กีฬา

ยิงกันสนั่น 8 ตุง เชลซีเปิดบ้านเจ๊าเรือใบสุดมันบิ๊กแมตช์ พรีเมียร์ลีก

Khaosod
อัพเดต 13 พ.ย. 2566 เวลา 04.04 น. • เผยแพร่ 12 พ.ย. 2566 เวลา 18.37 น.

ศึกบิ๊กแมตช์ พรีเมียร์ลีก คู่ระหว่างเชลซี-แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดวลแข้งกันดุเดือดสุดๆ โดยทั้ง 2 ฝ่ายยิงกันรวมถึง 8 ประตู ก่อนจบด้วยการแบ่งแต้มกันไป

การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน “สิงโตน้ำเงินคราม”เชลซี เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ “เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ ซิตี้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เกมนี้เจ้าบ้านจัด นิโคลัส แจ๊กสัน, ราฮีม สเตอร์ลิง, โคล พาลเมอร์ ลงนำเกมรุก ส่วนทีมเยือนใช้งาน เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์, ฮูเลียน อัลวาเรซ, เฌเรมี โดกู

นาที 22 ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์แล้วมองว่า มาร์ก กูกูเรยา ทำฟาวล์จากการไปดึง เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ ไม่ให้เข้าโหม่งบอลทำประตู แมนฯ ซิตี้จึงได้จุดโทษ ฮาลันด์สังหารเข้าไปในนาที 25 ทีมเยือนนำ 1-0

นาที 28 เชลซีได้ฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลา รีซ เจมส์ ปั่นบอลผ่านกำแพงลูกทำท่าจะเสียบใต้คาน เอแดร์ซอน โมไรส์ ยังบินปัดทิ้งได้เยี่ยม

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

อย่างไรก็ตาม จากลูกเตะมุมทางฝั่งขวาต่อเนื่องนาที 29 คอเนอร์ กัลลาเกอร์ เปิดมาบริเวณเสาแรก ติอาโก ซิลวา จึงโฉบมาขวิดเปลี่ยนทางส่งบอลเข้าเสาสอง เชลซีตีเสมอ 1-1

นาที 37 โคล พาลเมอร์ แทงบอลเข้าด้านขวาของเขตโทษแล้วแนวรับสกัดพลาด รีซ เจมส์ จึงสบโอกาสปาดเข้ากลางให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ยิงอดีตต้นสังกัดของตัวเอง เชลซีขึ้นนำ 2-1

นาที 42 แมนฯ ซิตี้น่าตีเสมอสุดๆ แบร์นาร์โด ซิลวา จ่ายบอลกระแทกขึ้นหน้าให้ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ รับได้แล้วพาบอลทะลุแนวรับเข้าพื้นที่เขตโทษก่อนสับไกยิงเหน่งๆ โรเบิร์ต ซานเชซ ซูเปอร์เซฟล้มตัวปัดทิ้งได้เหลือเชื่อ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นาที 45+1 จากลูกเตะมุมฝั่งซ้าย ฮูเลียน อัลวาเรซ จ่ายสั้นให้ แบร์นาร์โด ซิลวา บรรจงเปิดเข้ากลาง มานูเอล อาคันจี จึงสบโอกาสขึ้นโขกเหน่งๆ เสียบตาข่าย แมนฯ ซิตี้ตีเสมอ 2-2 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังนาที 47 ฟิล โฟเดน จ่ายบอลให้ ฮูเลียน อัลวาเรซ บุกเข้าทางด้านขวาของเขตโทษ ก่อนที่อัลวาเรซจะปาดเข้ากลางแล้วนายทวารปัดโดนเล็กน้อย แต่ก็ยังถูก เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ เข้าชาร์จส่งบอลผ่านเส้นประตูไปได้อยู่ดี แมนฯ ซิตี้นำอีกรอบ 3-2

นาที 58 จากโอกาสสวนกลับเร็วของแมนฯ ซิตี้ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ จ่ายบอลยาวออกซ้ายให้ เฌเรมี โดกู กระชากมาจนถึงพื้นที่เขตโทษ ก่อนแต่งหาช่องแล้วสับไกยิง โรเบิร์ต ซานเชซ รับกระฉอกออกมา แต่ดีที่ไม่มีใครซ้ำทัน

นาที 61 โคล พาลเมอร์ เกือบเป็นอีกคนที่ยิงทีมเก่า หลังอาศัยความสามารถเฉพาะตัวพาบอลกระชากผ่านแนวรับเข้าไปยิงในเขตโทษ เอแดร์ซอน โมไรส์ ออกมาปิดมุมไวเลยเซฟไว้ไม่ให้เชลซีได้ประตู

นาที 67 คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ยิงจากนอกเขตโทษระยะประมาณ 25 หลา ผู้รักษาประตูล้มตัวปัดออกมาไม่พ้นอันตราย นิโคลัส แจ๊กสัน จึงปราดเข้าซ้ำดาบสองไม่เหลือซาก เชลซีตีเสมอ 3-3

นาที 86 มาเตโอ โควาชิช ทำชิ่งกับเพื่อนแล้วยิงจากหน้าเขตโทษไปติดบล็อกคู่แข่ง บอลยังกระดอนมาเข้าทางปืน โรดรี ยิงไกลอีกที ติอาโก ซิลวา พยายามแหย่เท้าสกัดแต่กลายเป็นเปลี่ยนทางบอลเข้าประตูไป แมนฯ ซิตี้นำอีกครั้ง 4-3

นาที 90+2 ราฮีม สเตอร์ลิง หยอดบอลให้ อาร์มันโด โบรยา พักลงในเขตโทษแล้วโดน รูเบน ดิอาส เสียบล้มลง ผู้ตัดสินจึงเป่าให้จุดโทษเชลซี โคล พาลเมอร์ รับหน้าที่สังหารไม่พลาดในนาที 90+5 เจ้าบ้านตีเสมอ 4-4 และจบด้วยสกอร์นี้ในที่สุด

ทำให้ผ่านไป 12 นัดเท่ากัน แมนฯ ซิตี้เก็บเพิ่มเป็น 28 คะแนน ยังคงนำจ่าฝูงต่อไป ส่วนเชลซีมี 16 คะแนน ยึดอันดับ 10

ผลคู่อื่น แอสตัน วิลลา ชนะ ฟูแลม 3-1, ไบรตัน เสมอ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 1-1, ลิเวอร์พูล ชนะ เบรนต์ฟอร์ด 3-0, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ชนะ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 3-2

ดูข่าวต้นฉบับ