ใคร ๆ ก็ว่าโควิดสายพันธุ์ใหม่ ‘โอไมครอน’ ติดง่าย ตายยาก ซึ่งหลาย ๆ หน่วยงานก็ออกมาคอนเฟิร์มเรื่องติดง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ หลายเท่าจริง
แต่เรื่องตายยาก ไม่มีอะไรรับประกันได้ เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ขึ้นชื่อว่าโรคระบาด ยังไงซะก็ต้องระวังอันตรายจากมันอยู่ดี โดยเฉพาะคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 รวมถึงกลุ่มเสี่ยงไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้มีโรคประจำตัว ผู้สูงอายุ รวมถึงสตรีมีครรภ์ ก็มีโอกาสเจ็บป่วยและเกิดการสูญเสียได้ทั้งนั้น
ติดง่ายก็ติดไปเลยสิจะได้จบ ๆ ?
อย่าหาทำ! แม้ว่าอาการโควิดโอไมครอนในผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วจะไม่รุนแรง ซึ่งผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยแทบไม่แสดงอาการเลยด้วยซ้ำ แต่อย่าลืมว่ามันคือโรค มันคืออาการป่วย ไม่ว่าอย่างไรก็มักมีผลกระทบต่อสุขภาพของคนที่เป็นอยู่แล้วแน่นอน
แม้กระทั่งองค์การอนามัยโลกก็ยังต้องย้ำเตือนทั่วโลกว่า อย่าดูแคลนเจ้าโอไมครอน เพราะมันอาจส่งผลกระทบระยะยาวกับร่างกายได้ โดยเฉพาะอาการ Long covid ซึ่งผู้ที่หายป่วยจำนวนมากกำลังเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นอาการเหนื่อยหอบง่ายกว่าปกติ, จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรสแม้จะหายป่วยแล้ว, นอนหลับยาก, อาการซึม และสารพัดอาการที่มีแต่จะส่งผลเสียต่อร่างกายแบบไม่สิ้นสุด
ที่น่าสนใจและต้องระวังเป็นพิเศษคือ มันแพร่ระบาดได้ไวกว่าที่เคยเป็นมา จนผู้อำนวยการของ WHO เองยังบอกว่า มันคือ ‘สึนามิของโควิด’ ที่โลกกำลังเผชิญหน้าอยู่ มันจึงทำให้มีโอกาสที่คน ๆ หนึ่งจะเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ได้ทุกเมื่อ เนื่องจากโอไมครอนตัวร้ายสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันจากวัคซีนที่เราเคยได้รับมา รวมถึงเมื่อติดเชื้อแล้วแทบไม่แสดงอาการ ทำให้บางคนติดเชื้อไม่รู้ตัวจึงใช้ชีวิตตามปกติ รู้อีกทีก็ได้รับเชื้อกันทั้งหมู่คณะไปแล้วเรียบร้อย
เพราะฉะนั้นที่หลาย ๆ คนมองว่าโอไมครอนจะเป็นวัคซีนธรรมชาติ เป็นภูมิคุ้มกันหมู่ เป็นไวรัสเพื่อนรัก ก็อย่าประมาทจะดีกว่า เดี๋ยวผลลัพธ์ที่ได้มาจะไม่คุ้มสิ่งที่เสียไปนะ
ติดง่ายก็มีโอกาสกลายพันธุ์ง่าย
จากโคโรน่าไวรัส หรือโควิด-19 ที่แพร่ระบาดมาอย่างยาวนานกว่า 2 ปี ตั้งแต่สายพันธุ์อัลฟ่า เบต้า แกมม่า เดลต้า จนมาถึงโอไมครอนในปัจจุบัน (และอาจจะกลายพันธุ์ไปอีกเรื่อย ๆ ก็ได้ เช่น เดลต้าครอน ที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าเป็นสายพันธุ์ใหม่จริง ๆ หรือแค่การผสมผสานของไวรัสที่ปนเปื้อนในห้องแล็ปเฉย ๆ )
