แม้ดรามา #ท้องทิพย์ จะปิดฉากลงไปแล้ว
แต่เมื่อย้อนดูคดีดังๆ ในสังคมไทย ก็พบว่าหลายกรณีเกิดจากการ 'โกหก' ที่เริ่มจากการโกหกเรื่องเล็กๆ น้อยๆ กลายเป็นคำโกหกคำโตที่ยากจะหยุด
คดี 'ท้องทิพย์' เกิดจากสองสามีภรรยา 'เตยและนัท' อ้างว่าศพลูกแฝดหายไป มีการสอบถามไปยังโรงพยาบาล ไปจนถึงการสืบเสาะหาความจริง ร้อนถึง 'หนุ่ม กรรชัย' รายการโหนกระแส ยื่นมือเข้าช่วยตรวจหาร่องรอยการตั้งครรภ์ ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ฝ่ายหญิงสารภาพว่าแต่งเรื่องคลอดลูกขึ้นมา เพราะเชื่อว่าตัวเองท้องและแท้งหลังมีเพศสัมพันธ์กับสามี แต่กลัวสามีผิดหวัง และยอมรับว่าโกหกแต่หาทางลงไม่ได้จนเรื่องบานปลาย ปิดฉากที่สามีขอแยกทาง ถูกตำรวจแจ้งขอกล่าวหาแจ้งความเท็จในเบื้องต้น
และไม่เพียง #ท้องทิพย์ แต่ยังมีอีกหลายคดีที่ยังปิดไม่ลงแต่มี 'กลิ่น' ของความโกหกตุๆ อย่างคดีหวย 30 ล้าน หรือคดีน้องชมพู่ที่สังคมพุ่งเป้าไปที่คำถามสำคัญว่า 'ใครกันนะที่โกหก? '
เราขอยก 5 คดี 'จับโป๊ะ' ที่ปิดฉากอย่างสมบูรณ์ไปแล้วให้เป็นบทเรียนจากการหลอกลวงประชาชน ให้ทุกคนได้ตระหนักถึงผลของการกระทำที่อาจตามมาในหลายรูปแบบ เพราะในการโกหกหนึ่งครั้ง ย่อมมีคนที่ได้รับผลกระทบ ทั้งในด้านชื่อเสียง ถูกตัดสินจากสังคม รวมถึงการได้รับโทษทางกฎหมายจริงๆ จาก 'คำโกหก' อยู่ด้วย
1. #มิ้งโป๊ะแตก
ย้อนดูมหากาพย์ #ท้องทิพย์ ที่เคยเกิดขึ้นในไทยมาแล้ว กับกรณี 'มิ้ง ศวภัทร' อดีตแฟนสาวของนักแสดงหนุ่ม 'กัปตัน ชลธร' ที่ออกมาเปิดเผยว่าตั้งท้อง มีการออกมาแถลงข่าวอย่างจริงจัง ซึ่งมิ้งยืนยันว่าตั้งครรภ์จริง ฝ่ายกัปตันก็พร้อมรับผิดชอบและพาไปฝากครรภ์ แต่ฝ่ายหญิงกลับไม่เคยนำหลักฐานออกมาโชว์แต่อย่างใด
งานนี้นักสืบโซเชียลต่างกดดันมิ้งให้ออกมาแสดงหลักฐานอย่างหนัก จนกระทั่งมีแอคเคาท์ลึกลับออกมาแฉว่ามิ้งได้มีการไปขอปัสสาวะของรุ่นน้องที่ท้อง ซึ่งมิ้งก็ออกมาชี้แจงว่าเพื่อนำมาตรวจเปรียบเทียบ แต่ก็กลับมาโพสต์ชี้แจงว่าท้องจริง และแท้งไปแล้ว
สุดท้ายกัปตันยื่นฟ้องมิ้ง ทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง โดยไม่เรียกร้องค่าเสียหาย ทำให้มิ้งยอมสารภาพว่าไม่มีการท้อง และแท้งตั้งแต่แรก พร้อมยอมรับว่าทำไปด้วยความรัก และต้องการให้ฝ่ายชายกลับมาคืนดีเท่านั้น
อ่านเพิ่มเติม : ไทม์ไลน์ 'มิ้งโป๊ะแตก'
2.คดีร่อนทองพิศวง
หลังเป็นข่าวฮือฮาไปเมื่อต้นปี ว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งพบทองในลำห้วยที่อำเภอหนึ่งในจังหวัดราชบุรี เมื่อนำไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นทองคำแท้
