ชาวระยองลงชื่อขอเยียวยาผลกระทบน้ำมันรั่วกว่า 200 ราย ด้านนายกสมาคมท่องเที่ยวจี้ถามปริมาณน้ำมันรั่วที่แท้จริงและแผนแก้ปัญหาระยะยาว ขณะที่กรมควบคุมโรคเก็บเลือดและปัสสาวะกลุ่มเสี่ยงทีมกู้คราบน้ำมันตรวจ
จากกรณีน้ำมันดิบรั่วบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล ของบริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ซึ่งตั้งอยู่ในท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง จ.ระยอง รั่วไหลลงทะเล สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่
ล่าสุดวานนี้กองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม โดยศูนย์พัฒนาวิชาการอาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม จ.ระยอง ร่วมกับสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จ.ชลบุรี พร้อมด้วยสำนักงานสาธารณสุข จ.ระยอง และโรงพยาบาลระยอง ลงพื้นที่เฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพให้กับประชาชน และตรวจคัดกรองเพื่อเฝ้าระวังสุขภาพเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเก็บกู้น้ำมันดิบในพื้นที่ จ.ระยอง
เบื้องต้นมีการการตรวจคัดกรองสุขภาพผู้ปฏิบัติงานเสี่ยงสัมผัสน้ำมันดิบ จำนวน 241 คน เก็บสิ่งส่งตรวจ ปัสสาวะ 238 คน ตัวอย่างเลือด 241 คน พร้อมสนับสนุนหน้ากากป้องกันสารเคมีชนิด R95 ให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน และประชาชนในพื้นที่ เพื่อป้องกันไอระเหยจากน้ำมันดิบ
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ผลการตรวจระดับความเข้มข้นของสาร Benzene และ Xylene ในบรรยากาศ ในพื้นที่ปฏิบัติการและพื้นที่ใกล้เคียง ยังไม่เกินค่ามาตรฐาน ขอให้เฝ้าระวัง สังเกตอาการ ดูแลสุขภาพ ประชาชนไม่ควรเข้าใกล้บริเวณที่เกิดเหตุ และห้ามนำสัตว์ทะเลที่ตายบริเวณชายหาดมากิน
หากมีการสัมผัสคราบน้ำมันดิบบริเวณผิวหนังหรือดวงตา ให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาด หมั่นสังเกตอาการตนเองและคนใกล้ชิด หากมีอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน แน่นหน้าอก หายใจลำบาก ตาพร่ามัว แสบตา ตาแดง ผิวหนังอักเสบ มีผื่นแดง ให้รีบไปพบแพทย์ทันที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
ด้านผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทยอยเข้าแจ้งลงทะเบียนกับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมืองระยองกว่า 200 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการบริเวณตามแนวชายหาดแม่รำพึง งกิจการร้านอาหาร เตียงผ้าใบ ห่วงยาง บังกะโล รีสอร์ท และคาดวันนี้จะมีจำนวนผู้เข้าลงทะเบียนเพิ่มขึ้น
ขณะที่บรรยากาศชายหาดแม่รำพึงช่วงเช้าที่ผ่านมาน้ำทะเลขึ้นสูง คลื่นลมแรง มีการปักธงแดง ตลอดแนวชายหาด และกั้นทุ่นป้องกันน้ำมันให้เห็นเป็นระยะ โดยน้ำทะเลในวันนี้ไม่พบคราบน้ำมันแล้ว ส่วนที่เกาะเสม็ด บริเวณอ่าวพร้าว หลังจากมีคราบ ลักษณะเป็นฝุ่นคราบเขม่า ลอยขึ้นที่ชายหาด เจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บซับและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
นางสิริทิพ ทัพมงคลทรัพย์ นายกสมาคมท่องเที่ยวเกาะเสม็ด กล่าวว่า น้ำมันรั่วทำให้เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างมาก ยอดจองถูกยกเลิกแล้ว อยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาพูดความจริงว่าปริมาณน้ำมันที่ไหลสู่ทะเลมีจำนวนเท่าไร การแก้ปัญหาระยะสั้นและระยะยาวเป็นอย่างไร เพื่อเรียกความเชื้อมั่นให้นักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวระยอง ส่วนคราบน้ำมันที่พบชายหาดในวันนี้ก็ต้องรอการพิสูจน์
ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซต์ไทยแลนด์ว่า คราบน้ำมันทั้งหมดมีประมาณ 14 ตร.กม. ไม่เป็นผืนเดียวกันอาจต้องใช้เวลากว่า 2 สัปดาห์เพื่อทำให้คราบน้ำมันสลายไป และเร่งฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้กลับคืนมา ส่วนปริมาณน้ำมันที่แท้จริงว่ามีการรั่วจำนวนเท่าไรนักจะต้องมีการสอบสวนกันใหม่เพราะที่ผ่านมามีเพียงการให้ข้อมูลของเอกชน และล่าสุดกรมเจ้าท่าเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้บมจ. สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง รับผิดชอบชดใช้ความเสียหายในทุกมิติแล้ว
ปภ.ระยอง รายงานความคืบหน้ากรณีเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลในทะเลจังหวัดระยอง ซึ่งจังหวัดระยองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้เร่งปฏิบัติการการเก็บกู้คราบน้ำมัน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศน์และการท่องเที่ยว โดยระดมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือต่าง ๆ ยานพาหนะ และกำลังเจ้าหน้าที่จาก 14 หน่วยงาน รวมกว่า 795 คน เข้าปฏิบัติการเก็บกู้คราบน้ำมันดิบอย่างต่อเนื่อง
จากการประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดระยองเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สรุปความคืบหน้าการดำเนินการ ดังนี้
(1) โซน A (บริเวณกองพันทหารราบที่ 7 ถึง ศูนย์วิจัยกรมประมง ระยะทาง 2 กิโลเมตร) ปัจจุบันไม่มีคราบน้ำมันขึ้นชายฝั่งทะเลในพื้นที่ (หน่วยดำเนินการ IRPC)
(2) โซน B (บริเวณศูนย์วิจัยกรมประมง ถึง หาดแม่รำพึง ระยะทาง 2 กิโลเมตร) ปัจจุบันไม่มีคราบน้ำมันขึ้นชายฝั่งทะเลในพื้นที่ (หน่วยดำเนินการ สำนักงาน ปภ.จังหวัดระยอง)
(3) โซน C (บริเวณหาดแม่รำพึง ถึง ลานหินขาว ระยะทาง 2 กิโลเมตร) ปัจจุบันไม่มีคราบน้ำมันขึ้นชายฝั่งทะเลในพื้นที่ (หน่วยดำเนินการ SPRC)
(4) โซน D (บริเวณลานหินขาว ถึง เขาแหลมหญ้า – หมู่เกาะเสม็ด ระยะทาง 2 กิโลเมตร) ปัจจุบันไม่มีคราบน้ำมันขึ้นชายฝั่งทะเลในพื้นที่ (หน่วยดำเนินการ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า – หมู่เกาะเสม็ด)
(5) โซน E 1 (บริเวณเขาแหลมหญ้า – หมู่เกาะเสม็ด) ยังไม่คราบน้ำมันขึ้นชายฝั่งทะเล E 2 (บริเวณเกาะเสม็ด) ปัจจุบันไม่มีคราบน้ำมันขึ้นชายฝั่งทะเลในพื้นที่ (หน่วยดำเนินการ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า – หมู่เกาะเสม็ด และ SPRC)
ทั้งนี้ GISDA ได้ใช้ดาวเทียมภาพถ่ายทางอากาศในระบบออปติคอลตรวจสอบบริเวณพื้นที่ไม่พบคราบน้ำมันดิบ พร้อมกับทีมนักประดาน้ำจาก SPRC ได้ดำน้ำลงสำรวจพื้นที่ทะเลบริเวณหาดแม่รำพึงถึงอ่าวเพไม่ปรากฏว่าคราบน้ำมันดิบภายใต้ทะเลเช่นเดียวกัน ส่วนด้านกรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือได้เร่งนำฟองเมือกน้ำที่เก็บตัวอย่างจากบริเวณธงชัยรีสอร์ท ระยะทางยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ไปตรวจสอบว่าเกิดจากสาเหตุใด โดยจะรายงานผลให้ทราบต่อไป ที่ประชุมร่วมหารือในเรื่องของการขุดเพื่อนำแผ่นดูดซับคราบน้ำมันดิบขึ้นจากพื้นที่ทราย เพื่อตรวจสอบคราบน้ำมันดิบและคืนพื้นที่ชายหาดต่อไป