การที่โอไมครอนแพร่ระบาดไวมาก ทำเอาเจ้าเก่าอย่างสายพันธุ์เดลต้าแทบจะลดบทบาทลงไปเยอะในเวลาอันรวดเร็ว ไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าไวรัสนี้จะปรับรูปร่างหน้าตาไปอีกมากมายขนาดไหน หากเราใช้ชีวิตแบบเผลอไผลแม้ชั่วขณะเดียว อาจจะเป็นผู้โชคดีได้รับสายพันธุ์ใหม่ล่าสุดก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นอย่าเสี่ยงจะดีที่สุด
ไม่ว่ายังไงสิ่งที่ต้องทำให้เป็นกิจวัตรทุกวันนี้คือ สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง ที่สำคัญคืออย่าลืมฉีดวัคซีนบูสเตอร์ เพราะตอนนี้ 2 เข็มเอาไม่อยู่เป็นที่เรียบร้อย จากนั้นก็ใช้ชีวิตกันไปตามปกติ เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับโควิดอย่างระวังตัว
ติดง่ายอาจทำให้ระบบสาธารณสุขพัง
นี่เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนอย่างที่สุดในบ้านเรา ทุกครั้งที่มีการแพร่ระบาดของโควิดไม่ว่าจะระลอกที่เท่าไหร่ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อมีผู้ป่วยล้นทะลัก มักจะตามมาด้วยข่าว คนป่วยหาเตียงไม่ได้, เตียงเต็ม, น้ำยาตรวจไม่เพียงพอ, คนป่วยปกปิดข้อมูลทำให้บุคลากรการแพทย์ต้องเสี่ยงไปด้วย เมื่อมีคนป่วย 1 คนอาจะส่งผลต่อคนอื่น ๆ ได้อีกมากมายอย่างไม่คาดคิด โดยเฉพาะบุคลากรการแพทย์ ลองคิดภาพว่าหากคุณหมอ คุณพยาบาลต้องป่วย ต้องกักตัวกันหมด แล้วใครจะมาทำหน้าที่ตรงนี้ ระบบสาธารณสุขพังพินาศ แย่กันไปทั้งระบบ จะแก้ไขอะไรก็ไม่ทันการ เพราะทุกวินาทีคือชีวิตของคน ๆ หนึ่ง เพราะฉะนั้นเราทุกคนต้องช่วยกันรักษาสุขภาพตัวเองให้ดี หากว่าได้รับเชื้อแล้วก็ควรปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นรักษาตัวที่โรงพยาบาล,ฮอสพิเทล หรือการรักษาตัวที่บ้านก็ตาม
ติดทุกคนแน่นอน ไม่ต้องกังวล
นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่วนหนึ่งไว้ว่า
“หลังการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนครั้งใหญ่นี้ เชื่อว่าทุกคนไม่ว่าจะเคยฉีดวัคซีน หรือเคยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดิมมาก่อน จะได้รับเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนไม่ช้าก็เร็ว เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ หวังว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คงจะจบลงสักที”
จนกลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง บ้างก็ว่า ‘สบายใจละ’ เชิงติดตลกเพราะทุกวันนี้ได้แต่ถามตัวเองว่า ‘กูติดยังวะ’ ซึ่งมีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่อย่างไรก็ตามละครเรื่องนี้ก็ยังคงไม่มีใครรู้ว่าจุดจบจะเป็นอย่างไร จบสวยหรือจะมีตอนต่อไปเรื่อย ๆ อีกนานแค่ไหน ในอนาคตหากโควิดกลายเป็นโรคธรรมดาที่มีวัคซีนป้องกัน มียารักษา ก็นับว่าเป็นเรื่องดีต่อมวลมนุษยชาติ แต่สิ่งที่ทุกคนรู้กันทุกวันนี้คือ เรายังต้องป้องกันตัวเองอย่างสุดความสามารถเท่าที่จะทำได้ไปพร้อมการใช้ชีวิตประจำวันให้รอบคอบมากที่สุด
