เครียดทำไม..ทำไมเครียด นักจิตวิทยาคลินิกสุขภาพจะมาชี้แจงแถลงไข

โอ๊ย..ปวดหัว ต่อให้เป็นวันหยุดเทศกาลที่เต็มไปด้วยความสดชื่นรื่นเริงก็ทำให้เกิดอาการเครียดได้ ขณะที่การหาซื้อของขวัญ การเตรียมตัวเดินทาง และการเป็นแม่ยกจัดงานก็ล้วนแต่เป็นอันตรายได้เช่นกัน จากการสำรวจ Excedrin ในปีนี้กล่าวว่าชาวอเมริกันร้อยละ 81 จะปวดศีรษะในวันหยุดอย่างน้อย 1 วัน (แต่พวกเขาคิดว่าตัวเองปวดศีรษะ 6 วัน)

ดร. เอลิซาเบธ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาการปวดศีรษะอธิบายว่าการตอบสนองโดยสัญชาตญาณของร่างกายที่มีต่อสถานการณ์อันตรายหรือตึงเครียดจะถูกเรียกว่า “ปฏิกิริยาต่อสู้หรือหลบหนี” ซึ่งมีทั้งประโยชน์และอันตราย มันจะมีประโยชน์ในสถานการณ์ที่ต้องอาศัยการตอบสนองทางกายที่รวดเร็ว เช่น การกระโดดออกจากถนนเมื่อมีรถวิ่งใกล้เข้ามา แต่ไม่ค่อยมีประโยชน์หากเป็นความเครียดที่เกี่ยวข้องกับวันหยุดเนื่องจากการต่อสู้และการหลบหนีไม่สามารถช่วยอะไรได้ในสถานการณ์แบบนี้ รวมถึงรถติดและการช้อปปิ้งในนาทีสุดท้ายด้วย เราเรียกสิ่งนี้ว่า “ความเครียดเรื้อรัง” ซึ่งเมื่อมีการก่อตัวขึ้นก็จะทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ ในช่วงวันหยุดจะมีหลายปัจจัยซึ่งเร่งให้เกิดอาการปวดศีรษะบวกกับการนอนหลับที่ไม่สม่ำเสมอ การรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์/คาเฟอีนที่มากกว่าปกติ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดในการรักษาอาจเป็น 3 วิธีด้านล่างดังต่อไปนี้

การผ่อนคลาย

การผ่อนคลายไม่ใช่แค่การนอนดูรายการโปรดที่คุณชื่นชอบหรือเล่นกีฬากับเพื่อนๆในวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่เป็นการปิดปฏิกิริยาการตอบสนองต่อความเครียด “การต่อสู้หรือหลบหนี” และเปิดปฏิกิริยาการผ่อนคลายของร่างกายต่างหาก เมื่อหายใจเข้าลึกๆคุณจะใช้กล้ามเนื้อด้านล่างปอดที่เรียกว่ากะบังลมเพื่อหายใจ คุณควรลองหายใจลึกๆก่อนในขณะที่นอนราบซึ่งจะช่วยให้กล้ามเนื้อเคลื่อนไหวอย่างถูกต้อง เมื่อหายใจเข้าท้องจะป่องและเมื่อหายใจออกท้องก็จะแฟ่บ ขณะที่หน้าอกไม่ควรขยับเลย เมื่อกล้ามเนื้อเคลื่อนไหวถูกต้องแล้วก็พยายามหายใจให้ช้าลงโดยการนับ 1-4 ทั้งหายใจเข้าและออก จากนั้นก็เพิ่มตัวเลขจนกระทั่งถึงจุดที่คุณสามารถหายใจได้อย่างสบาย มีการพิสูจน์แล้วว่าการฝึกสมาธิมีประสิทธิภาพมากกว่ายาแก้ปวด

การดูแลตนเอง

กลยุทธ์การดูแลตนเองขั้นพื้นฐานคือการเพิ่มภารกิจการบำรุงร่างกาย เริ่มจากหาเวลาที่เงียบสงบให้แก่ตัวเอง นั่งลง และจดรายการสิ่งที่คุณทำเมื่อวานนี้ เช่น การตื่นนอน แปรงฟัน และกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย ต่อมาก็เป็นกิจกรรมบำรุงตัวเองและพยายามดูว่ามีวิธีที่จะเพิ่มเวลาในส่วนของกิจกรรมบำรุงตัวเองหรือลดเวลาในส่วนของกิจกรรมที่เปล่าประโยชน์ลงบ้างได้ไหม

การสนองตอบทางชีวภาพ

การสนองตอบทางชีวภาพคือรูปแบบการรักษาที่จะทำให้คุณเห็นร่างกายทำปฏิกิริยาต่อความเครียดในเวลาที่เกิดขึ้นจริงและใช้กลยุทธ์การผ่อนคลายเพื่อจัดการความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ การบำบัดพฤติกรรมการรับรู้จะทำงานร่วมกับทัศนคติของคุณเกี่ยวกับสถานการณ์ในชีวิตและเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนปฏิกิริยาของคุณโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้นักจิตวิทยายังสามารถใช้ทักษะในการผ่อนคลายและการดูแลตนเองเพื่อบรรเทาความตึงเครียดและทำให้อาการปวดศีรษะของคุณดีขึ้นได้ ทั้งนี้คุณสามารถขอให้แพทย์ช่วยตามหานักจิตวิทยาที่เหมาะกับคุณ