ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

มหาเศรษฐีอเมริกันขอร้อง “ขึ้นภาษีผมเถอะ” แก้ปัญหาหนี้รัฐบาล

Money2Know
เผยแพร่ 13 พ.ย. 2561 เวลา 00.07 น. • money2know - เงินทองต้องรู้

ตัวเลขหนี้สินของสหรัฐเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนดักลาส เดิร์สต์ หนึ่งในมหาเศรษฐีอเมริกัน เชื่อว่าทางออกคือรัฐบาลต้องหารายได้ให้มากขึ้น

เดิร์สต์เชื่อว่าอเมริกามีปัญหาเรื่องรายได้มากกว่าปัญหาการใช้จ่าย ดังนั้นเขาจึงแนะนำหนทางเยียวยา ด้วยการสนับสนุนให้เก็บภาษีผู้มีฐานะมั่งคั่งอย่างเขา มากขึ้น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เดิร์สต์เชื่อว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่สหรัฐจะต้องขึ้นภาษีเพื่อหาเงินไปชำระหนี้ และเขาไม่เห็นด้วยกับนโยบายลดภาษีให้แก่ผู้มีฐานะมั่งคั่งอย่างเขา ทั้งที่สามารถนำเงินภาษีไปแบ่งเบาภาระหนี้ของประเทศได้ เดิร์สต์ระบุว่าร่างกฎหมายภาษีปี 2560 ถือเป็นก้าวย่างในทิศทางที่ผิดพลาด

แม้ขณะนี้เศรษฐกิจสหรัฐสุดเฟื่องฟู แต่หนี้สินของประเทศก็เบ่งบานตามไปด้วยเช่นกัน จนตัวเลขอยู่ที่ 21.6 ล้านล้านดอลลาร์

เจพีมอร์แกนคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ หนี้ของประเทศจะสูงกว่าหนี้สินทั้งหมดของครัวเรือนอเมริกันรวมกัน ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อเพื่ออสังหาริมทรัพย์ หนี้บัตรเครดิต และเงินกู้เพื่อการศึกษา อันจะเป็นเหตุการณ์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

กระทรวงการคลังรายงานด้วยว่า การขาดดุลงบประมาณ เพิ่มขึ้นเป็น 779,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 6 ปี และเพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อน เจ้าหน้าที่สำนักงบประมาณคาดว่าการขาดดุลจะอยู่ที่เกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2562 และสูงขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับดอกเบี้ยในการชำระหนี้ ก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3 เท่าในช่วงทศวรรษหน้า อยู่ที่ปีละ 915,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2571 หรือพูดง่ายๆ คือรัฐบาลสหรัฐจะหมดเงินส่วนใหญ่ไปกับการจ่ายดอกเบี้ย (13%) ซึ่งมากกว่าการใช้จ่ายด้านกลาโหม (11%) และการดูแลสุขภาพ (9%)

แม้ประชาชนไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบโดยตรงกับการชำระหนี้สินของประเทศ แต่อาจได้รับผลกระทบทางอ้อม เช่น อัตราดอกเบี้ยอาจสูงขึ้น ผลตอบแทนในตลาดหุ้นลดลง และการเติบโตทางเศรษฐกิจน้อยลง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ตอนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เสนอแผนการลดภาษีช่วงหาเสียงเลือกตั้งปี 2559 เขาระบุว่าแผนการนี้จะไม่ทำให้ตัวเลขขาดดุลเพิ่มขึ้น เพราะเศรษฐกิจจะทะยานลิ่วเหมือนจรวด ซึ่งจริงๆ แล้วเศรษฐกิจสหรัฐก็แข็งแกร่ง แต่เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยมีแต่เพิ่มขึ้น ต้นทุนในการกู้ยืมจึงสูงตามไปด้วย

มิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา ระบุว่าวิธีลดการขาดดุล คือรัฐบาลใช้จ่ายให้น้อยลง โดยเฉพาะสำหรับโครงการใหญ่ๆ อย่างเมดิแคร์ และประกันสังคม

แต่หลายคนแย้งว่าการลดการใช้จ่าย ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด กลุ่มคลังสมอง Economic Policy Institute มองว่าข้อเสนอของเดิร์สต์ให้ขึ้นภาษีคนรวยสุดๆ เป็นแนวทางที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ เพราะการใช้จ่ายในประเทศส่วนใหญ่ของอเมริกา หมดไปกับโครงการอย่างเมดิแคร์และประกันสังคม ซึ่งหากตัดลดงบเหล่านี้ ก็เท่ากับผลักภาระไปให้ครัวเรือน

ขณะที่เจเนต เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ บอกว่าทางออกที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาหนี้ของประเทศ อาจเป็นการผสมผสานแนวทาง 2 แบบเข้าด้วยกัน นั่นคือ ขึ้นภาษีและลดการใช้จ่ายในโครงการเกษียณอายุ

ด้านมหาเศรษฐีอย่างบิล เกตส์ เห็นด้วยกับเดิร์สต์ว่าผู้มีฐานะมั่งคั่งควรเสียภาษีมากขึ้น ไม่ใช่น้อยลง

เกตส์ยังมองว่าผู้มีรายได้น้อย คือกลุ่มที่ควรได้รับการช่วยเหลือ

“คนที่ฐานะดีมักได้ประโยชน์มากกว่าชนชั้นกลางหรือคนยากจน ซึ่งสวนทางกับแนวโน้มทั่วไปที่ควรจะเป็น ในอันที่จะมีมาตรการเข้มแข็งในการดูแลประชาชนทั่วไป ส่วนผู้มีฐานะมั่งคั่งก็ควรเสียภาษีมากขึ้น”

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 21
  • P~Ö~M
    หันกลับ 180องศามามอง ประเทศกูมี หลบครับ พากันหลบภาษี Mind set แย่มากๆ
    13 พ.ย. 2561 เวลา 01.39 น.
  • TUMP
    บ้านเราสำนึกที่มีต่อสังคมต่อบ้านเมืองต่ำ พวกมหาเศรษฐีและเจ้าสัวทั้งหลายล้วนทำทุกวิถีทางเพื่อหลบเลี่ยงภาษี ตั้งหน้าแต่จะกอบโกยเอาจากสังคมคนชั้นกลางและชั้นล่าง เพื่อความร่ำรวยของตนและพวกพ้องเท่านั้น ท้ายสุดรัฐก็มารีดภาษีเอากับประชาชนคนธรรมดา เพราะพวกเจ้าสัวทั้งหลายล้วนเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้เขาทั้งนั้น นี่แหละคนรวยก็รวยล้นฟ้าคนจนก็ถูกเหยียบให้จมดินลงไปอีก
    13 พ.ย. 2561 เวลา 01.53 น.
  • ไม่เหมือนในไทย เศรษฐีทยขอร้องอย่าขึ้นภาษีและพร้อมหลีกเลี่ยงไม่จ่ายภาษี ที่ประเทศไทยอยู่ด้านส่วนใหญ่ภาษีมาจากคนชนชั้นกลางทั้งนั้น
    13 พ.ย. 2561 เวลา 01.38 น.
  • Tid Pracht
    เป็นแนวคิดที่ดีสำหรับชนชั้นสูงเพราะว่า... ยศและลาภหาบไว้มิได้ดอก...
    13 พ.ย. 2561 เวลา 02.16 น.
  • T.cho
    โธ่ แค่ยกเลิกงบพัฒนานิวเคลียร์ปีเดียวก็เคลียได้แล้ว
    13 พ.ย. 2561 เวลา 02.32 น.
ดูทั้งหมด