Long Covid ยังคงน่ากังวลอยู่
แม้เราจะรับรู้กันว่าอาการของโควิดสายพันธุ์โอไมครอนจะน่ากลัวน้อยกว่าเดลต้าก็ตาม แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะเสี่ยงเอาชีวิตตัวเองไปติดโรค เพราะทุกผู้เชี่ยวชาญพูดตรงกันหมดว่า แม้จะหายป่วยแล้ว แต่อาการ Long Covid ยังน่าเป็นห่วง อย่าคิดว่าเป็นแป๊บเดียว เดี๋ยวก็หายแล้ว แลกกับเงินแสน คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม บอกเลยว่าไม่คุ้มที่จะเอาสุขภาพไปแลกกับเงินประกันอย่างแน่นอน คนที่หายป่วยจำนวนไม่น้อยบอกว่ามีอาการข้างเคียงเป็นระยะเวลานาน เช่น ผมร่วง, หายใจเหนื่อยง่าย, นอนหลับยาก, วิตกกังวล และอีกหลาย ๆ อาการแตกต่างกันไป ฉะนั้นลองคิดดี ๆ หากจะ 'ติดไปเลยให้จบ ๆ' เพราะผลลัพธ์ที่ต้องแลกมาอาจจะไม่คุ้มเลยสักนิดเดียว
โควิดจะกลายเป็นโรคประจำถิ่นในเร็ววัน
จากการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ล่าสุดจะมีอัตราการเสียชีวิตที่ต่ำ และในประเทศไทยยังไม่มีผู้เสียชีวิตจากโอไมครอนก็ตาม (ข้อมูล ณ วันที่ 12 ม.ค. 64) ทำให้มีหลายองค์กร รวมถึง สธ. ไทยเองก็เริ่มคาดการณ์เบื้องต้นได้ว่า ภายในปี 2565 นี้ โควิดอาจจะกลายเป็นโรคประจำถิ่นก็เป็นได้ (โรคประจำถิ่นหมายถึงโรคที่เกิดการระบาดในพื้นที่จำเพาะ สามารถคาดการณ์การแพร่ระบาด และมีอัตราป่วยคงที่) เช่นเดียวกับโรคระบาดอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นทุกปี เช่น ไข้เลือดออก แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่ควรประมาทอยู่ดี เพราะถึงแม้จะเป็นสถานการณ์ของโรคจะสงบลงในวันหนึ่ง แต่ในทุก ๆ การป่วย มักจะมีคนเสียชีวิตอยู่เสมอ
สุดท้ายแล้ว โรคภัยไข้เจ็บไม่ใช่เรื่องกระจอก ไม่ว่าจะป่วยเป็นอะไรก็ตาม เพราะมันหมายถึงชีวิตของคนทุกคน ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อป่วยแล้วจะหายขาดหรือไม่ ทุกคนมีโอกาสโคม่า อาการหนัก และมีโอกาสเสียชีวิตได้ทั้งนั้น อย่าดูถูกความเจ็บป่วยดีกว่า…
.
ขอบคุณข้อมูลจาก
smile:) ที่บ้านติดเดลต้าอาการไม่รุนแรง แต่มีอาการ long covid กินอะไรก็คาว ฉะนั้นป้องกันอย่าให้เป็นดีที่สุด
13 ม.ค. 2565 เวลา 05.25 น.
🌈The Kaew🌈 ไข้หวัดใหญ่หายไปเลย เอะอะก็โควิดๆ🤣🤣🤣
13 ม.ค. 2565 เวลา 10.09 น.
pramuan เบื่อพวกหมอที่ชอบออกมาแย่งซีน ประกาศว่าโอมิครอนเป็นตัวปิดเกมโควิด...คิดอะไรตื้นๆ ผิดจรรยาแพทย์รึป่าวที่เชียร์ให้ติดๆไปเลย จะได้มีภูมิคุ้มกัน(หมู่) โดยยังไม่เห็นผลระยะยาว
13 ม.ค. 2565 เวลา 10.43 น.
ใครไคร่ติด ติด แต่ผมไม่ ฉีดวัคซีนกี่เข็มก็ป้องกันการติดเชื้อไม่ได้ รู้จักป้องกันตัวเองดีที่สุด
13 ม.ค. 2565 เวลา 13.55 น.
วราวุธ นายแพทย์หนูช่วยตอบด้วย
13 ม.ค. 2565 เวลา 06.19 น.
ดูทั้งหมด