เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 8 ก.ค.63 สำนักข่าวไทยออนไลน์ ได้โพสต์ภาพและจข้อความ เพลิงไหม้ ศาลาการเปรียญ วัดช่างทอง ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา โครงสร้างด้านบนเป็นไม้สัก ด้านล่างเป็นปูน
ขอบคุณภาพและข้อมูลจากสำนักข่าวไทย
ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 8 ก.ค. ร.ต.อ.เดชาธร คำมิ่ง รองสว.สอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ หอสวดมนต์ วัดช่างทอง ม.1 ตงเกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานรถดับเพลิงจาก อบต.เกาะเรียน และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น กว่า 30 คัน ไปควบคุมเพลิง
พบว่าที่เกิดเหตุเป็นหอสวดมนต์ สองชั้น ยกพื้นสูง ทำด้วยไม้สักขนาดใหญ่ พบเพลิงลุกไหม้ที่บริเวณชั้นล่างเป็นส่วนของกุฏิพระสงฆ์ ประกอบกับมีลมกรรโชกแรงทำให้เพลิงไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ พบว่าเพลิงลุกไหม้กุฏิพระ และ หอสวดมนต์ เสียหาย
นายะวัช ไหมเหลือง อายุ 65 ปี ไวยาวัจกรของวัด กล่าวว่า ที่วัดช่างทองจะมีพระจำพรรษา จำนวน 13 รูป ทราบจากท่านเจ้าอาวาสที่ยังอยู่ในอาการตกใจ เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดมาจากกุฎพระลูกวัดรูปหนึ่ง จึงเดินออกมาดุพบว่าเพลิงลุกไม้อย่างรุนแรงแล้ว จึงรีบตะโกนเรียกพระ และชาวบ้านให้ช่วยกันดับไฟ หอสวดมนต์เป็นไม้สัก ได้ยกพื้นให้สูงขึ้นทำเป็นสองชั้น ชั้นล่างเป็นกุฏิพระสงฆ์ ชั้นบนเป็นหอสวดมนต์ การบูรณะใช้งบประมาณ 15 ล้านบาท
นายศักราช อัมวงษ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเรียน กล่าวว่าในตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเพลิงไหม้เกิดจากสาเหตุอะไร คงต้องรอให้การควบคุมเพลิงสงบลงและให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบได้ก่อน
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องทำการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ อย่างละเอียด พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานพระนครศรีอยุธยา เข้าตรวจสอบในที่เหิเหตุเพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้