อาการเจ็บป่วยแบบเฉียบพลันหรือเกิดอาการกำเริบจากโรคประจำตัวในขณะที่ขับขี่รถยนต์ นับเป็นภัยอันตรายบนท้องถนนอย่างยิ่ง เนื่องจากผู้ขับขี่ไม่อยู่ในสภาพที่ร่างกายสามารถควบคุมรถได้เลย หลายๆ เหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นสร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินต่อผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นจำนวนมาก
จากปัญหาเกิดขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันดีกว่าแก้ปัญหาที่ปลายทาง ทางกรมขนส่งทางบกจึงได้เพิ่มกลุ่มโรคที่เสี่ยงจะเกิดอันตรายในการขับขี่จากเดิม 5 โรค/อาการ เข้ามาอีก 5 โรค/อาการ ห้ามทำเรื่องขอใบอนุญาตขับขี่
สำหรับข้อกฏกำหนดเดิมห้ามผู้ป่วย 5 โรคสอบใบอนุญาตขับขี่ได้แก่ 1.โรคเท้าช้าง 2.โรควัณโรค 3.โรคเรื้อน 4.โรคพิษสุราเรื้อรัง 5.โรคติดยาเสพติดให้โทษ ล่าสุดกรมขนส่งทางบกกับแพทยสภาได้เพิ่ม โรค/อาการ ประกอบด้วย โรคลมชัก, โรคเบาหวานร้ายแรง (ในกรณีที่ต้องฉีดอินซูลิน), โรคความดันโลหิตสูง, ผู้ที่เคยผ่าตัดสมองมาก่อน และโรคหัวใจที่เสี่ยงจะเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด
นอกจากนี้ผู้ที่ต้องการทำใบขับขี่ในปัจจุบันนี้ จะต้องใช้ใบรับรองแพทย์แบบมาตรฐานใหม่ ซึ่งใบรับรองแพทย์จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 เป็นการกรอกข้อมูลทั่วไป โรคประจำตัว ประวัติการรักษา ประวัติอุบัติเหตุและการผ่าตัด ซึ่งต้องกรอกให้ครบตามความเป็นจริง ส่วนที่ 2 เป็นส่วนที่แพทย์ต้องกรอกเพื่อยืนยันว่า ผู้เข้ารับการตรวจไม่มีความพิการ หรือทุพพลภาพทางร่างกาย ไม่มีอาการจิตฟั่นเฟือน ไม่มีอาการพิษสุราเรื้อรัง ไม่มีการติดยาเสพติดให้โทษ และไม่มีอาการของโรคเรื้อน วัณโรค และโรคเท้าช้าง จากนั้นจึงให้แพทย์ผู้ตรวจเซ็นกำกับ
คาดว่าใบรับรองแพทย์แบบใหม่ น่าจะช่วยคัดกรองผู้ป่วยเป็นโรคต้องห้ามสำหรับการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อการตรวจโรคเพื่อขอทำใบอนุญาตขับขี่เริ่มเข้มงวดขึ้น ในอนาคตอาจต้องมีการเจาะเลือดเพื่อตรวจภาวะเบาหวาน หรือวัดความดันโลหิตเพิ่มเติมจากการตรวจปกติก็ได้
ส่วนในกรณีผู้ใช้ใบขับขี่แบบตลอดชีพ ก็มีคำถามต่อมาว่าแล้วถ้าบางคนเป็นโรคที่เข้าค่ายตามที่ขนส่งระบุไว้ แต่ก็ยังขับรถไปมาอยู่บนท้องถนนเหมือนปกติ แล้ววันดีคืนดีหากเกิดกำเริบจากโรคเหล่านี้จะทำอย่างไร จะมีมาตรการป้องกันแบบไหน จากข้อมูลเบื่องต้นทางกรมการขนส่งทางบกกำลังหารือกับหลายๆ ฝ่าย ว่าอาจจะให้ผู้ที่ได้ใบขับขี่ตลอดชีพเข้ามาพบจนท.ที่กรมฯ เพื่อตรวจสมรรถนภาพ ส่วนว่าจะเป็นต้องทำทุกกี่ปียังไม่มีการระบุให้ทราบแน่ชัด ซึ่งก็ต้องคอยติดตามกันต่อไปว่าปัญหานี้จะได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมได้เมื่อไร
Kluay_saowalak369 เดี๋ยวนี้หนุ่มสาววัยรุ่นก็เริ่มเป็เบาหวานและความดันกันแล้ว
26 พ.ค. 2562 เวลา 10.32 น.
Amorn น่าจะออกกฏระเบียบกำหนดอายุคนแก่ที่ขับรถด้วย บางคนแก่มากแล้วยังมาขับรถอีก หูตาไม่ดีขีบแช่เลนขวา สร้างปัญให้แก่ผู้ร่วมทาง ควรกำหนดอายุไว้เท่าไหร่ไม่ต้องขับเลย
26 พ.ค. 2562 เวลา 10.00 น.
อนนท์ เอาปัญหาปัจุบัญไปให้รอดก่อนเถิดครับ แล้วค่อยเริ่มปัญหาใหม่มาสุมสมอง
26 พ.ค. 2562 เวลา 09.48 น.
K.ธวัชชัย เอาโรค สติไม่สมประกอบด้วยนะ ชนคนตายทีไรเอาข้อหานี้มาอ้างทุกที แล้วก็โรคลูกชั้นเป็นคนดี
26 พ.ค. 2562 เวลา 09.14 น.
Pat Pat โรคเท้าช้างมันขับไม่ได้อยู่แล้ว ไม่ต้องไปห้ามเขาหรอก
26 พ.ค. 2562 เวลา 08.57 น.
ดูทั้งหมด