ปรากฏการณ์แห่ร่อนทองจึงเกิดขึ้น เมื่อชาวบ้านนำอุปกรณ์ไปร่อนทองในลำห้วยดังกล่าว จนนายอำเภอต้องสั่งปิดพื้นที่ เนื่องจากกังวลว่าจะเกิดการแพร่เชื้อโควิด-19 แต่ภายหลังกลับกลายเป็นเรื่องโอละพ่อ! เมื่อ 'ครูหนุ่ม' ผู้เจอทองคนแรก ออกมายอมรับว่าตนเป็นคนกุเรื่องทั้งหมดขึ้นมา โดยทองที่นำมาโชว์เป็นทองที่หามาได้จริงๆ ในคลองชลประทานดอนแจง แล้วจึงโพสต์ภาพลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ต่อมาเมื่อเป็นข่าวทำให้มีชาวบ้านหลายคนตามไปร่อนทอง ส่วนกรณีที่มีชาวบ้านเจอทองและพระเครื่อง ครูหนุ่มยอมรับว่าตนเป็นคนนำพระเครื่องไปโยนไว้จริงๆ เพียงหวังว่าชาวบ้านจะดีใจ พร้อมแฉว่ามีคนอ้างว่าเป็นผู้สื่อข่าวติดต่อมาให้สร้างเรื่องต่อ และหลอกว่าจะพาไปออกรายการ ซึ่งสุดท้ายตนถูกโกงค่าตัวไป 1 หมื่นบาท จึงตัดสินใจออกมายอมรับผิดในที่สุด
สุดท้ายนายอำเภอเมืองราชบุรีได้ประสานเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนทิ้งท้ายว่าหากมีผู้ร้องทุกข์ก็จะต้องดำเนินคดี จะได้ไม่มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก
อ่านเพิ่มเติม : งามไส้! หนุ่มร่อนทองในลำห้วย ยอมรับกุเรื่องอยากดัง
3. คดีสะเทือนขวัญจาก 'แม่เลี้ยงเดี่ยว'
เรื่องราวของ 'แม่ปุ๊ก' แม่เลี้ยงเดี่ยวของ 'น้องอมยิ้ม-น้องอิ่มบุญ' ที่โด่งดังในโลกออนไลน์ หลังสร้างเรื่องว่าน้องอมยิ้มป่วยเป็นโรคประหลาดหายาก มีโอกาสเกิดแค่ 1 ในล้าน จึงมีการเปิดรับบริจาคและขายสินค้า เพื่อนำเงินไปรักษาลูก
ระหว่างนั้นแม่ปุ๊กทั้งแชร์อาการป่วย ไลฟ์สดขณะน้องอมยิ้มมีอาการทรุด ซึ่งชาวเน็ตต่างก็เข้ามาแสดงความสงสาร และชื่นชมความเข้มแข็งของเด็กหญิง ทำให้ยอดบริจาคพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาชาวเน็ตเกิดสงสัยในพฤติกรรมของแม่ปุ๊ก หลังจากน้องอมยิ้มเสียชีวิต อาการป่วยคล้ายๆ กับน้องอมยิ้มคืออาเจียนเป็นเลือด หน้าบวม ฯลฯ ก็เกิดขึ้นกับน้องอิ่มบุญอีกคน ซึ่งในภายหลังคณะแพทย์ผู้ทำการรักษาได้ตรวจพบการอักเสบของเยื่อบุกระเพาะ ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลของแม่ปุ๊ก จึงได้เข้าแจ้งความ ประกอบกับชาวเน็ตที่บริจาคและอุดหนุนแม่ปุ๊กกลับไม่ได้ของตามตกลง ทั้งยังพบข้อมูลว่าน้องอมยิ้มไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่รับมาอุปการะตั้งแต่ยังเล็ก
ท้ายที่สุดตำรวจได้จับกุมแม่ปุ๊ก ในข้อหาพยายามฆ่า ฉ้อโกงผู้อื่น และรับไว้ซึ่งเด็กโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อแสวงผลประโยชน์โดยมิชอบ นับเป็นคดีสะเทือนขวัญอีกหนึ่งคดีที่เกิดจากการโกหกหลอกลวง ทำให้ชีวิตของเด็กผู้บริสุทธิ์ตกอยู่ในอันตราย
