นครพนม - น้ำโขงแห้งเหลือแค่ 1 เมตร รอยพระพุทธบาท 2 พันปีโผล่ชัดสุดรอบ 10 ปี นทท.แห่ชมกราบไหว้ขอพร ชาวบ้านห่วงแล้ง น้ำโขงบแห้งกลายเป็นสีทะเล
https://youtu.be/vQ6b2FV8vkM
เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.นครพนม ในช่วงนี้ภัยแล้ง ยังส่งผลกระทบต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำโขงมีปริมาณต่ำสุดในรอบหลายปี ล่าสุดอยู่ที่ระดับประมาณ 1 เมตร ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบกว่า 50 ปี เนื่องจากมีการเก็บกักน้ำของเขื่อนประเทศจีน บวกกับปีนี้ปริมาณฝนต่ำกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำโขงลดลงอย่างรวดเร็ว และมีระดับต่ำกว่าปีที่ผ่านมาถึง 2 -3 เท่าตัว จากปกติในช่วงเดือนธันวาคม ปีเดียวกันระดับน้ำโขง จะอยู่ที่ระดับประมาณ 6 -7 เมตร แต่ปีนี้มีระดับแค่ประมาณ 1 เมตร นอกจากนี้ยังเกิดปรากฎการณ์ธรรมชาติ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน คือ น้ำโขงกลายเป็นสีครามคล้ายทะเล บวกกับเกิดสันดอนทราย เป็นพื้นที่กว้างหลายจุด เริ่มส่งผลกระทบ ต่อชาวบ้านในพื้นที่ เริ่มขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภค และทำให้ลำน้ำสาขาสายหลัก มีปริมาณน้อยกว่าทุกปี คาดว่าในช่วงฤดูแล้งปีนี้ มีความเสี่ยงที่จะเกิดผลกระทบแล้งวิกฤติ รวมถึงส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ พันธุ์ปลาเสี่ยงสูญพันธุ์ เนื่องจากปริมาณน้ำโขงต่ำ ทำให้กระแสน้ำนิ่งไม่ไหลเชี่ยวตามธรรมชาติ จนเกิดการตกตะกอน เปลี่ยนสี กระทบต่อระบบนิเวศน์ตามมา
เช่นเดียวกันกับพื้นที่ บริเวณ หน้าวัดบ้านเวินพระบาท ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ถือเป็นอีกจุดสำคัญที่พบเห็นความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำโขงลดลงอย่างรวดเร็ว จนทำให้พบเห็นโขดหิน โผล่ขึ้นเหนือน้ำชัดเจนหลายจุด รวมถึง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ใต้น้ำโขง คือ รอยพระพุทธบาทศักดิ์สิทธิ์กลางน้ำโขง อายุราว 2,000 ปี ที่จารึกบนโขดหินกลางน้ำโขง และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ถูกบันทึกไว้ในหนังสือใบลานตำนานพระอุรังคธาตุ สมัยสร้างพระธาตุพนมรุ่นแรก หรือกว่า 2,500 ปี มาแล้ว ที่ระบุไว้ว่า ครั้งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหลังตรัสรู้ เดินทางมาเผยแพร่พระธรรมในชมภูทวีปลุ่มน้ำโขงล่องมาตามลำแม่น้ำโขง ได้มีเหล่าพญานาคใต้เมืองบาดาล และพญาปลาปากคำ ที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาได้แปลงกลายนิมนต์พระองค์ลงไปแสดงธรรมใต้บาดาล และก่อนที่พระองค์จะเสด็จขึ้นมาโลกมนุษย์เหล่าพญานาค และพญาปลาปากคำ ได้ร้องขอพระพุทธเจ้า ประทับรอยพระบาทไว้บนโขดหินแห่งนี้ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์แทนพระองค์ไหว้กราบบูชา จึงได้ปรากฏเห็นถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ โขดหินรอยพระพุทธบาทศักดิ์สิทธิ์ ดังกล่าว จะสามารถมองเห็น และได้มีโอกาสกราบไหว้ขอพร ได้เฉพาะในช่วง เดือนมีนาคม – เดือนเมษายน เท่านั้น แต่ปีนี้ นอกจากจะโผล่เหนือน้ำเร็วกว่าทุกปี ยังมีความชัดเจน