนาน หลายนาที

ทำให้แม่กลับมาแบบมีชีวิตที่ไม่สมบูรณ์ เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน 

ผมเฝ้าดูการรักษาเยียวยา สารพัดแล้วสงสารแม่

และบอกกับตัวเองว่าจะต้องไม่ปล่อยให้พ่อมีชีวิตที่ลำบากเช่นนี้

โชคดีพออายุ ได้ที่เก้าสิบปี พ่อก็เริ่มเบื่ออาหาร ไม่อยากทานข้าว แม้กระทั่งน้ำ ก็ไม่อยาก

อาจเป็นเพราะ ถึงเวลาของชีวิต ที่สุดแล้วมันหมดความพยายามจะอยู่ต่อ

แล้วพ่อก็จากไป

ในแบบที่เราแจ้งกับทางโรงพยาบาลว่า ไม่ต้องการให้มีการกระตุ้นหรือพยายามยื้อยุด 

 

จริงอยู่หลายคนกลัวความตาย

แต่ไม่ใช่ทุกคน และไม่ใช่คนที่อยู่กินกับชีวิตแบบบ้านๆ

ไปงานศพมาบ่อยๆ หรือใช้ชีวิตมาจนคุ้มค่าเพียงพอ

ผมไม่ค่อยเห็นคนในงานศพตามชนบท  โศกเศร้ามากมาย

ตายก็ตาย ตายแล้วก็ทำพิธีกันไป ส่วนใหญ่เชื่อในโลกหน้า

เชื่อว่าวิญญาณยังอยู่และพยายามทำบุญส่งไปให้ ได้ไปในภพภูมิที่ดี

แม้ไม่มีใครรู้ว่าจะมีภพภูมิที่ว่านั้นหรือไม่ แต่ก็ส่งเสบียงบุญไปให้ตามกำลังศรัทธา

ซึ่งการจากไปแต่โดยดี มันย่อมน่าจะดีกว่า ให้คนที่เรารัก ป่วยติดเตียง

มีอาการร่อแร่ จะดื่มจะกินลำบาก บางคนกระทั่งกลืนอาหารยังไม่ได้ ต้องใส่สายเสียบท่อส่งให้ทั้งอาหาร และอากาศ

ยิ่งเขามีเงินทองมาก ก็ยิ่งเสี่ยงต่อการ มีโอกาสจะมีชีวิตที่ทรมาน 

สู้ไม่มีเงินหาหมอ แล้วได้จากไปอย่างสงบ กับลูกหลานเสียน่าจะดีกว่า

 

อย่าว่าแต่คนธรรมดาเลย

จำได้ว่าท่านพุทธทาสสั่งสานุศิษย์ว่า อย่าให้ยื้อยุดชีวิตท่านไว้ ด้วยเครื่องไม้เครื่องมือทางการแพทย์

แต่วาระสุดท้ายเมื่อท่านอาพาธ ลูกศิษย์มากมายที่ว่า รักศรัทธา ในคำสอน

ก็ยังไม่ยอมเชื่อวาจาของท่าน ทำในสิ่งซึ่งขัดกับเจตนารมณ์

 

ตอนพ่อมีอาการทางหัวใจ

ผมนำเอาภาพการเต้นของหัวใจพ่อจากภาพที่ทางรพ.ให้มา

ส่งให้นักดนตรีแล้วนำอัตราการเต้นของหัวใจ

มาใช้กำหนดเป็นจังหวะในการสร้างเพลง ทำดนตรีให้เหมือนกับการสูบฉีดโลหิต

นักดนตรีรุ่นลูกทำให้ตามโจทย์ 

ผมตั้งใจจะนำเอาดนตรีนี้มาใส่ เนื้อหา และสร้างสรรค์เป็นงานศิลปะแห่งชีวิต ได้คิดและเริ่มจะทำได้ไม่นาน

ตั้งใจว่า ตอนพ่อจากไป ค่อยนำภาพและเพลงมาประกอบกัน

ปรากฏว่า นักดนตรีหนุ่มน้อย เสียชีวิต ก่อนพ่อเสียอีก

 

อาจาย์ถวัลย์เคยได้รับเชิญให้ไปอวยพร คู่บ่าวสาว ท่านกล่าวต่อผู้มาร่วมงานแต่งงานว่า

ขอให้รักกัน อยู่กัน และตกตายตามกันทั้งหมด 

ตายไปตั้งแต่ปู่ย่าตายายพ่อแม่ พี่น้องลูกหลาน

หลายคนไม่พอใจ

แต่ท่านว่านั่นแหละคำอวยพร

คือตายไปตามๆ กัน เรียงลำดับแบบ จากอายุมากไปน้อย แบบนี้ถือว่าดีทีเดียว

ดีกว่าตายสลับกันไปมา 

ซึ่งในความเป็นจริง ความตายก็ไม่เรียงลำดับไหล่

มันจึงยากที่จะทำใจ

ติดตามบทความใหม่ ๆ จากศุ บุญเลี้ยง ได้ทุกวันพุธ บน LINE TODAY และหากสามารถอ่านบทความอื่นได้ที่เพจศุ บุญเลี้ยง

ความเห็น 13
  • ในการดำเนินชีวิตของคนเรานั้นทุกอย่างก็ย่อมที่จะต้องแตกต่างกันออกไปเสมอไม่ว่าจะอยู่ในวัยก็ตาม แต่ในสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดต่อในการดำเนินชีวิตที่ไม่ควรจะลืมนั่นก็คือความไม่ประมาทกับในการดำเนินชีวิต.
    26 ก.พ. 2563 เวลา 06.12 น.
  • rangdong
    สติยืดชีวิตในทุกๆเรื่อง
    26 ก.พ. 2563 เวลา 08.27 น.
  • Leevaria
    จริงของอาจารย์ถวัลย์นะ ตายตามลำดับย่อมดีกว่า เห็นบางคนพ่อแม่แก่ๆ แล้วลูกตายก่อน มันเศร้ามาก
    26 ก.พ. 2563 เวลา 13.19 น.
  • Panu
    ก็เห็นด้วยว่าไม่ต้องไปโรงพยาบาลในช่วงเวลาป่วยสุดท้ายปลายทาง แต่คงทรมานก่อนตายน่าดู อิจฉาคนที่ตายแบบเฉียบพลันใหลตายหรือหัวใจวายตาย ช่างโชคดีที่ไม่ต้องทรมานยาวนานกะอาการเจ็บปวดต่างๆ
    26 ก.พ. 2563 เวลา 10.56 น.
  • Ekaporn
    ไม่มีใครอยากตายแบบทรมานกันทุกคน แค่ไปเห็นคนป่วยติดเตียงบ้านคนชรา ก็เข่าอ่อนแล้ว..วันนี้ที่ทำได้คือหมั่นทำดี ทำบุญทำทาน มีเมตตาและมีสติกำหนดรู้ไว้ให้มากๆครับ
    26 ก.พ. 2563 เวลา 10.51 น.
ดูทั้งหมด