อ่านเพิ่มเติม : เปิดเบื้องหลัง 'แม่ปุ๊ก' หากินบนความใจบุญ
4. มหากาพย์ 'ผู้จัดการดารา'
อีกหนึ่งมหากาพย์ความโป๊ะสุดร้อนแรงของวงการบันเทิงไทย เมื่อ นักแสดงสาว 'จั๊กจั่น อคัมย์สิริ' ที่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับแฟนหนุ่ม 'เค วัฒนา' ถูกโยงข่าวเป็นดาราสาวแฟนมีโลกสองใบ ซึ่งทั้งคู่ออกมาแก้ข่าวว่าไม่เป็นความจริง ข่าวนี้ชาวเน็ตให้ความสนใจและจับตามองเป็นจำนวนมาก เพราะมีปมเล็กปมน้อยหลายประเด็น มีทั้งรูป 'ตาล' สาวที่ถูกอ้างตัวว่าเป็นโลกใบที่สอง ที่สุดท้ายกลายเป็น 'อั้ม นันทิยา' นักร้องลูกทุ่งท่านหนึ่ง รวมถึงคำให้การจากเพื่อนดาราถึงพิรุธของ 'อาบี' ผู้จัดการส่วนตัวของจั๊กจั่น
บทสรุปคือ 'อาบี' อดีตผู้จัดการ ออกมายอมรับผิดว่าเป็นเจ้ากรมข่าวลือเอง และทำไปด้วยความหวังดีเท่านั้น
อ่านเพิ่มเติม : จากใจ อาบีอดีตผู้จัดการจั๊กจั่น อ้างเพราะห่วงมากเกินไป ขอโทษยาวเป็นหางว่าว
5. คดีพลเมืองดีที่น่าสงสัย
เหตุการณ์จับโป๊ะที่นับเป็นตำนาน เพราะเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2540 เริ่มจาก 'วิโรจน์' รปภ. ประจำสนามบินโทรเข้ามาเล่าเรื่องแสนประทับใจในรายการ 'ร่วมด้วยช่วยกัน' ว่าพบแท็กซี่พลเมืองดี นำเงินกว่า 19 ล้านบาทคืนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งเจ้าหน้าที่รายการก็ได้ประกาศตามหาพลเมืองดีรายนี้ทันที
ในเวลาเดียวกัน 'สมพงษ์ เลือดทหาร' คนขับแท็กซี่ที่เปิดฟังรายการอยู่ก็โทรเข้ามาในรายการ พร้อมแนะนำตัวว่าตนเองคือพลเมืองดีคนดังกล่าว ก่อนเล่าว่าพบกระเป๋าเงินของชาวต่างชาติที่ชื่อ 'มิสเตอร์จอห์น' บนเบาะรถของตน และเมื่อนำไปคืน เจ้าของกระเป๋าก็กอดเขาด้วยความดีใจ สร้างความประทับใจให้ผู้คนบริเวณโดยรอบเป็นอย่างมาก หลายคนรู้สึกว่านายสมพงษ์สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ มีการมอบเงินสดและโล่เชิดชูเกียรติ รายการทีวีต่างรุมทำข่าวยกย่องในวีรกรรมครั้งนี้
แต่ความพิรุธอยู่ที่วีรกรรมของนายสมพงษ์ กลับไม่มีพยานยืนยันได้สักคนเดียว เมื่อมีการตรวจสอบ จึงพบว่ารปภ.ที่ชื่อวิโรจน์นั้นไม่มีตัวตน ส่วนมิสเตอร์จอห์น ชาวฝรั่งเศส ก็ไม่ปรากฎในรายชื่อผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศในวันนั้น เมื่อตรวจกล้องวงจรปิดก็ไม่เจอฉากประทับใจที่นายสมพงษ์เล่า จึงมีการพิสูจน์เสียงทางโทรศัพท์ และพบว่า 'รปภ.วิโรจน์' และ 'นายสมพงษ์' คือคนคนเดียวกัน แต่ใช่วิธีพูดโดยการปิดจมูกไว้ข้างหนึ่ง!