จนเริ่มเห็นฐานของโขดหิน ทำให้มีประชาชน นักท่องเที่ยว ต่างทยอยเดินทางไปกราบไหว้ขอพร ตามประเพณีความเชื่อ และถ่ายภาพเป็นที่ระลึก โดยทางวัดบ้านเวินพระบาท ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน ร่วมกับเทศบาลตำบลเวินพระบาท และชุมชน ร่วมกันจัดสร้างสะพานเชื่อมไปยังโขดหินที่โผล่กลางน้ำ ให้ประชาชน นักท่องเที่ยวได้กราบไหว้ ชื่นชมใกล้ชิด และจะมีการจัดงานท่องเที่ยว สรงน้ำในช่วงฤดูแล้ง ประเพณีสงกรานต์ เดือนเมษายน ของทุกปี ซึ่งปรากฏการณ์น้ำโขงแห้งเร็วผิดธรรมชาติ ถือเป็นตัวชีวัดทางธรรมชาติ ที่เป็นตัวบ่งชี้ว่าปีนี้มีความเสี่ยงที่จะเกิดภัยแล้งรุนแรง กว่าทุกปี
ด้าน นายประเสริฐ มังคละคีรี อายุ 60 ปี บ้านเวินพระบาท หมู่ 1 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เปิดเผยว่า ยอมรับว่าปีนี้ระดับน้ำโขงผันผวนมากที่สุดในรอบหลาย 10 ปี บางช่วงระดับน้ำโขจงเพิ่ม บางวันลดระดับเกือบเมตร ที่สำคัญปีนี้แลกใจมาก สีน้ำโขงเป็นสีครามเข้มมาก คล้ายทะเล เชื่อว่าเกิดจะน้ำโขงตกตะกอน กระแสน้ำนิ่งไม่ไหลเชี่ยวตามธรรมชาติ จุดสำคัญคือ บริเวณโขดหินต่างๆ รวมถึง รอยพระพุทธบาทศักดิ์สิทธิ์กลางน้ำโขง อายุราว 2,000 ปี โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำเร็วกว่าทุกปี และมองเห็นได้ชัดเจน จนถึงฐานโขดหิน ถือว่าแปลกมาก จากปกติ จะโผล่ช่วงฤดูแล้ง เดือนมีนาคม – เมษายน ช่วงสงกรานต์ แต่ปีนี้โผล่ขึ้นเร็ว สิ่งสำคัญที่กังวลคือ ภัยแล้ง หากระดับน้ำโขงลดต่อเนื่อง เชื่อว่าสิ่งที่ตามมาคือบางพื้นที่ขาดน้ำการเกษตร ไปจนถึงอาชีพประมงหาปลาน้ำโขง กระทบแน่นอน พันธุ์ปลาต่างๆ เสี่ยงสูญพันธุ์ เพราะปลาจะขึ้นไปวางไข่ต้นน้ำยาก ซึ่งยังต้องเฝ้าติดตาม ว่าจะเกิดผลกระทบอะไรตามมาต่อเนื่อง เพราะปีนี้ระดับน้ำโขงผิดธรรมชาติกว่าทุกปี
ประเด็นจีนขัดแย้งกับอเมริกาในเรื่องสงครามการค้า เห็นคนส่วนใหญ่ด่าอเมริกากันอย่างเมามัน ให้ลองดูในเรื่องแม่น้ำโขงเหือดแห้งเพราะจีนสร้างเขื่อนไว้ใช้เอง เห็นกันหรือยังว่าจีนก็ไม่เคยเห็นหัวประเทศเล็กๆอย่างลาวหรือไทย จีนเองก็ทำไปก็เพื่อผลประโยชน์แห่งชาติจีน...ก็เท่านั้น
10 ธ.ค. 2562 เวลา 07.40 น.
LittleEng (ครูอั๋น) ข่าวไลน์อ่านหลายข่าวละพิมพ์ตกๆหล่นๆเป็นสื่อก็ระมัดระวังด้วยนะตรวจทานก่อนดีๆค่อยโพส
10 ธ.ค. 2562 เวลา 07.03 น.
นายกตู่เคยสนใจมั้ยเนี่ย สืบสนวิเคราะห์ดูเหตุผลให้ชัดเจน แล้วบอกขอร้องหรือปรึกษารัฐบาลจีนดูบ้าง ซื้อข้าวของและอุดหนุนเขามาเยอะทั้งรถไฟรถถังฯลฯ จิปาถะมากมาย ไม่ควรปล่อยเลยตามเลย
10 ธ.ค. 2562 เวลา 06.38 น.
บดินทร์ เย้ เราจะมีโอกาสเห็นพญานาคตัวเป็นๆกันและ จะได้ไม่ต้องมโนกันอีก
10 ธ.ค. 2562 เวลา 06.12 น.
ผมว่ามันไม่ใช่การแก้ปัญหานะ เรามีตัวแทนไว้สำหรับพูดคุยอยู่แล้ว แล้วเราจะมีเขาไว้ทำไม ผมว่าถ้าเราทำแบบนั้น เราแก้กันที่ปลายเหตุ ถึงแม้ว่าเราจะสร้างเขื่อน แต่ประเทศที่เขาสร้างเขื่อนมาก่อนเรา แล้วเขาไม่ยอมปล่อยน้ำออก แล้วเราจะทำอย่างไร มีอย่างเดียว การประชุมอาเซียนนี่แหละ คือสิ่งที่ผู้แทนของเราต้องออกมาแสดงวิสัยทัศ หรือไม่อย่างนั้น มานั่งอมยิ้มยู่ในห้องประชุม
10 ธ.ค. 2562 เวลา 06.04 น.
ดูทั้งหมด