โฆษณาบนเว็บไซต์เป็นสิ่งที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเกือบทุกคนไม่ต้องการ ยิ่งระบบโฆษณาในปัจจุบันนั้นทำงานอย่างชาญฉลาด เมื่อเราทำการค้นหาสิ่งใดก็ตาม สิ่งนั้นจะตามไปหลอกหลอนเราบนโฆษณาของทุกเว็บในทันที
ความลับในการทำงานของมัน คือ ระบบ Ad attribution ที่มีการแชร์ข้อมูลการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ (Pixel) กลับไปยังเซิร์ฟเวอร์เจ้าของโฆษณา (ซึ่งก็มีรายใหญ่อยู่ไม่กี่ราย คือ Facebook และ Google) จากนั้นเมื่อคุณเข้าเว็บไซต์ใดๆ ก็ตาม โฆษณาก็จะถูกเลือกให้ตรงกับความสนใจของคุณในทันที ซึ่งเราเรียกการกระทำลักษณะนี้ว่า Cross-site tracking
ด้านการป้องกันเราสามารถใช้พวกโปรแกรม Ad-blocker หรือเปิด Tracking protection ใน Safari หรือ Content Blocking ใน Firefox ได้ อย่างไรก็ตาม การทำแบบนั้นจะทำให้เว็บไซต์ดีๆ ที่อยู่ได้ด้วยรายได้จากค่าโฆษณาบนเว็บได้รับผลกระทบไปด้วยอย่างจังๆ
ล่าสุด Apple ได้นำเสนอแนวทางกาแก้ปัญหาใหม่ โดยระบุว่าช่วยให้ Win-Win กันทั้งฝ่ายผู้ใช้ และฝ่ายโฆษณา ด้วยการพัฒนาระบบใหม่ “Privacy Preserving Ad Click Attribution” ที่ออกแบบมาให้นักการตลาดยังคงติดตามผลความสำเร็จของโฆษณาได้ โดยที่กิจกรรมการท่องเว็บของผู้ใช้ไม่ถูกติดตามแบบรายบุคคลเหมือนกับที่เป็นในปัจจุบัน
แนวทางที่ Apple นำเสนอคือ เมื่อข้อมูลของผู้ใช้ถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์โฆษณา มันจะถูกดองเอาไว้ก่อนเป็นระยะเวลาแบบสุ่มตั้งแต่ 24-48 ชั่วโมง ก่อนที่จะถูกส่งกลับออกมาแสดงผลอีกครั้ง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้ไม่รู้สึกถูกคุกคามทางโฆษณามากเท่าเดิม (ลองนึกภาพเวลาคุณค้นหาของอะไรสักอย่างใน Google แล้วทุกเว็บขึ้นแต่โฆษณาของสินค้าชิ้นนั้นดูสิ) และเมื่อข้อมูลจะถูกส่งกลับมาแสดงผลแบบสุ่มทำให้ไม่สามารถแทรคได้ว่าข้อมูลดังกล่าวมาจากผู้ใช้รายใด แต่ผลความสำเร็จของโฆษณายังคงติดตามได้ดังเดิม
อย่างไรก็ตาม หากถามไปยังนักโฆษณาว่าวิธีนี้ดีหรือไม่ แน่นอนว่าเข้าจะต้องตอบว่าไม๋โอเคแน่ๆ แม้ว่าเขาจะยังรู้ผลได้ว่าแคมเปญโฆษณานั้นสำเร็จหรือไม่ แต่มันก็ปิดกั้นไม่ให้ติตามข้อมูลเฉพาะบุคคลแบบเรียลไทม์ได้อีกต่อไป นั่นหมายความว่า การกำหนดโฆษณาบนเว็บไซต์ให้ตรงกับพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้จะยากขึ้น
ณ ตอนนี้ Apple กำลังทดสอบระบบนี้อยู่ และได้นำเสนอแนวคิดนี้แก่องค์กร W3C Web Platform Incubator Community Group (WICG) (องค์กรระหว่างประเทศที่ทำงานด้านการพัฒนาเทคโนโลยี “www") ซึ่งจะได้รับการอนุมัติหรือไม่ ก็ต้องติดตามการพิจารณาต่อไปในอนาคต
แดกแบต คือมันต้องเปิดตลอด CPU ประมวลผลตลอด iPhone รุ่นเก่าๆตั้งแต่ 8 Plus ลงมา คือแดกแบตโคตรๆ มันวางระบบขยะขึ้นมาให้บริโภคทรัพยากรเครื่อง แล้วมันเรียกว่าความเป็นส่วนตัว เออส่วนตัวก็จริงแต่แม่งแดกแบตฉิบหาย คือถ้าไม่ใช่ตัวใหม่ๆ อย่าง XS, XS Max นี้ อยู่ไม่ถึงวันแน่นอน แม่งระบบดักควายชัดๆ คือกูลองใช้มือถือ Android แล้วเปรียบเทียบดู มันก็ไม่ต่างกันเลย ข้อมูลสำคัญอยู่ในเครื่อง Android ด้วยซ้ำ แต่ไม่เห็นมีใครมายุ่งวุ่นวายกับโทรศัพท์กูเลย มึงเอาเวลาไปพัฒนาระบบประหยัดพลังงานแต่ให้ใช้งานได้เต็มร้อยดีกว่า
24 พ.ค. 2562 เวลา 16.45 น.
ดูทั้งหมด