สมพงษ์ถูกพิพากษาจำคุก 1 ปี 2 เดือน เจ้าตัวสารภาพว่าทำลงไปเพราะความคึกคะนอง ปัจจุบันสมพงษ์มีชีวิตใหม่ที่เรียบง่าย และมีอาชีพร้องเพลงในนาม 'พลพิมพ์ ฉิมมะวัล' ที่ครูเพลงของเขาตั้งให้เพราะตัวเขามีหน้าตาละม้ายคล้าย 'ทศพล หิมพานต์'
อ่านเพิ่มเติม : ย้อน 21 ปี 'สมพงษ์ เลือดทหาร' ต้นตำนานฮีโร่ผู้ลวงโลก
จะโกหกหรือกุข่าว ก็ไม่ควรหาทำ!
การโกหกหลอกลวงล้วนมีโทษ ทั้งทางสังคมและทางกฎหมาย ยิ่งในปัจจุบันที่มีอินเทอร์เน็ตและ 'โซเชียลมีเดีย' ที่สามารถบันทึกการกระทำอันขาดความยั้งคิดเอาไว้ในโลกออนไลน์ไว้ได้ไปตลอดกาล โดยเฉพาะเมื่อเป็นกรณีที่มีการหลอกลวงทรัพย์สินมาข้องเกี่ยว เช่น คดีของนายสมพงษ์ ที่ได้รับเงินรางวัลจากหน่วยงานต่างๆ มาด้วย เจ้าตัวจึงได้รับโทษด้วยการจำคุกในที่สุด
ส่วนกรณี #ท้องทิพย์ ก็ชัดเจนว่าผู้ต้องหามีความผิดฐานแจ้งความเท็จ ซึ่งมีโทษทั้งจำทั้งปรับ และหากมีการโพสต์ข้อความลงบนโซเชียลมีเดีย ก็อาจมีความผิดตาม พรบ.คอมฯ อีกหนึ่งกระทง
เพราะความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น การไม่ 'โกหก' และปฏิบัติตนอย่างจริงใจในทุกสถานการณ์ จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนพึงกระทำที่สุด :)
อ้างอิง
พัช ยังขาด พ่อค้าหวยแสนดี เก็บล้อตเตอรี่ รางวัลที่1(ทิพย์) ให้ลูกค้า(ทิพย์) จนโด่งดัง ขายดิยขายดั🤣
27 พ.ค. 2564 เวลา 01.38 น.
New@LA เคสที่ ผญ. ท้องแล้วผัวยิงตัวตายวันแต่งงาน เคสนั้นก็โป๊ะแตกนะ
27 พ.ค. 2564 เวลา 01.16 น.
~°s°~°S°~°s°~ จนทิพย์ ท้องทิพย์....เมื่อไรจะอิ่มทิพย์
27 พ.ค. 2564 เวลา 01.57 น.
Kenny2 5 ึึคดีนี้....คนต้นเรื่อง ร้ายๆทุกคน
ร้ายรุ่น "อะไรก็ทำได้" แล้วมั้งครับ555
26 พ.ค. 2564 เวลา 20.18 น.
Pokky ยุค สมพงษ์ เลือดทหาร โด่งดังมาก จนคนทั่วไปใช้เรียกคนจำพวกโกหก หลอกลวง กันทั้งบ้านทั้งเมือง ผลกรรมที่ตามมาถาโถมใส่ครอบครัวจนไม่มีที่ยืน
27 พ.ค. 2564 เวลา 01.40 น.
ดูทั้งหมด