ทั่วไป

เสียหาย 8.2แสนล. ล้ม3สาร

Manager Online
เผยแพร่ 22 ต.ค. 2562 เวลา 09.22 น. • MGR Online

ตัวแทนเกษตร 5 ล้านครอบครัว ประกาศความเสียหาย 8.2 แสนล้านบาท ค่าส่วนต่างแรงงานถางหญ้าเกษตรอุตสาหกรรม อีก 1.2 ล้านล้านบาทต่อปี กดดันรัฐรับผิดชอบแบน 3 สาร หลังคำตัดสิน รมว. เกษตร บอกปัดหนีหน้าเกษตรกร

นายสุกรรณ์ สังข์วรรรณะ เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย เปิดเผยว่า หลังจากมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายได้ประกาศแบนสารเคมีกำจัดวัชพืช พาราควอตและไกลโฟเซต ซึ่งเป็นปัจจัยหลักการผลิตสำคัญที่ทำให้เกษตรอุตสาหกรรมของประเทศเจริญเติบโตได้ทุกวันนี้ ภาครัฐจะต้องเตรียมรับมือกับมูลค่าความเสียหายทั้งในแง่รายได้เกษตรกร 2.5 แสนล้านบาท และมูลค่าการส่งออก 5.7 แสนล้านบาท รวมแล้วภาครัฐจะต้องสูญเสียรายได้กว่า 8.2 แสนล้านบาท

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ขณะเดียวกัน ภาคเกษตรกร จำเป็นต้องใช้สิ่งทดแทนที่ไม่ใช้สารเคมี เนื่องจากกังวลด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ขอให้รัฐจ่ายเงินค่าชดเชย ส่วนต่างค่าแรงงาน 1.2 ล้านล้านบาทต่อปี พร้อมหาแรงงานคนมาช่วยถอนหญ้า หากหาไม่ได้ขอให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน และ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ มาถอนหญ้าให้เกษตรกร 60 ล้านไร่ให้เสร็จภายใน 30 วัน รวมทั้งยกเลิกหนี้สินปัจจุบันของครอบครัวเกษตรกรทุกคนที่อยู่ในระบบของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อสร้างหนี้ใหม่กู้เงินมาซื้อเครื่องจักร และรัฐออกค่าใช้จ่ายส่วนต่างของเครื่องจักรทั้งหมดให้เกษตรกรเมื่อเทียบกับค่าสารเคมี พาราควอต

สำหรับมาตรการรองรับการแบน 3 สารดังกล่าว ยังขาดความชัดเจนในหลายด้าน เป็นเพียงนโยบายกระดาษ ขาดความสามารถในการปฏับัติจริง ขอให้หน่วยงานภาครัฐมาทดลองสาธิตให้เห็นเป็นรูปธรรมกับพืชเศรษฐกิจที่กำลังปลูกบนพื้นที่ 500 ไร่ให้เห็นจริง เห็นผลภายการกำจัด หญ้า ภายใน 1 วัน หากทำไม่ได้ก็เป็นเพียงนโยบายน้ำลายขายฝันให้เกษตรกร และขอประกาศให้วันที่ 22 ตุลาคม เป็น วันกลียุคเกษตรกรรมไทย จารึกไว้ให้รุ่นลูกหลานรู้ไว้ถึง เกษตรกรรมไทยล้มสลายด้วยระบบการบริหารเอื้อนายทุนสารเคมีกลุ่มใหม่ ทฤษฏีสมรู้ร่วมคิดระหว่างนักการเมืองและ NGO.

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 23
  • โชค
    ใครจะใช้ก็ใช้ใครกลัวตายก็ไม่ต้องใช้ใคอยากกินปลอดภัยปลูกแดกกันเองง่ายดีน้ำเสียจากโรงงานจากบ้านจัดสรรสะอาดบริสุทธิ์ไมมีสารพิษตกลงในแม่น้ำลำคลองเลยหรือน่าจะจับโยนลงในเหมืองทองที่พิจิตรจังพวก....
    22 ต.ค. 2562 เวลา 14.06 น.
  • ส่วนตัวนี่ก็ลูกชาวนานะคะยังเห็นด้วยกะการแบนสารเคมี เพราะคุณไม่รู้หรอกว่าการสูดดมหรือได้รับสารเหล่านี้เข้าไปทุกๆวันเป็นเดือนเป็นปีไปมันจะลายสุขภาพเราไปทุกวันเรียกง่ายๆคือเราจะตายป่อนส่งนะค่ะเดี๋ยวนี้เครื่องตัดหญ้าก็มีทุ่นแรงในการถอนหญ้าได้ แต่คุณสบายจนเคยชินเมื่อต้องเจอการเปลี่ยนแปลงก็ย่อมไม่ถูกใจเป็นธรรมดา สมัยก่อนในน้ำมีปลาในนามีข้าวแต่เดี๋ยวนี้สัตว์เดี๋ยวนี้แทบจะอยู่ในนาข้าวไม่ได้เพราะเค้าต้องตายเพราะสารเคมี
    22 ต.ค. 2562 เวลา 12.50 น.
  • ครอบครัวผู้เสียชีวิตเพราะสารเคมีพวกนี้โดยตรงเขาเสียหายน้อยกว่า8แสนล้านใช่ป่าววะ..ส่วนตัวแล้วได้พบเจอตัวเป็นๆของผู้ได้รับผลกระทบยันเสียชีวิตเพราะยาฆ่าหญ้าเหล้านี้และได้พาส่งไปรักษาตัวที่รพ.ในต่างจว.มาแล้ว..หมอก็วินิจฉัยว่าเป็นโรคไข้ฉี่หนูซึ่งมาจากสารพิษเคมีพวกนี้โดยตรง(หนูประเทศไหนฉี่มีพิษทำให้คนที่ฉีดยาฆ่าหญ้าตายได้)ไร้สาระ
    22 ต.ค. 2562 เวลา 12.34 น.
  • ธัญญาภรณ์ ขำเย็น ภาค
    ไม่ได้ตายเพราะสาม สารเคมี ผู้บริโภค /จะแบนก็ไม่ร้อน! เพราะไม่ได้ใช้ ไม่มีตางค์ ซื้อ เกษตรกรยากจนเกินกว่าจะซื้อสารเคมี สู้ ถากถางเอาดีกว่า พูดไปยาวเยียดไม่เข้าใจ? คนบางกลุ่ม5555
    22 ต.ค. 2562 เวลา 12.27 น.
  • สมนัก เกิดแพร
    เดี๋ยวมันก็เยียวยาบริษัทยาไอ้พวกคนรวยๆอีกไม่เชื่อคอยดู
    22 ต.ค. 2562 เวลา 12.21 น.
ดูทั้งหมด