เมื่อวันที่ 6 เม.ย. พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยถึงสถิติการจับกุมผู้ฝ่าฝืนประกาศเคอร์ฟิวของรัฐบาลที่สั่งห้ามไม่ให้ผู้ใดออกจากเคหะสถานตั้งแต่เวลา 22.00 - 04.00 น. เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) มีรายงานตัวเลขการจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรการเคอร์ฟิวนับตั้งแต่วันที่ 4-6 เม.ย.ที่ผ่านมา รวม 33 คดี แบ่งเป็นความผิด 3 กลุ่มหลัก คือ ขับรถซิ่ง, เสพสารเสพติดหรือดื่มของมึนเมาแล้วขับขี่ยานพาหนะ, ก่อกวนและไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการขอตรวจที่ด่าน
ส่วนประชาชนที่ยังอยู่นอกเคหะสถานหลังประกาศเคอร์ฟิวโดยไม่มีเหตุอันควรจะยังไม่ดำเนินคดี แต่เน้นการตักเตือนประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงมาตรการเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.นี้ เป็นต้นไป ตำรวจนครบาลจะจับกุมผู้ออกนอกเคหะสถานหลังเคอร์ฟิวในพื้นที่กรุงเทพฯ ในส่วนที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มยกเว้นตามประกาศ เนื่องจากถือว่าได้ตักเตือนแล้ว
Eddy จับให้หมดครับดีมาก ไอ้พวกขี้เหล้าเมายา นักซิ่งนักบิด สวะยามค่ำคืนไม่มีแล้ว สงบมาก นอนหลับสบาย เป็นกำลังใจให้นะครับ
06 เม.ย. 2563 เวลา 14.37 น.
ทำให้จริงจัง อย่าจับแล้วปล่อย หามาตรการรองรับถ้าจับแล้วทำไงต่อ
06 เม.ย. 2563 เวลา 14.08 น.
BankB1 กูก็..งง..คือ ไอ้ที่ออกไม่มีเหตุผล มึงคิดไรอยุ่.
บางคนส่งยาเสพติดซะงั้น..แว้นรถเพลินเลย
5555
07 เม.ย. 2563 เวลา 05.34 น.
Thawatchai เอาให้หนักครับพวกที่ชอบซ่าพวกนี้ไม่เหนโรงศพไม่หลั่งน้ำตา ยิ่งเปิดเผยชื่อ รูปได้ยิ่งดี? ออกมาไม่ได้ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติแถมยังออกมาก่อกวนเขาอีกควรจะเหนใจ
เจ้าหน้าที่ที่เขาต้องออกมาปฏิบัติ
หน้าที่ในภาวะฉุกเฉินในยามค่ำคืนตามที่เจ้าหน้าที่ ที่ท่านได้รับมอบหมายครับ ขอเปนกำลังใจให้ทุกท่านไม่ว่าจะเปนหมอหรือพยาบาลครับ
สู้ๆนะครับ
07 เม.ย. 2563 เวลา 04.38 น.
Chamnsth บังคับใช้กฏหมายแบบหยวนๆไม่จริงจัง ทำให้คนไทยมีพฤติกรรม ตีมึนและหายนะด้านวินัย
07 เม.ย. 2563 เวลา 06.33 น.
ดูทั้งหมด