ทั่วไป

“ลูก-เมีย” หมอบุญ มอบตัว คดีร่วมกันฉ้อโกง

NATIONTV
อัพเดต 23 พ.ย. เวลา 02.16 น. • เผยแพร่ 23 พ.ย. เวลา 09.07 น.

จากกรณีศาลอาญาอนุมัติหมายจับ นายแพทย์บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี พร้อมภรรยา บุตรสาว และพวกรวม 9 คน เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ฐานความผิด "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน" หลอกให้ร่วมลงทุนธุรกิจเกี่ยวกับการแพทย์

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เวลา 13.00 น.นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของนายแพทย์บุญ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ พร้อมด้วย น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของนายแพทย์บุญ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ โดยทั้ง 2 เป็นผู้ต้องหา ในหมายจับข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ โดยมี นายชำนาญ ชาดิษฐ์ ทนายความ มาด้วย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางจารุวรรณฯ สวมเสื้อเชิ๊ตแขนสั้นสีชมพูอ่อน สวมแว่นตาดำ ถือกระเป๋าสีน้ำตาล ส่วน น.ส.นลิน สวมเสื้อยืดสีเขียว สวมหมวกแก๊ปสีน้ำเงิน เดินทางมาพร้อมกับทนายความ โดยลูกสาวช่วยพยุงนางจารุวรรณฯ ขึ้นมาพบตำรวจ ระหว่างนั้น ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามข้อเท็จจริงดังกล่าว แต่นางจารุวรรณ และ น.ส.นลิน ไม่ยอมตอบคำถามใดๆ

นายชำนาญ ชาดิษฐ์ ทนายความ
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ต่อมา นายชำนาญ ทนายความ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ทางลูกความตนทั้ง นางจารุวรรณ และ น.ส.นลิน บอกว่า ถูกปลอมแปลงลายเซ็นโดยไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นคนทำ แต่มีการปลอมแล้วนำเอกสารพวกนี้ไปใช้กู้ยืมเงินตามที่ปรากฎเป็นข่าว ยืนยันว่าไม่ทราบว่าเป็นฝีมือใคร แต่มาทราบตอนที่มีหมายศาลฟ้องมาเป็นระยะ โดยเมื่อนางจารุวรรณฯ ตรวจสอบแล้วปรากฏว่า กรณีที่มีการกู้ยืมเงิน และค้ำประกันต่างๆ เป็นลายเซ็นปลอมทั้งหมด โดยตัวนางจารุวรรณ ไม่เคยไปกู้ยืมเงินแต่อย่างใด รวมถึงไม่ได้เซ็นค้ำประกันด้วย

และในช่วงที่มีการกู้ยืมเงินค้ำประกันตามที่ปรากฏเป็นข่าว ส่วนใหญ่ นางจารุวรรณ เดินทางอยู่ที่ต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ในคำฟ้องนั้นจะเซ็นแบบเป็นสำเนาไม่ใช่ลายเซ็นจริง โดยต้นฉบับอยู่กับฝั่งผู้ให้กู้ และความต่างของลายเซ็นค่อนข้างเยอะ ซึ่งเรื่องการปลอมลายเซ็นนั้น ไม่ใช่จะเพิ่งมาพูด แต่มีการต่อสู้คดีทางแพ่งเรื่องนี้มานานแล้ว รวมถึงมีการแจ้งความไว้ที่ บก.ปอศ.ไว้เมื่อช่วงประมาณเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา

ในทางคดีแพ่งได้ต่อสู้คดีว่าเป็นลายเซ็นปลอม และขอให้ศาลตรวจพิสูจน์ รวมถึงคดีอาญา ศาลมีการนัดพร้อมเพื่อให้นางจารุวรรณ ไปเซ็นเปรียบเทียบต้นฉบับที่อ้างว่ามีการค้ำประกัน และเซ็นเช็ก โดยให้คู่ความส่งต้นฉบับ และให้นางจารุวรรณเซ็นใหม่ พร้อมกับมีการนำตัวสัญญาในช่วงที่อ้างว่ามีการเซ็นกู้หรือค้ำ อยู่ระหว่างรอศาลนัด

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เมื่อถามว่า อาจจะเป็นลายเซ็นหมอบุญหรือไม่ ทนายความ ตอบว่า อาจจะเป็นเช่นนั้น เพราะผู้ที่กู้ที่มีชื่ออยู่ในสัญญา ก็เป็นแพทย์หมอบุญ รวมถึงนางจารุวรรณ และหมอบุญ ก็มีการจดทะเบียนหย่ากันไปแล้ว โดยไม่ทราบว่าตั้งแต่ปีไหน

เมื่อถามถึงสาเหตุว่า ทำไมถึงต้องมีการปลอมแปลงลายเซ็นคนในครอบครัว ทนายความ ตอบว่า ไม่ทราบเหมือนกัน ส่วนในช่วงที่มีการปลอมแปลงลายเซ็นเป็นช่วงที่หย่าร้างกันไปแล้ว

ส่วนกรณีที่นางจารุวรรณ เดินทางไปต่างประเทศ เป็นช่วงระหว่าง ปี 2561-2567 มีการเดินทางอยู่ตลอด และเกิดอ้างว่ามีการกู้และค้ำ จนถูกฟ้อง และตรวจสอบว่ามีสัญญาฉบับไหนบ้าง มองเห็นชัดเจนเลยว่าเป็นลายเซ็นปลอม ก่อนตรวจสอบในเรื่องเวลาที่อ้างว่ามีการเซ็น และทั้ง 200 กว่าฉบับนั้นถูกปลอมทั้งหมด

ทนายความ กล่าวอีกว่า นางจารุวรรณ จะมีการเอาผิดทั้งหมอบุญ และทุกคนที่เกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องการประกันตัว ต้องอยู่ที่ทางพนักงานสอบสวน จะอนุญาตหรือไม่

ดูข่าวต้นฉบับ