เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ศรัณย์ เจริญสุวรรณ เอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส และภริยา พร้อมด้วยหัวหน้าสำนักงานทีมประเทศไทยประจำกรุงปารีสและสำนักงานที่มีเขตอาณาครอบคลุมประเทศฝรั่งเศส และข้าราชการสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ได้เดินทางไปยังเมืองแบรสต์ ซึ่งเป็นเมืองท่าตั้งอยู่ทางตะวันตกของฝรั่งเศส เพื่อเตรียมการและเข้าร่วมพิธีประดิษฐานรูปปั้นเจ้าพระยาโกษาปานที่เมืองแบรสต์
โดยรูปปั้นเจ้าพระยาโกษาปานเป็นโครงการริเริ่มโดยสมาคมครูสอนภาษาฝรั่งเศสแห่งประเทศไทย (สคฝท.) เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 333 ปี ราชทูตสยามเยือนฝรั่งเศส ซึ่งคณะราชทูตได้ขึ้นท่าที่เมืองแบรสต์ ก่อนเดินทางไปเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2229 และได้เดินทางกลับสยามเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2230 โดยขึ้นเรือที่ท่าเรือเมืองแบรสต์เช่นกัน
ปัจจุบันนับได้ว่า เมืองแบรสต์เป็นเมืองที่มีร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงมิตรภาพของไทยและฝรั่งเศสเป็นจำนวนมากที่สุดในฝรั่งเศส นับแต่การตั้งชื่อถนนสายหลักของเมืองว่าถนนสยาม ตั้งชื่อสถานีรถ Tramway ว่าสยาม และมีหุ่นจำลองของคณะราชทูตที่พิพิธภัณฑ์ประจำเมือง (พิพิธภัณฑ์ Tour Tanguy) และยังมีรูปปั้นเจ้าพระยาโกษาปานตั้งอยู่ด้วย โดยเมืองแบรสต์ได้เสนอให้ประดิษฐานรูปปั้นที่หัวมุมถนน Louis Pasteur ตัดกับถนน Ducouëdic ซึ่งเป็นจุดที่โกษาปานได้ขึ้นท่าที่เมืองแบรสต์เมื่อกว่า 300 ปีที่แล้ว และยังเป็นพื้นที่ที่มีผู้คนสัญจรผ่านจำนวนมาก เนื่องจากเป็นที่ตั้งของสถานีรถกระเช้าไฟฟ้าเพื่อข้ามฝั่งไปยัง les ateliers des capucins ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะจัดกิจกรรมต่างๆ ของชาวเมืองแบรสต์
กิจกรรมต่างๆ ของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ได้เริ่มขึ้นจากพิธีประดิษฐานรูปปั้นโกษาปาน เวลา 11.00 น. โดยมีบุคคลสำคัญของฝรั่งเศสเข้าร่วมงานจำนวนมาก เช่น François Cuillandre นายกเทศมนตรีของเมืองแบรสต์ Ivan Bouchier รองผู้ว่าการจังหวัด Finistère พร้อม Thierry Mathou อธิบดีกรมเอเชียและโอเชียเนีย กระทรวงยุโรปและการต่างประเทศฝรั่งเศส และยังมีประชาชนชาวไทยซึ่งเดินทางมาจากทั่วทุกหนแห่งในฝรั่งเศสและจากประเทศไทยเข้าร่วมงานด้วย เคียงข้างกับชาวเมืองแบรสต์อีกเป็นจำนวนมาก จากนั้นได้รำกลองยาวไปจนถึงที่ทำการเมืองแบรสต์ เพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงรับรอง ซึ่งมีการแสดงวัฒนธรรมของไทยจากกระทรวงวัฒนธรรม กรมศิลปากร และมีการสาธิตการนวดไทยซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกที่จับต้องไม่ได้โดยยูเนสโกเมื่อปีที่แล้วอีกด้วย
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ขอขอบคุณชาวไทยในฝรั่งเศสที่ได้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ และได้ช่วยสนับสนุนการจัดงาน ขอขอบพระคุณสมาคมครูสอนภาษาฝรั่งเศสแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อ.ธิดา บุญธรรม อุปนายกสมาคมฯ และเมืองแบรสต์ ซึ่งได้ร่วมแรงกันจนงานสำเร็จได้ในวันนี้ รวมทั้งคณะกระทรวงวัฒนธรรมและทุกท่านที่ได้เดินทางมาจากประเทศไทย และได้เป็นสักขีพยานของช่วงเวลาที่สำคัญอีกช่วงหนึ่งของมิตรภาพไทย-ฝรั่งเศส โดยเชื่อมั่นว่า รูปปั้นโกษาปานจะเป็นหลักฐานของมิตรภาพไทย-ฝรั่งเศสตลอดไป
ภาพ: สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
tung p. สิ่งดีงามก็ควรธำรงไว้ ประวัติศาสตร์ถือเป็นบทเรียน
17 ก.พ. 2563 เวลา 03.38 น.
S. อ้ายเศษฝรั่งคบไม่ได้ เอาดินแดนไปขนาดไหน ลูกหลานไทยพึงตระหนัก
17 ก.พ. 2563 เวลา 03.16 น.
Nisit มิตรที่ดีต่อกันบ้านไหน เขาเอาเรือรบมาข่ม มายิงถล่มใส่กัน บังคับให้ค้าขาย พยายามยึดชาติโดยอ้างล้าหลัง วางยาขีดเส้นประเทศไทยให้เขมร ลาว มิตรดีมากๆ
17 ก.พ. 2563 เวลา 03.54 น.
VC เครื่องยนต์ ทุกคอมเม้นค่ะ มันหมดยุคทะเลาะกันแล้วค่ะ ทำจิตใจให้ดีงามดีกว่านะคะรักกันไว้ค้าขายร่วมกันทุกชาติเจริญ
17 ก.พ. 2563 เวลา 03.38 น.
kim 私の名前はキムです。🎎🎌🌻 เป็นมิตร ดีกว่าเป็นศัตรู
17 ก.พ. 2563 เวลา 03.43 น.
ดูทั้งหมด