ไอที ธุรกิจ

อยากตรวจหา “ไวรัสโคโรนา” ต้องเสียตังค์กี่บาท

ฐานเศรษฐกิจ
เผยแพร่ 27 ก.พ. 2563 เวลา 10.18 น. • Thansettakij

 

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้มีสาวไทยรายหนึ่งได้แชร์ประสบการณ์การถูกกักตัวเพื่อรักษา ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง หลังเจ้าตัวกลับจากเที่ยวญี่ปุ่นแล้วป่วย ซึ่งโรงพยาบาลดังกล่าวกักตัว 9 ชั่วโมง และมีค่าใช้จ่ายกว่า 42,073 บาท

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

จนปัจจุบันสถานการณ์ที่เริ่มมีการเจ็บป่วยภายในโรงเรียน สถาบันการศึกษา ทำให้ผู้ที่มีอาการป่วย มีไข้ เกิดความกังวลว่าจะติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือไม่ เพื่อความสบายใจ 

“ฐานเศรษฐกิจ” ได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่า ขณะนี้มีโรงพยาบาลรัฐและเอกชนอย่างน้อย 8 แห่ง ที่พร้อมรับตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 พร้อมกับเปิดเผยราคาค่าใช้จ่าย เพื่อให้ประชาชนที่ไม่มั่นใจว่าตัวเององอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสดังกล่าวหรือไม่ 

โดย 8 โรงพยาบาล ประกอบด้วย 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

1.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ค่าบริการแพทย์และ Lab ตั้งแต่ 3,000-6,000 บาท 

  1. โรงพยาบาลราชวิถี ค่าบริการตั้งแต่ 3,000-6,000 บาท 

3.โรงพยาบาลเปาโล (ทุกสาขา) ค่าบริการตั้งแต่ 5,000-13,000 บาท 

4.โรงพยาบาลรามาธิบดี ค่าบริการอยู่ที่ 5,000 บาท

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

5. โรงพยาบาลบางปะกอก 9 ค่าบริการอยู่ที่ 5,000 บาท 

6. โรงพยาบาลพญาไท2 ค่าบริการอยู่ที่ 6,500 บาท 

7. โรงพยาบาลแพทย์รังสิต ค่าบริการอยู่ที่ 7,000 บาท 

8. โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ ค่าบริการอยู่ที่ 9,900 บาท

ทั้งนี้แต่ละโรงพยาบาลมีค่าใช้จ่ายในการตรวจจะไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของการติดเชื้อหรือของผู้มาตรวจ 

นอกจากนี้ มีข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข อธิบายเพิ่มเติม ถึงกรณีค่าใช้จ่ายในการรักษาหรือตรวจสุขภาพกรณีป่วยติดเชื้อฯ กรณีขอตรวจหาเชื้อผ่านโรงพยาบาลเอกชน ถ้าคนคนนั้นไม่มีอาการป่วย ไม่มีประวัติเสี่ยงใดๆเลย แต่ต้องการขอตรวจหาเชื้อเพื่อความสบายใจ อาจต้องเสียค่าใช้จ่าย ส่วนโรงพยาบาลรัฐ หากปรึกษาแพทย์จะมีคำแนะนำและรักษาตามสิทธิ์

“หากประชาชนมีอาการป่วยสงสัยจะติดเชื้อหรือไม่ พิจารณาจากประวัติการเดินทาง ไปในพื้นที่เสี่ยงระบาดมา มีการสัมผัสนักท่องเที่ยวกลุ่มเสี่ยง และเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคของกระทรวงสาธารณสุข กลุ่มนี้สามารถเข้ารับการรักษาตามสิทธิได้ เช่น สิทธิบัตรทอง 30 บาท สิทธิประกันสังคม ประกันชีวิตถ้าได้ทำประกันไว้”

ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข ระบุอีกว่า กรณีขอตรวจหาเชื้อผ่านโรงพยาบาลเอกชน หากไม่ได้ส่งตัวอย่างเชื้อผู้ป่วยมาตรวจกับ “เครือข่ายห้องปฏิบัติการของกระทรวงสาธารณสุข 13 แห่ง” ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเอง แต่หากโรงยาบาลเอกชนดังกล่าวส่งตรวจเชื้อมายังส่วนกลาง 13 แห่ง เนื่องจากอาจจะเข้าข่ายต้องสงสัย ผู้ป่วยรายนั้นก็จะไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ผู้ป่วยอาจต้องเสียค่ารักษาพยาบาล ค่าอุปกรณ์ ของโรงพยาบาลตามปกติ และหากผลตรวจจากห้องปฏิบัติการยืนยันเป็นลบ คือ ติดเชื้อไวรัสโคโรนา จะถูกนำตัวเข้าสู่ระบบการรักษาทันที โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ

“คุณเลือกรักษาโรงพยาบาลเอกชนก็เร็ว สะดวกกว่าโรงพยาบาลของรัฐ ก็ต้องยอมรับในเรื่องค่าใช้จ่ายที่มากหน่อย แต่ถ้าคุณสงสัยอาการป่วยตัวเอง แนะนำให้มาโรงพยาบาลรัฐก่อน”

ด้านข้อมูลจาก กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีอำนาจในควบคุมราคาค่ายาค่าบริการทางการแพทย์ ระบุว่า หากผู้ป่วยไม่ได้รับความเป็นธรรมจากค่ารักษาพยาบาล ต้องเก็บหลักฐานมาแสดงที่ศูนย์รับเรื่อง1569  เพื่อดำเนินคดีต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 16
  • วิรัช
    นี่แหละเป็นสาเหตุหนึ่งของการแพร่ระบาดของเชื้อโรค คนไม่อยากเสียเงินก็ไม่ไปตรวจแล้วก็แพร่เชื้อไปเรื่อยไห่ทางแก้ยาก ทำไมไม่ตรวจฟรี หากเป็นค่อยคิดเงิน หรือไม่เป็นก็คิดค่ายาตามปกติ รัฐบาลน่าจะหางบประมาณมาช่วยตรงนี้ด้วย ทีอย่างอื่นช่วยได้ช่วยดี ทีอย่างนี้คิดเงินค่าตรวจ อนิจจังประเทศไทย เรื่องดีๆไม่ทำทำแต่เรื่องไม่มีสาระ จะให้เชื้อโรคแพร่ไปทั้งประเทศก่อนใช่ไหม ถ้าถึงวันนั้นงบประมาณมีเทาไหร่ก็ไม่พอ
    27 ก.พ. 2563 เวลา 11.16 น.
  • อยากตรวจ ไวรัส โคโรน่า แต่ตังไม่มีซักบาท ทำไงดีนะ
    27 ก.พ. 2563 เวลา 11.06 น.
  • รัฐบาลแหกตาดูนะครับ...ผลงานคุณจะดีแบบได้ใจคนทั้งประเทศรึเปล่า
    27 ก.พ. 2563 เวลา 11.22 น.
  • Phark T.
    ค่าตรวจแพงกว่าตรวจสุขภาพประะจำปีอีก อย่าไปติดมาเลยครับ
    27 ก.พ. 2563 เวลา 11.14 น.
  • PN - O
    555 .. ในที่สุดก็ออกมายอมรับว่า คุมค่ายาค่ารักษา รพ.เอกชน ไม่ได้
    27 ก.พ. 2563 เวลา 11.20 น.
ดูทั้งหมด